ปราจีนฯ วางพวงมาลา ถวายราชสักการะเนื่องในวันปิยมหาราช (มีคลิป)

ปราจีนฯ วางพวงมาลา ถวายราชสักการะเนื่องในวันปิยมหาราช (มีคลิป)





ad1

ปราจีนบุรี -  ปราจีนฯ วางพวงมาลา ถวายราชสักการะเนื่องในวันปิยมหาราช  พร้อมเปิดตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โบราณอายุกว่า 113ปี รับนักท่องเที่ยวขานรับนโยบายรัฐบาล    ชมสถาปัตยกรรมสุดวิจิตรสมัยรัชกาลที่ 5ซึ่งสร้างจากความจงรักภักดีของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในวโรกาสที่เสด็จประพาสเมืองปราจีนบุรี  

วันนี้ (23 ตุลาคม 2564) ที่ บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานพิธี วางพวงมาลา ถวายราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 5) เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม 2564 พร้อมด้วยนายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นางมัทนา สุวัณณุสส์ นายกเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการ อัยการ ศาล ทหาร ตำรวจ และข้าราชการจังหวัดปราจีนบุรีทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมพิธี

 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์หนึ่งที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อปวงชนชาวไทย ด้วยพระปรีชาสามารถ ทั้งด้านการปกครอง การบริหารราชการแผ่นดิน การศึกษา การสาธารณสุข ตลอดจนสาธารณูปการต่างๆ 

ทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้า พสกนิกรชาวไทยได้น้อมถวายพระราชสมัญญาว่า “พระปิยมหาราช” ซึ่งมีความหมายว่า มหาราชผู้ทรงเป็นที่รักของปวงชน และทางราชการได้กำหนดให้วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวัน “ปิยมหาราช” เพื่อให้ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงพัฒนาและปกป้องพสกนิกรชาวไทยไม่ให้ตกเป็นเมืองขึ้นของชาติใด ๆ ประเทศไทยจึงมีเอกราชมาถึงทุกวันนี้


ต่อมาเวลา 10.30 น.  ทาง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ได้เปิดงาน Pre-Opening ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ครบรอบ 113 ปี เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าชมอาคาร     ส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาล    ภายหลังการบูรณะฟื้นฟูใหม่ ฯลฯ ณ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี 

สำหรับ  ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างตึกหลังนี้   เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปยุคแรกของไทย    ซึ่งสร้างจากความจงรักภักดีของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในวโรกาสที่เสด็จประพาสเมืองปราจีนบุรี สำหรับใช้เป็นที่ประทับแรม     ดังนั้น    จ.ปราจีนบุรี    จึงได้จัดงานเปิดตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรอีกครั้งในวันปิยมหาราช    เพื่อรำลึกถึงพระคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  และแบบอย่างแห่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของพสกนิกรชาวปราจีนบุรี

โดยกิจกรรมนี้    เป็นการขานรับนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล    โดยเริ่มจากโมเดลเล็ก ๆ ในระดับพื้นที่ โดยใช้แนวคิด edutainment    ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการดำเนินงานด้านสมุนไพรของโรงพยาบาล    ที่ว่ามาอภัยภูเบศร ต้องได้ทั้งความรู้ ประสบการณ์และความรื่นรมย์กลับไป     ในงานวันที่ 23 นี้       นอกเหนือจากการชมสถาปัตยกรรม     ยังมีบริการนวดไทยอภัยภูเบศร  และ   ครัวมาชิมกัญ      รวมทั้งตลาดนัดกัญชา กระท่อมและสมุนไพร    ที่จะนำมาประยุกต์ในการดูแลสุขภาพของประชาชนในยุคที่เราต้องการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงด้วยพืชผักสมุนไพร

รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ขานรับนโยบายเปิดประเทศ เราจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564 และจะทำการปิดเพื่อเซตระบบพิพิธภัณฑ์เต็มรูปแบบเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย และจะนำร้านยาไทยโพธิ์เงินมาให้บริการประชาชน เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต มีการใช้งานจริง เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดปราจีนบุรี อันทรงคุณค่า ที่ใครก็ต้องมา รวมทั้งยังมีความพร้อมที่จะเป็น Soft power วัฒนธรรมไทย ให้สมกับที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าประเทศไทย เป็นเมืองมรดกทางวัฒนธรรมอันดับต้น ๆ ของโลก  

และ ในช่วงค่ำวานนี้ (22 ตุลาคม 2564) โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้จัดกิจกรรม Pre-Opening โดยเชิญแขกผู้มีเกียรติ ซึ่งมีคุณูปการต่อโรงพยาบาล อาทิ ผู้ว่าและอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาคมท่องเที่ยว กรมศิลปากร ฯลฯ      

อนึ่ง    จ.ปราจีนบุรี   ได้มีพระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5  เสด็จประพาสมณฑลปราจีน เมื่อ ร.ศ. 127 ( พ.ศ.2541 )  พระราชทานแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร (พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) จำนวน 2 ฉบับ   

 ฉบับแรก เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ร.ศ. 127 ณ พลับพลา ศรีมหาโพธิ    ทรงเล่าการเดินทางตั้งแต่วันที่ 14-17 ธันวาคม ร.ศ. 127 เริ่มจากคลองรังสิต คลองบาง ปลากด ลำน้ำนครนายก เมืองปราจีน ตำบลศรีมหาโพธิ 

ฉบับที่สอง เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ร.ศ. 127 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ทรงเล่าการเดินทางตั้งแต่วันที่ 18-24 ธันวาคม ร.ศ. 127 โดยทรงช้าง ที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรจัดให้ เสด็จประพาสดงศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นแหล่งค้นพบเทวสถานและเชิงเทิน เมืองปราจีน จากนั้นทรงล่องเรือกลับมาทางคลองบางขนาก ปากน้ำเจ้าโล้ คลองประเวศบุรีรมย์ อ่าว บางปะกง เมืองชล และพระสมุทรเจดีย์

อันเป็นการประพาสต้น จ.ปราจีนบุรี เสด็จมาพักครั้งแรกที่ วัดบางกระเบา อ.บ้านสร้าง จากนั้น พักประทับแรมที่วัดแก้วพิจิตร อ.เมืองปราจีนบุรี       ก่อนที่จะทรงเสด็จทรงเสด็จพระพาสต้น แม่น้ำปราจีนบุรี มานมัสการดงพระศรีมหาโพธิ์   ขึ้นท่าน้ำที่ท่าประชุม (วัดใหม่กรงทอง)    มาทอดพระเนตรโบราณสถานหลุมเมือง    (ตรงข้ามอนุเสาวรีย๋โบราณลายพระหัตถ์)  จากนั้นทรงเสด็จลงพระปรมาภิไธย จปร.127 ที่แท่นศิลาอนุสาวรีย์โบราณลายพระหัตถ์ปัจจุบัน ทรงลงพระปรมาภิไธยว่า “จปร.127”   ที่พระแท่นศิลา ที่ปัจจุบันประดิษฐานไว้ภายในอนุสาวรีย์ลายพระหัตถ์ อ.ศรีมหาโพธิ