ครูหนุ่มทำอนาจารนักเรียน ขี่จยย.หายจากโรงเรียน-ก่อนหน้าเคยกระทำกับนร.ในโรงเรียนจังหวัดตรังด้วย

ครูทำอนาจารนักเรียนชาย

ครูหนุ่มทำอนาจารนักเรียน ขี่จยย.หายจากโรงเรียน-ก่อนหน้าเคยกระทำกับนร.ในโรงเรียนจังหวัดตรังด้วย





ad1

14 ม.ค. 2566 จว.พัทลุง  กรณีเด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนนิคมควนขนุนวิทยา หรือ นิคมลานข่อย ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เข้าร้องขอความช่วยเหลือ หลังครูชาย วัย 33 ปี ชอบอมไข่เด็ก หรือ อมนกเขา เพื่อรีดกินน้ำ กว่า 20 ราย ซึ่งมีตั้งแต่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1-3 เข้าร้องต่อ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง แล้วประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าช่วยเหลือ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลในคดีหลังจากที่ ผู้ปกครองระบุจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ตามข่าวที่มีการเสนอมาแล้วนั้น

เมื่อช่วงสายวันที่ 13 ม.ค. 2566 ด้าน พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้เดินทางไปยัง สภ.ป่าพะยอม และร่วมกับ จนท.สหวิชาชีพ จนท.สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมสอบสวนเด็กในเบื้องต้น หลังจากนั้นได้เผยว่า ในเบื้องต้นมีกลุ่มผู้เสียหายในคดีดังกล่าวรวม 5 คน และจะเร่งสอบปากคำผู้เสียหายให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เด็ก ผู้ปกครอง จากการสอบปากคำเด็กให้การตรงกันว่าครูแดง (นามสมมติ) เป็นคนล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ให้ความสำคัญโดยสั่งให้พนักงานสอบสวนเร่งหาพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับครูคนดังกล่าว เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม ได้กำชับ ดูแลพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของพยานหลักฐานในคดีนี้มีแล้วทั้งการแซตกันในโทรศัพท์ และเฟซบุ๊ก

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนพบเด็กนักเรียนหลายคนต่างบอกว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง ขณะที่ครูหลายคนบอกเพิ่งทราบเรื่อง แต่ยังไม่ได้พบผู้อำนวยการโรงเรียน และทราบว่าครูคนดังกล่าวขี่รถจักรยายนต์ออกจากโรงเรียนแล้วหายตัวไป ไม่ทราบว่าออกไปไหน

เรื่องนี้ยังไม่จบ เพราะมีผู้เสียหายข้ามจังหวัดที่ จ.ตรัง สืบไปสืบมาพบว่าเกิดก่อนที่พัทลุง โดยนักเรียนชาย 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ติดต่อให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่ ครูคนดังกล่าวเคยมาสอนดนตรีในฐานะรุ่นพี่ที่เคยเรียนที่นี่ และเคยเป็นนักดนตรีของโรงเรียน ครูดนตรีจึงอนุญาตให้เข้ามาสอนดนตรีให้น้องๆ เมื่อปี 2562 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยกระทำอนาจารลักษณะเดียวกัน โดยการหลอกให้นักเรียนชั้น ม.1 มานอนห้องซ้อมดนตรีที่โรงเรียน อ้างว่าจะสอนและติวเทคนิคการเล่นดนตรี ก่อนถูกครูทำอนาจาร 3 คน และขู่ห้ามบอกใคร และยังทำซ้ำอีก จนนักเรียนกลัว นอกจากนี้ยังหลอกนักเรียนอีก 3 คน มานอนโรงเรียนเพื่อจะได้ตื่นเช้าไปเล่นวงโยธวาทิต ก่อนนอนจะเล่าเรื่องผีให้เด็กฟังจนเด็กกลัว ออกอุบายให้เด็กมานวดและทำอนาจาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าครูคนดังกล่าวเป็นลูกชายของอดีตกำนันใน จ.ตรัง ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่และน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่นักเรียนไม่กล้าออกมาเปิดเผย