ชาวบ้านโล่งอก! จนท.ส่งช้างป่าสีดอโหนกกลับถึงกลางป่าเขาอ่างฤาไนแปดริ้ว(มีคลิป)

ชาวบ้านโล่งอก! จนท.ส่งช้างป่าสีดอโหนกกลับถึงกลางป่าเขาอ่างฤาไนแปดริ้ว(มีคลิป)





ad1

ปราจีนบุรี–ชาวบ้านโล่งอก!  เล่านาทีไปส่งช้างป่าสีดอโหนกกลับถึงกลางป่าเขาอ่างฤาไนแปดริ้วป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทย ถิ่นที่อยู่เดิมอย่างปลอดภัย!รู้สึกโล่งทั้งตำบลในการทำมาหากิน-ดำรงชีพก่อนหน้าก่อเหตุเหยียบคนแก่วัย73ปีตายขณะไปหาของป่าชาวบ้านลงมติขอให้กรมป่าไม้อพยพออกนอกพื้นที่

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ 22 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้าหลังจากทาง นายประยูร สมโภชน์ นายก องค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว ( อบต. ) อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อขอให้เคลื่อนย้ายช้างป่าสีดอโหนก ออกนอกพื้นที่ ซึ่งเข้ามาในพื้นที่ชุมชนนานมากกว่า 4 เดือนเศษ 

หนังสือดังกล่าว ระบุว่า ตามที่ราษฎรในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้วได้รับผลกระทบจากช้างป่า มาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยเขตรอยต่อ5จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง) เข้ามาหากินในพื้นที่ โดยใต้บุกรุกทำลายทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตรจนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากตั้งแต่ช่วงเตือนพ.ย.2564

ปัญหาได้รุนแรงมากขึ้น เมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาเร็วๆ นี้  นางสุดทา สีลาลัย อายุ 73ปี เสียชีวิตเสียชีวิตจากช้างป่า ทำร้ายขณะออกไปหาของป่าบริเวณหนองกระดิกนิ้ว ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจและ ความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว จนไม่กล้าออกไปทำมาหาเลี้ยงชีพตามปกติ ทำให้ประชาชนเรียกร้องให้องค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้วเร่งตำเนินการผลักตันช้างป่าให้ออกจากพื้นที่โดยเร็ว

ล่าสุด วานนี้ 21 มี.ค. นายสหชัย แจ่มประสิทธิ์สกุล นายอำเภอกบินทร์บุรี ร่วมกับนายอำนาจ ม่วงปรางค์ผอ.ส่วนอนุรักษ์ที่1(ปราจีนบุรี) ร่วมกับ ส่วนอนุรักษ์ที่ 2 (ชลบุรี) นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้จาก ส่วนอนุรักษ์ 1 (ปราจีนบุรี) , ส่วนอนุรักษ์ 2 (ชลบุรี) ,เขาสอยดาว จ.จันทบุรี และ อุทยานฯทับลาน บูรณาการร่วมกับทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และชาวบ้านรวมมากกว่า 150 นาย  เพื่อขนย้ายช้างป่าสีดอโหนกช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา ออกจากพื้นที่ ที่มาอาศัยบริเวณหนองไผ่ใกล้กับหนองกระดิกนิ้วป่าชุมชน หมู่4ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตามหนังสือกรมอุทยานฯลงวันที่15มี.ค.65

ขอให้จับและขนย้ายช้างป่าอ่างฤาไนที่แตกฝูงมาหากินในพื้นที่หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้วอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยได้ทำการติดตามจัดชุดยิงยาซึมชุดเดินเท้าติดตาม-ผลักดัน สามารถนำช้างป่าสีดอโหนกขนาดน้ำหนักมากเกินกว่า 1 ตัน นำขึ้นรถบรรทุก 10 ของทหารสำเร็จในกลางดึกของวันที่ 22 มี.ค.65อย่างปลอดภัยทั้งคนและช้างป่า และได้นำช้างป่าสีดอโหนกส่งกลับไปปล่อยที่บริเวณป่าทุ่งกระทิงกลางป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทราตามที่ได้นำเสนอไปแล้วโดยละเอียดก่อนหน้านี้ นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด นายไพรัตน์   สาคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้วหมู่ 4  (ส.อบต.) กล่าวว่าว่า “หลังจากชุดผลักดันช้างป่าสีดอโหนกที่บูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงานและชาวบ้านตำบลเขาไม้แก้วสามารถนำสีดอโหนกจากป่าหนองไผ่   ประกอบด้วย นายวีระขุนไชยรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1  นายอำนาจ  ม่วงปรางค์  ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า  ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า  เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว(อบต.) ร่วมกันดำเนินการเคลื่อนย้ายช้างสีดอโหนกไปยังพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา

เริ่มประชุมวางแผนการดำเนินการเมื่อเวลา 10.30 น. ทีมสัตวแพทย์ได้เข้าดำเนินการติดตามตัวช้างและสามารถยิงยาซึมได้เมื่อเวลา 18.30 น.และทำการเคลื่อนย้ายช้างขึ้นรถบรรทุกเสร็จสิ้นการเคลื่อนย้ายช้างป่าขึ้นรถบรรทุกเมื่อเวลา 24.00 น จากนั้นได้เคลื่อนตัวไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เพื่อนำช้างป่าไปปล่อยที่บริเวณทุ่งกระทิงห่างจากตัวที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนเข้าไปในป่าลึกประมาณ 16 กิโลเมตรได้เคลื่อนย้ายช้างป่าลงเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 05.00 น ของวันที่ 22 มีนาคม 2565” นายไพรัตน์กล่าว

และกล่าวถึงนาที ย้อนการเตรียมนำช้างป่าสีดอโหนก  ขึ้นรถบรรทุก 10 ล้อของทหารว่า   “รถดังกล่าวทราบว่า  เคยใช้ขนย้าย-อพยพช้างป่ามาหลายสิบตัวก่อนหน้านี้แล้ว หลังยิงยาซึมเรียบร้อย  ได้ใช้รถแบ็คโฮโกยทางเดินให้รถบรรทุกด้านท้ายเสมอจุดที่สีดอโหนกยืนอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดปลอกคอติดสัญญาณจีพีเอส.เพื่อติดตามพฤติกรรม-ความเป็นอยู่ จากนั้นให้เจ้าหน้าที่พร้อมเชือกมนิลาขนาดใหญ่คล้องขาหน้า – ขาหลังสีดอโหนก ขาหน้า จำนวนคนข้างละ ประจำ 30 คน ขาหลังคนประจำ 15 คน ช่วยกันดึงสีดอโหนกนำเดินขึ้นรถบรรทุก โดยใช้คำบอก ซ้ายดึง  ขวาดึก พร้อม ๆ กัน เมื่อขึ้นบนคอกกั้นบนรถเรียบร้อยและล็อค-ตรึงช้างกับไม้กั้นหนาแน่นปลอดภัยดีแล้ว

เวลาประมาณ 01.09 น.วันที่ 22มี.ค.65 จึงเคลื่อนย้ายพาช้างป่าสีดอโหนกกลับคืนถิ่นที่อยู่เดิมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยเขตรอยต่อ5จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง)

โดยเดินทางเป็นขบวนไปส่งสีดอโหนกกลับคืนถิ่น  รถจำนวนประมาณ 12 คัน ทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และ ผู้แทนชาวบ้านคือตนเอง กับนายสุนทร  คมคาย แกนนำชาวบ้านเขาไม้แก้ว ไปถึงจุดที่ทำการปล่อยที่ทุ่งกระทิง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา (เลยจากที่ทำการรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนออกไปกว่า 16 กม.เศษ) เดินทางไปถึงป่าทุ่งกระทิงเวลาประมาณ 03.00 น. เมื่อไปถึงจุดกลางป่าที่เตรียมปล่อยช้างสีดอโหนก เจ้าหน้าที่สัตว์แพทย์ได้ฉีดยาคลายซึมให้ช้าง จนหายซึมเป็นปกติดีแล้วสีดอโหนกค่อย ๆถอยตัวลงมาจากรถบรรทุกอย่างอารมณ์ดีหูโบกไป-มาหางแกว่างไกวจังหวะหนึ่งเดินลงลงไปในบวกโคลนที่อยู่ใกล้แต่สามารถขึ้นมาได้ ”

“สำหรับสีดอโหนกนั้น เข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านเข้าไม้แก้วหมู่ 4 นานกว่า 1 เดือน ตลอดช่วงดังกว่าชาวบ้าน รู้สึกกังวลหวาดกลัวถูกทำร้าย โดยช้างป่าเข้ามาหากินมันสำปะหลัง อ้อย กล้วย ตามสวน ไร่ และนาข้าวของชาวบ้าน และกลัวอันตรายมากยิ่งขึ้นช่วงที่เกิดเหตุการณ์ทำร้ายคนตาย   ความรู้สึกหลังสีดอโหนกถูกนำกลับคืนถิ่นที่อยู่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤานี้แล้ว ต่างโล่งใจที่สามารถทำกินได้ ไปไหนมาไหนปลอดภัย

แต่ทว่าในพื้นที่ อาทิ หมู่บ้านคลองตามั่น หมู่บ้านคลองหันแดง หมู่ 8 ,9 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ยังมีโขลงช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์เขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 4 -5 ตัว ข้ามฝั่งมาหากินเช่นกัน  แต่ช้างเป็นโขลงชุดผลักดันสามารถผลักดันกลับง่าย  ไม่เหมือนกับสีดอโหกที่มาตัวเดียวผลักดันแล้วไม่กลับ   และหลังจากนี้สีดอโหนกคงไม่หวนย้อนคืนกลับมาแล้วเพราะไปไกลมาก”นายไพรัตน์กล่าวในที่สุด

มานิตย์   สนับบุญ-รายงาน-ทองสุข สิงห์พิมพ์-สุนทรี คมคาย -ไพรัตน์   สาคร-ภาพ