รู้ตัวแล้ว ! ตำรวจท่องเที่ยวและจราจรกลางที่นำขบวนนักท่องเที่ยวจีน

รู้ตัวแล้ว ! ตำรวจท่องเที่ยวและจราจรกลางที่นำขบวนนักท่องเที่ยวจีน หลังนักท่องเที่ยวโพสต์ จ้างตำรวจพาลัดเข้าด่าน ตม.ในสนามบิน ถึง 7 พันบาท ไม่ต้องรอคิว พร้อมมีรถรับส่ง ด้าน ผบ.ตร.สั่งตั้ง กก.สอบ กำชับตำรวจทั่วประเทศไม่ให้เกิดขึ้นอีก หากฝ่าฝืนฟันวินัยทันที

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้า กรณีนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้โพสต์คลิปวิดีโอในโชเซียลมีเดีย ขณะที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ได้มาเที่ยวพัทยา ที่ประเทศไทย และได้ทำการติดต่อจองรถรับส่ง แล้วคนติดต่อด้วยนั้นสอบถามเธอว่าต้องการให้ตำรวจนำขบวนให้หรือไม่ โดยจะมารับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไปส่งถึงพัทยาแบบ VVIP โดยมีคนแต่งกายคล้ายตำรวจ และมอไซต์นำขบวนด้วย ถ้าเป็นรถเก๋งนำขบวนราคาอยู่ที่ 7,000 บาท และรถจักรยานยนต์ตำรวจนำขบวนราคาอยู่ที่ 6,000 บาท โดยจะมีคนไปรับถึงเกทในสนามบิน แถมยังลัดคิวตรวจคนเข้าเมือง รวดเร็วภายใน 5 นาที ไม่ต้องเสียเวลาลัดคิว

ล่าสุด พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้าว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการด่วนให้จเรตำรวจตรวจสอบ เบื้องต้นมีการพิสูจน์ทราบแล้วว่า บุคคลที่ปรากฎในคลิปเป็นตำรวจจริง 3 นาย เป็นตำรวจท่องเที่ยว 1 ราย คือ ร.ต.อ. สมพล ภิญโญสโมสร ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ตำรวจ บก.จร.2 นาย คือ ส.ต.อ.ธนกร นุกูลธนกิจ และ ส.ต.อ.ธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ

ส่วนของตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต. ม.ล. สันธิกร วรวรรณ ผู้บังคับกองบังคับการท่องเที่ยว 1 ได้สั่งการให้ผู้กำกับการ 3 ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสั่งการแล้วตามหนังสือ บก.ทท.1 เลขที่ 0038.201/255 ลง 21 ม.ค.2566

สำหรับ ตำรวจ บก.จร. ทั้ง 2 นาย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการออกคำสั่งตั้งสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับ ออกคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.จร. และสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ผกก., รอง ผกก. และ สว. ที่ควบคุมกำกับตำรวจ2 รายนี้ด้วย

โฆษก ตร. ย้ำว่า “ผบ.ตร.ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก สั่งการให้ตรวจสอบทุกประเด็น ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ใครสั่งการ ประสานงาน มีอำนาจหน้าที่แค่ไหนอย่างไร พร้อมประเด็นรถที่ใช้ในการนำขบวน มีการนำรถหลวง รถทางราชการ มาใช้ส่วนตัวหรือไม่ พร้อมตรวจสอบรถยนต์ที่ปรากฎในคลิปทุกคันที่เกี่ยวข้อง และให้ตรวจสอบย้อนหลังไปว่าเคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ทำเป็นขบวนการหรือไม่ ต้องตรวจสอบทุกข้อสงสัยของสังคม ให้เกิดความกระจ่างโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้จเรดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด และสั่งการกำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายทุกสังกัดห้ามปฏิบัติไปในลักษณะดังกล่าวอีก มิเช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดทุกราย”.