มติสหประชาชาติ 143 ประเทศ ประณาม "รัสเซีย" ผนวก 4 แคว้นของยูเครน "ไทย" งดออกเสียง

13 ต.ค. 2565  นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริก  การประชุมใหญ่สมัชชาแห่งสหประชาชาติที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา มีประเทศเข้าร่วมประชุม 193 ประเทศ ได้มีการลงมติในญัติติประณามการกระทำของประเทศรัสเซีย ทีระบุว่า ความพยายามของรัสเซียในการผนกดินแดน 4 แคว้นของยูเครน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยมี 143 ประเทศที่เห็นด้วยกับมติ  และอีก 4 ประเทศค้านมติ คือ ซีเรีย นิการากัว เกาหลีเหนือ และเบลารุส  ในขณะที่มี 35 ประเทศงดออกเสียง ซึ่งรวมถึงประเทศจีน ที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซียมาตลอดในเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซีย รวมถึงอินเดีย ลาว ปากีสถาน เวียดนาม ศรีลังกา ซูดาน มองโกเลีย ทาจิกิสถาน และประเทศแถบแอฟริกาอีกหลายประเทศ ในจำนวนรวมประเทศไทยด้วยที่งดออกเสียง  ขณะที่ชาติอาเซียนอื่น ๆ ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน ติมอ เลสเต เห็นด้วยกับมติ

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาทางเฟชบุ้กของกระทรวงต่างประเทศไทย ได้เผยแพร่ถ้อยแถลงของนายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ต่อการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 11 ถึงการลงมติงดออกเสียงต่อกรณียูเครนว่า "ประเทศไทยเลือกงดออกเสียง เนื่องจากว่า มติดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบรรยากาศที่มีความอ่อนไหวและกำลังมีสถานการณ์ที่ผันผวนและปะทุขึ้นมาได้" และข้อความบางส่วนว่า "ประเทศไทยโศกเศร้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับยูเครน ทั้งทางกายภาพ สังคม มนุษยธรรมที่ถูกทำลาย รวมทั้งความยากลำบากแสนสาหัสที่ชาวยูเครนประสบ จึงเน้นย้ำความจำเป็นที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายในโศกนาฏกรรมนี้ ร่วมกันลดความขัดแย้งและความรุนแรง และพยายามหาวิธีการที่สันติท่ามกลางความแตกต่าง"

นายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวถึงการลงมติครั้งนี้ “ขับเคลื่อนด้วยการเมืองและเป็นการคุกคามอย่างโจ่งแจ้ง” อีกทั้ง “อาจทำลายความพยายามทางการทูตเพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์ครั้งนี้” ส่วนนายเกิ่ง ส่วง อัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า จีนงดออกเสียงเนื่องจาก การหยั่งเสียงครั้งนี้ “ไม่มีประโยชน์”