เพื่อนบ้านอดีตครูถูกยิงตายรับละแวกนี้มีอะไรบางอย่างสีดำ

เพื่อนบ้านอดีตครูถูกยิงตายรับละแวกนี้มีอะไรบางอย่างสีดำ





ad1

นครสวรรค์-เพื่อนบ้านอดีตครูถูกยิงตายรับละแวกนี้มีอะไรบางอย่างสีดำ เรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในละแวกบ้านเป็นอย่างมาก อีกทั้ง เวลาค่ำมืดในพื้นที่นี้ ชาวบ้านก็จะพากันเข้าบ้านพักผ่อนกันหมด จึงทำให้ในช่วงเวลากลางคืนจะเงียบมาก

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายธวัชชัย นิระนะวก หรือครูด่าง อายุ 66 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ เสียชีวิตอยู่ที่เปลญวนใต้ต้นมะขามเทศ บริเวณข้างบ้านในพื้นที่หมู่ 8 ต.วังปลาสร้อย อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เมื่อคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม รวมถึงตำรวจชุดสืบสวนภาค 6 ได้เดินทางลงมาติดตามคดี ร่วมกับตำรวจ สภ.ท่าตะโก โดยมุ่งไปที่ประเด็น ผู้ตายไปรับรู้เรื่องธุรกิจอะไรบางอย่างของคนในพื้นที่ และประเด็นที่ผู้ตายชอบดื่มสุรา แล้วมักชอบพูดจาเพ้อเจ้อ ส่งเสียงดังโวยวาย ด่าท่อคนไปทั่ว จนอาจสร้างความไม่พอใจให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จนทำให้เกิดการมายิงเพื่อปิดปากหรือแก้แค้นนั้น 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บ้านของนายธวัชชัย หรือครูด่าง ผู้ตายอีกครั้ง แล้วพบกับนายสนม สุขแจ่ม เพื่อนบ้านข้างเคียง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ตายมีนิสัยชอบกินเหล้าจริง แต่ก็ไม่ถึงขนาดไปไปโวยวายหาเรื่องใคร มีแต่เพียงชอบพูดเสียงดัง พูดไปเรื่อย และพูดคนเดียวไม่หยุด ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ค่อยได้ไปพูดคุย หรือเข้าไปสุกสิงกับครูด่างมากนัก แต่ยอมรับว่าคืนวันที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืน แต่ตอนนั้น ไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากแถวนี้ ทุกๆ คืน พวกวัยรุ่น รวมถึงคนหาจับกบจับปลา มักจะชอบจุดประทัดลูกบอลกันเป็นประจำ ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายถูกฆ่า ก็ไม่รู้อะไรดีมากนะ แต่อาจจะเป็นไปได้ ที่ผู้ตายชอบพูดเสียงดัง และพูดไปเรื่อย ซึ่งคนในหมู่บ้านนี้ จะไม่ถือสาแกหรอก แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักกับผู้ตาย ก็ไม่แน่ อาจจะไม่พอใจก็เป็นได้ 

ขณะที่ชาวบ้านอีกรายในละแวกเดียวกันไม่ขอเอ่ยนาม ระบุกับผู้สื่อข่าวว่า นิสัยปกติแล้ว สมัยยังมีชีวิตอยู่ผู้เสียชีวิตจะไม่ชอบเรื่องที่ผิดกฎหมายและมักจะต่อต้านอยู่เสมอ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ อาจจะไปทำให้ใครไม่พอใจเพราะเวลาเมาสุราก็มักจะพูดจาตรงไปตรงมาไม่เกรงใจใคร และยอมรับว่าในพื้นที่แห่งนี้ มีปัญหาเรื่องสิ่งผิดกฎหมายฝังอยู่ในพื้นที่ แต่ไม่มีใครกล้าปริปากพูด เพราะกลัวจะเป็นภัยเข้าถึงตัว 

“เรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในละแวกบ้านเป็นอย่างมาก อีกทั้ง เวลาค่ำมืดในพื้นที่นี้ ชาวบ้านก็จะพากันเข้าบ้านพักผ่อนกันหมด จึงทำให้ในช่วงเวลากลางคืนจะเงียบมาก แถมกล้องวงจรปิดของหมู่บ้านก็ไม่มี เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จึงให้คนที่นี้หวาดกลัวเข้าไปใหญ่ ซึ่งก็อยากร้องขอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยมาติดตั้งกล้องวงจรปิด ให้กับหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย” 

ด้านนางบุญยง นิระนะวก อายุ 60 ปี ภรรยาของผู้ตาย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเย็นวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้เดินทางมาที่งานศพ และได้มีการสอบถามตนเกี่ยวกับการเสียชีวิตของสามี โดยมีตอนหนึ่งทางตำรวจกองปราบได้พูดกับตนว่า เขามาช่วยคลี่คลายคดีนี้ และถ้าตนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย หรือมีเรื่องอะไรไม่สบายใจที่สามีถูกฆ่าตาย ขอให้พูดความจริงออกมาให้หมด ตนจึงได้ให้การไปว่า คนตายมีนิสัยชอบดื่มสุราเมาก็จริง แต่ก็ไม่ชอบอะไรที่ไปเห็นแล้วรู้สึกผิด เขาก็มักจะต่อว่า และคอยพูดสั่งสอนไปเรื่อย ในฐานะอดีตที่เคยเป็นครู ซึ่งพอเมาได้ที่ก็จะชอบพูดตรงๆ จึงไม่แน่ใจว่า ด้วยเหตุที่เขาชอบพูดมาก และชอบว่าสั่งนั้นจะไปขัดใจใครหรือเรื่องอะไรที่ไม่ดีบ้างหรือป่าว แต่ตนก็ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบไปหมดแล้ว บางเรื่องก็ไม่สามารถเผยได้ เพราะตอนนี้ตนและครอบครัวรู้สึกกลัวมาก 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว ได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.สมบูรณ์ ทองลอย ผู้กำกับการ สภ.ท่าตะโก ได้ให้ข้อมูลว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวคนในละแวกบ้านใกล้เคียง ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องภรรยาของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำแล้ว 8 คน เพื่อเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุได้ เพราะผู้เสียชีวิต มีนิสัยชอบกินเหล้า ขี้เมา และอาจไปมีเรื่องกับคนหลายคนหลายกลุ่ม อีกทั้ง ตัวผู้เสียชีวิตเป็นอดีตอาจารย์เกษียณ และมีหนี้สินจำนวนมาก ยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องธุรกรรมหรือธุรกิจอะไรหรือไม่ ต้องรอความชัดเจน พร้อมทั้ง ต้องรอชุดสืบสวนไล่กล้องวงจรปิด เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียงแทบจะไม่มีกล้องวงจรปิด คาดว่าต้องใช้เวลาสักระยะ.