"ทนายตั้ม"เผยมีช่องกม.มีโอกาสได้คืนลูกสาวฮุบที่ดินไล่พ่อ

"ทนายตั้ม"เผยมีช่องกม.มีโอกาสได้คืนลูกสาวฮุบที่ดินไล่พ่อ





ad1

ปราจีนบุรี -"ทนายตั้ม"เผยมีช่องกฎหมาย ลูกสาวฟ้องขับไล่พ่อ ฮุบที่ดินไม่แบ่งพี่น้อง หลังได้ที่ดินสามารถยกเลิกการให้ได้แต่มีข้อแม้

จากกรณีมีการร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชน มีครอบครัวพ่อ-แม่ป่วยเป็นมะเร็งได้ยกที่ดินให้ลูกสาวคนที่5 เพื่อแบ่งแยกให้กับลูกคนอื่นๆ  แต่ภายหลังได้มีการฟ้องร้องให้ออกจากที่ดินตามที่ได้เสนอรายละเอีดไปก่อนหน้านี้  นั้น

ล่าสุดวันนี้(30ม.ค.2565)  ทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ลงพื้นที่  มาพบกับลุงจำนงค์ พูลแข อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.8 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตามที่ก่อนหน้านี้ทางลุงจำนงค์ ถูกลูกสาวคนที่ 5 ฟ้องขับไล่ที่อยู่อาศัยหลังจากยกที่ดินปากเปล่าให้กับลูกชายคนโต โดยเรียกลูกทั้งหมดมาหารือว่าจะยกที่ดินให้ลูกทุกคนเท่าๆกันมอบหมายให้ลูกชายคนโตเป็นคนแบ่งแยกที่ดินให้พี่น้องทุกคน ลูกชายคนโตแย้งว่าให้น้องสาวคนที่ 5 เป็นคนดำเนินการทั้งหมดจะสะดวกกว่าตนมีอาชีพขับรถบรรทุกสินค้าออกต่างจังหวัด น้องสาวคนคนที่5เรียนสูงกว่าเขาน่าจะดำเนินการแทนได้ ต่อมานางนภาพร ลูกสาวคนที่ 5 ได้ดำเนินการรับโฉนดเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่ได้แบ่งแยกให้กับพี่น้องตามที่ตกลงกัน และจะให้พี่น้องทำสัญญาเช่าที่มาปลูกบ้านอยู่ในที่แปลงนี้  และจะให้ทำสัญญาเช่าเป็นรายเดือนตามความต้องการของตนต่อมาลุงจำนงค์และลูกๆไม่ยอมทำตามที่ลูกสาวคนเล็กต้องการเพราะทำผิดข้อตกลงกันไว้ และเป็นมูลเหตุฟ้องขับไล่   นั้น 

วันนี้หลังจากทนายตั้มได้มาพบกับลุงจำนงค์พร้อมกับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จากที่ได้ฟังข้อเท็จจริงจากลุงจำนงค์ทราบว่าแม่ยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้ต่อมาได้เอาโฉนดไปจำนองไว้กับอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง เพื่อที่จะนำเงินมาพัฒนาที่ดินแปลงนี้ ต่อมาทางผู้ใหญ่บ้านทวงเงิน ลุงจำนงค์มีที่ดินแปลงหนึ่งได้จำนองกับธนาคารเพื่อที่จะเอาเงินออกมาใช้หนี้แต่ยังขาดเงิน 100,000 บาท จึงขอยืมเงินจากลูกสาวคนเล็กมาและเอาโฉนดคืนมา ต่อมาลุงจำนงค์ได้ขายที่ดินที่จำนองกับธนาคารไว้ได้เงินมาประมาณ 800,000บาทคืนให้ลูกสาวคนเล็กไปหมดแล้ว ข้อเท็จจริงเท่าที่ดูสลักหลังโฉนดที่ดินแปลงที่มีปัญหาลุงจำนงค์ถูกฟ้องร้องอยู่จากนี้ไปจะให้ทีมทนายเข้ามาช่วยเหลือและเข้าสู่กระบวนการศาล

จากเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าเหตุเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณโดยจะขอความเป็นธรรมจากศาล ข้อกฎหมายมีอยู่ว่าบิดามารดาให้คนรับเนรคุณด่าทอสามารถฟ้องคืนได้

ผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า   หลังเกิดกรณีย์ที่ นางสาวนภาพร  รัตนอัมพร ลูกสาวแท้ๆของนายจำนง  พูลแข อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 8 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่เกิดจากนางวงษ์  พูลแข อายุ 79 ปี ฟ้องขับไล่ พ่อ และแม่ตัวเองพร้อมกับพี่น้องอีก 5 คน โดยอ้างกรรมสิทธิ์ที่ดิน 6 ไร่ 2 งาน 90 ตารางวา ที่ลูกๆทุกคนปลูกบ้านอาศัยรวมกันให้ออกไปหากไม่ออกขอให้ทุกคนมาทำสัญญาเช่าที่ดิน จนทำให้นายจำนงค์ และ นางวงษ์ พ่อและแม่รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะได้ยกที่ดินทั้งหมดให้นางนภาพร  รัตนอัมพร ไปเพื่อให้จัดการแบ่งพี่น้องทุกๆคน แล้วนั้น

เมื่อเร็วๆนี้ (วันที 28 ม.ค.) ทางนายวิรุฬห์  สว่างพลกรัง ทนายความของนางนภาพร  รัตนอัมพร ได้เดินทางมาพร้อมกับนางนภาพรเพื่อจะทำการรังวัดที่ดินของนายจำนงค์ที่ยกให้นางนภาพร โดยมี เจ้าหน้าที่รังวัด ที่ดินกบินทร์บุรี เตรียมเข้าดำเนินการ  นางสาวจุฑามาศ พูลแข ลูกสาวคนรองสุดท้องซึ่งเป็นคนดูแลพ่อ กับแม่ เห็นว่าเวลานี้ไม่น่าจะสะดวกเนื่องจาก นายจำนงค์ ผู้ดูเป็นพ่อเข้ารับการบำบัดมะเร็ง(ให้คีโม)ที่โรงพยาบาล   จึงไม่มีใครชี้ยืนยันที่ดิน แต่ทางทนายของนางนภาพร ไม่พอใจจนเกิดการโต้เถียงรุนแรง นางสาวจุฑามาศ ขอคุยกับนภาพรพี่สาว แต่ทางนายวิรุฬห์ ทนายความห้ามไม่ให้พูดคุยขอให้คุยกับตนเองคนเดียวทำให้พี่น้องไม่พอใจจนมีการท้าทายให้ไปสาบานว่าถ้านางนภาพร บริสุทธิ์ใจไม่คิดฮุบสมบัติไว้คนเดียวให้ไปสาบานวัดข้างบ้าน 

มานิตย์   สนับบุญ-ข่าว/ทองสุข  สิงห์พิมพ์-ภาพ/ปราจีนบุรี