สามก๊กฉบับ อ.สมชัย ศรีฯ : เมื่อสุมาป้อม แนะโจตู่ จุดตะเกียง 9 ดวงเพื่อสืบชะตา

เมื่อสุมาป้อม แนะโจตู่ จุดตะเกียง 9 ดวงเพื่อสืบชะตา

สามก๊กฉบับ อ.สมชัย ศรีฯ : เมื่อสุมาป้อม แนะโจตู่ จุดตะเกียง 9 ดวงเพื่อสืบชะตา





ad1

ตะเกียง 9 ดวงถูกจุดขึ้นในพิธีสืบชะตามหาอุปราช ตามคำแนะนำของสุมาป้อมท่ามกลางเมฆฝนที่ตั้งเค้ามาแต่ไกล
“ดูจากดวงดาวประจำตัวท่านหม่นหมองนัก มีแต่พิธีจุดตะเกียงสืบชะตาเท่านั้นที่ช่วยคลี่คลายในทางที่ดี” สุมาป้อมกล่าวด้วยสีหน้าจริงใจ
“เราเอง รับราชการโดยซื่อสัตย์ ผ่านไปถึง 8 ฤดูฝน เหตุใดภัยเคราะห์ยังประสบแก่ตัวอีก” โจตู่ทดท้อนัก
“คนคำนวณ มิสู้ฟ้าลิขิต จะหารร้อยหรือหารห้าร้อย คำนวณคู่ขนาน หรือคำนวณจัดสรรปันส่วนผสม หากฟ้าลิขิตให้พ่ายแพ้ อย่างไรก็ยากฝืน” คำคมอีกชุดจากสุมาป้อม
“ทุกแผนการที่วาง ทุกกลกับดักต่าง ๆ ที่ให้หวังให้จ๊กก๊กต้องแพ้พ่าย บัดนี้ใยกลับมาทิ่มแทงเราเอง” มหาอุปราชดูเคียดแค้นยิ่ง
“เรานั้น ถึงกับไหว้วานให้ซือแป๋หมี่ฉั้ยเขียนกติกาบ้านเมืองเพื่อเรา มี 250 ผู้อาวุโสคอยค้ำจุนพิทักษ์กฎ ลงแผนแปลงเมืองต่อเนื่อง 20 ปีให้วุ่ยก๊กรุ่งโรจน์ เหล่าขุนทหารเราล้วนเอาใจ ปรารถนาเรือให้เรือ จะเรือเหาะหรือเรือดำน้ำเรามิได้ขัดขวาง ขอเพียงอยู่ต่ออีกไม่กี่ปี กลับติดด้วยถ้อยคำที่เขียนไว้เพื่อกีดกันคนอื่น” โจตู่มาเป็นชุด
“เรื่องผ่านมาโปรดอย่าใส่ใจ มหาอุปราชจงเร่งหาทางคลี่คลายอนาคต” สุมาป้อมลูบเครา พลางชี้ทาง
“ท่านมีสิ่งใดชี้แนะ รบกวนท่านแม่ทัพโปรดแนะนำ” มหาอุปราชถึงมุมอับแล้ว
“จงจุดตะเกียง 9 ดวง วางไว้ในที่โล่งแจ้ง ให้ทหารเฝ้าเวรยามรักษามิให้ตะเกียงดับ หากผ่านพ้นคืนยี่จับสี่ เดือนแปด เคราะห์กรรมร้ายจักบรรเทาเบาบาง” สุมาป้อมกล่าวด้วยวาจาเคร่งขรึม
………….
“นายท่าน นายท่าน เกิดเหตุการณ์ใหญ่” ทหารรับใช้กระหืดกระหอบวิ่งเข้าจวนมหาอุปราช
“เรื่องราวน่าตระหนก” มหาอุปราชยังงัวเงียจากหลับตอนบ่าย
“ไฟในตะเกียงจำนวนหนึ่งดับไป” ทหารรับใช้รายงาน
“ด้วยท่านแม่ทัพสั่งการสุดแปลกประหลาด ให้จุดตะเกียงท่ามกลางลมฝน เหล่าข้าน้อยจึงสุดปัญญาจะรักษา”
“เสียหายเพียงไร ดับกี่ดวง เหลือกี่ดวง” มหาอุปราชแผดเสียงอันดัง
“ทั้งหมด 9 ดวง ดับ 5 ดวง อีก 4 ดวงริบหรี่”