ไรเดอร์อ้างฐานะยากจน ไม่จ่ายเยียวยานักศึกษาสาวที่ถูกชน

นักศึกษาสาวปี 2 ร้องสายไหมต้องรอด ถูกไรเดอร์ชนคาทางม้าลาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้วยังต้องใช้ไม้เท้าพยุงเดิน ขณะที่คดียังไม่คืบ ไม่ได้รับเงินเยียวยาใดใด ฝั่งคู่กรณีอ้างฐานะยากจนไม่มีเงินจ่ายเยียวยา หวังกระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือเร่งรัดคดี
.
วันที่ 25 ต.ค. 65 ทีมงานสายไหมต้องรอดพา น.ส. นิพาดา อายุ 20 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปี 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เข้าร้องเรียน กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความช่วยเหลือเยียวยาในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญา รวมถึงขอให้กระทรวงยุติธรรมประสานเรื่องความคืบหน้าทางคดี หลัง น.ส.นิพาดา ถูกนายพงษ์พัฒน์ อายุ 29 ปี อาชีพไรเดอร์ ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งมาชนอย่างจัง จนร่างกระเด็นได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายด้านข้างมหาวิทยาลัยฯ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา
.
น.ส.นิพาดา เล่าว่าในวันที่เกิดเหตุตนเองกำลังเดินข้ามทางม้าลาย ด้านหลังมหาวิทยาลัยฯ โดนก่อนจะข้าม ได้กดสัญญาณไฟคนข้ามทางม้าลาย พร้อมกับมองซ้ายขวาก่อนแล้ว กระทั่งสัญญาณให้เดินข้ามได้ เห็นว่ามีรถยนต์สีขาวขับมาแล้วจอด จึงตัดสินใจเดินข้าม
.
แต่ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ของไรเดอร์ที่ขี่มาอย่างเร็วนั้น พุ่งชนตนเองจนสลบไป รู้ตัวอีกทีคืออยู่ที่โรงพยาบาล โดยได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณขาซ้ายต้องใช้เหล็กดาม และต้องมีไม้เท้าช่วยพยุง และมีบาดแผลที่ศีรษะ เย็บ 7 เข็ม
.
หลังเกิดเหตุได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ราษฎรบูรณะ แต่จนขณะนี้ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดีแต่อย่างใด ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้น เบื้องต้นใช้สิทธิ์ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ แต่ก็เกินวงเงิน จึงได้ย้ายโรงพยาบาลไปยังสิทธิบัตรทอง ซึ่งการรักษายังคงต้องดำเนินการไป ทำให้ครอบครัวตัวเองต้องออกใช้ค่าใช้จ่ายเป็นเงินเกือบ 5 หมื่นบาท ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวต้องเซ็นรับสภาพหนี้กับโรงพยาบาล ส่วนฝั่งคู่กรณีนั้น ไม่ได้มีการเยียวยาแต่อย่างใด
.
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้พนักงานสอบสวน สน.ในท้องที่ คือ สน.ราษฎร์บูรณะ เร่งสรุปสำนวน และส่งฟ้อง สำหรับเคสนี้ คู่กรณียังไม่ได้มีการเยียวยาผู้เสียหาย โดยอ้างเพียงว่า มีฐานะยากจน ซึ่งตนมองว่า เรื่องความยากดีมีจน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของความรับผิดชอบ เรื่องเกิดขึ้นแล้ว อย่างน้องต้องมาแสดงความรับผิดชอบ ตนอยากจะฝากไปถึงคู่กรณีด้วยว่า เวลาขึ้นศาลถ้าไม่ได้มีการเยียวยาผู้เสียหาย และไปอ้างแบบนี้กับศาล ศาลไม่เมตตา และอาจจะมีโอกาสต้องจำคุกจริง ดังนั้นในขณะนี้ที่ยังมีเวลาก็ควรที่จะมาดูแลเยียวยาผู้เสียหายก่อน
.
ขณะที่ น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม (ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม) ยืนยัน ทางกระทรวงยุติธรรม จะให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลจริง เป็นเงินจำนวน 4 หมื่นบาท รวมถึงเงินชดเชยเยียวยาจากการขาดรายได้ในแต่ละวันที่ผู้เสียหายเป็นติวเตอร์สอนหนังสือวันละ 500 บาทด้วย ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งว่าน้องจะต้องรักษาตัวประมาณ 1 ปี พร้อมจะเร่งรัดกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ติดตามสำนวนคดี เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความยุติธรรม