ตำรวจท่องเที่ยวรวบแม่เล้ายุคไซเบอร์ส่งเด็กสาวค้ากาม

ตำรวจท่องเที่ยวรวบแม่เล้ายุคไซเบอร์ส่งเด็กสาวค้ากาม





ad1

ขอนแก่น-ตำรวจท่องเที่ยว รวบแม่เล้ายุคไซเบอร์ ส่งเด็กสาววัยละอ่อนให้กับนักท่องเที่ยวอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ใช้โลกออนไลน์เสนอขายบริการทางเพศอย่างครบวงจร

พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2  พร้อมด้วย พ.ต.อ.มนูญ  แก้วก่ำ ผกก.3 บก.ปคม. ,พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร รอง ผกก.1 บก.ทท.2 และ พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ สว.กก.1 บก.ทท.2 (ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวสนธิกำลังร่วมตำรวจ ปคม. เข้าทำการจับกุม น.ส.ณัฐธิดา จูทะรัตน์   อายุ 25 ปี  ชาว จ.ยโสธร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.2057/2564 ลงวันที่ 3 ธ.ค.2564 ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการค้าประเวณีได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี

ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหาล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี,ร่วมกันรับผลประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีหรือจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ,ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บ้านพักเลขที่ 250 ม.9 ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ก่อนจะควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น

พ.ต.อ.วิเชียร  วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2  กล่าวว่า ภายหลังจากที่ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวสืบทราบว่าพื้นที่ จ.ยโสธรมีบุคคลมีพฤติการณ์เป็นธุระจัดหาเด็กสาวอายุไม่ถึง  18 ปี มาขายบริการทางเพศแก่นักเที่ยวทั่วไปที่ต้องการบริการทางเพศอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี จึงประสานการทำงานร่วมกันกับตำรวจ ปคม. จนสืบทราบว่า  น.ส.ณัฐธิดา ซึ่งใช้ชื่อไลน์ “สายไม่ว่าง” เป็นธุระจัดหาและเป็นแม่เล้ารายสำคัญในพื้นที่  เป็นนายหน้าจัดหาเด็กสาวขายบริการทางเพศให้กับนักท่องเที่ยว

“ เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมจากเพจที่มีชื่อว่า  “มีเด็กรับงาน (หญิงแท้) เขตมหาชนะชัย จึงประสานการทำงานร่วมทุกฝ่ายจนกระทั่งพบว่า  ผู้ที่ใช้ชื่อในไลน์และเพจเฟชบุ๊คว่า “สายไม่ว่าง.”มีพฤติการณ์เป็นธุระจัดหาเด็กหญิงสาวเพื่อขายบริการทางเพศ เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนสอบสวน จนกระทั่งพบว่านอกจากการกระทำความผิดผ่านเพจเฟชบุ๊คแล้ว ผู้ต้องหายังใช้ทวิตเตอร์ และไลน์ รวมทั้งสื่ออนไลน์ต่างๆ   โพสต์หาลูกค้าตามสื่อออนไลน์ และมีเครือข่ายค้ามนุษย์ในเขตหลายจังหวัดในภาคอีสานและกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุญาตหมายจับต่อศาลอาญาและติดตามจับกุมตัวได้ขณะซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก”

พ.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสมรภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาแต่ข้อมูลทางการสอบสวนไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้เนื่องจากกระทบสำนวจในการทำคดี ซึ่งหลังจากการสอบปากคำแล้วเสร็จ จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน    กก.3 บก.ปคม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป