ปุ๋ยแพงเดือดร้อนทั้งเกษตรกร-คนขายเมืองเบตง

ปุ๋ยแพงเดือดร้อนทั้งเกษตรกร-คนขายเมืองเบตง





ad1

ยะลา – เกษตรกรและคนขายปุ๋ย ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา  พบปัญหาปุ๋ยแพง เดือดร้อนทั้งเกษตรกรและคนขาย แนวโน้มปุ๋ยยังคงปรับราคาสูงขึ้นอีก ล่าสุดมีการประกาศจะขึ้นอีกอย่างน้อยกระสอบละ 100 บาทเพิ่มขึ้นมาเท่าตัวและปุ๋ยบางสูตรขาดตลาด

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 ที่ร้านบ้านเกษตร ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าของ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยในอำเภอเบตง  กล่าวว่า ปัญหาราคาปุ๋ยแพงที่ทำให้เดือดร้อนทั้งเกษตรกรและผู้ค้า เพราะต้องซื้อปุ๋ยในราคาแพงเหมือนกัน จากเดิมเคยซื้อและขายเอากำไรกระสอบละ 10 - 20 บาท แต่ขณะนี้ปุ๋ยทุกชนิดราคาปรับสูงขึ้นกระสอบละกว่า 100% ทางร้านค้าก็ต้องซื้อในราคาที่สูงขึ้นกระสอบละกว่า 100% เท่ากัน  ก็นำมาขายเอากำไรกระสอบละ 10- 20 บาทเท่าเดิมและที่สำคัญในขณะนี้ปุ๋ยบางตัวขาดตลาด

นายยอดยิ่ง  แซ่หลี เจ้าของร้านบ้านเกษตร บอกว่า  ส่วนเรื่องกักตุนปุ๋ยในส่วนของร้านค้าไม่สามารถทำได้ เพราะร้านค้าหากใครคิดจะกู้เงินมาซื้อปุ๋ยเก็บ เพื่อจำหน่ายในราคาแพงก็ไม่คุ้ม เนื่องจากว่าบริษัทผู้นำเข้าปล่อยให้ร้านค้ามาทีละน้อยๆ เพื่อที่จะขายให้ลูกค้าเท่านั้น และถ้ามาถึงไม่ขายเลยก็ไม่ได้ เพราะต้องเปิดร้านขายทุกวัน และปุ๋ยราคาแพงกระทบกับยอดขายอย่างมาก เพราะเกษตรกรซื้อปุ๋ยน้อยลง โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยางชาวสนทุเรียน ปริมาณการใช้น้อยลงมาก เนื่องจากยางพาราราคาตก ทำให้เกษตรกรไม่มีเงินซื้อปุ๋ย

ส่วนชาวสวนทุเรียนก็ต้องประสบทั้งราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นอีกทั้งยังมาประสบกับดินฟ้าอากาศที่แปรปรวนโดยช่วงนี้ทางภาคใต้ฝนตกเกือบทุกวัน  ทั้งนี้ ปุ๋ยในประเทศไทยนั้นเป็นสินค้านำเข้า ทั้ง N-P-K หรือ ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม โดยทั้งหมดต่างทยอยปรับขึ้นทีละตัว  เริ่มแรกฟอสฟอรัส จากแหล่งของจีน อิสราเอล รัสเซีย ปรับขึ้น และตัวอื่นๆตามมา ซึ่งทุกตัวปรับขึ้นเกิน 100% ส่งผลให้ปุ๋ยสำเร็จปรับราคาขึ้นตาม เกิน 100% เช่นกัน เช่น ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 เดิมราคา 500- 600 บาท ขณะนี้ราคากว่า 1,300 บาท และกำลังจะถึง 1,400 บาท

ส่วนสูตร 18-46-0 ตัวกลางสูง จากกระสอบละ 700 บาท ขณะนี้เป็น 1,500 บาท และจะขึ้นอีกเรื่อยๆ เชื่ออาจจะถึง 1,900 บาท บางชนิดเดิมกระสอบละ 280 บาทขึ้นมาเป็น 750 บาท 380 เป็น 800 บาท, ราคา 700-800 เป็น 1,290 บาท, 600-700 บาท เป็น 1,400 จากและราคาใหม่กำลังจะมาอีกทุกตัวจะปรับขึ้นอีกประมาณกระสอบละ 100 บาท ซึ่งตอนนี้ทางร้านผมหยุดสั่งปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 แล้วเนื่องจากราคาปรับสูงมาก นอกจากนี้ราคาอาหารสัตว์น้ำสัตว์บก ก็ปรับราคาขึ้นมา 30 – 50 เปอร์เซ๋นต์ เช่นกัน

ด้านเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน บอกว่า ได้รับกระทบเยอะทั้งราคาปุ๋ยที่แพง ดินฟ้าอากาศ ที่ควบคุมไม่ได้  ผมแก้ปัญหาเรื่องปุ๋ยแพง ก็คือเมื่อก่อนใส่ปุ๋ยทุเรียนครั้งละ 20 กระสอบ  แต่ตอนนี้ใส่ครั้งละ 2- 3 กระสอบ เพราะ ไม่ไหวกับราคา แต่ยังก็ต้องใช้เพราะฉนั้นอยู่กันไปอย่างนั้นี้เผื่ออนาคตราคาปุ๋ยอาจลดลง แต่คงอีกนาน  ส่วนทุเรียนผมแก้ปัญหาโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์เอาไปผสมกันเพื่อลดต้นทุน  ตอนนี้ทุเรียนเริ่มออก เริ่มเป็นหางแย้แล้ว แต่ไม่สามารถควบคุมน้ำได้เนื่องจากฝนตกทำให้แตกใบอ่อนแล้วลูกร่วงซึ่งการแตกใบอ่อนมาจากฝนที่ตกเพราะมีตัวเอ็นเยอะ ตัวที่ทำให้เกิดใบอ่อน   ผลผลิตจะออกเดือน กันยายน หรือไม่ก็เดือน กรกฎาคม ซึ่งปีนี้ ผลผลิตทุเรียน คงได้ผลผลิตไม่เป็นที่พอใจอย่งแน่นอนและผมทำใจ ไว้แล้วเพราะไม่สามารถควบคุมน้ำฝนได้

ถึงแม้ค่าปุ๋ยจะแพงมากก็ตาม ตอนนี้ที่ยังซื้อปุ๋ยไปใส่บำรุงคือ ทุเรียน และไม้ผล ที่ยังมีกำลังซื้อ แม้ราคาปุ๋ยจะแพงก็ยังพอซื้อ แต่ก็เชื่อว่าในอนาคตก็จะได้รับกระทบ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแนวในการใส่ปุ๋ย อาจใส่ปุ๋ยสูตรต่ำและเพิ่มปุ๋ยอินทรีย์เข้าไปเพิ่มขึ้นก็แล้วแต่สูตร เพื่อหาทางออกลดค่าใช้จ่าย เพราะแนวโน้มราคาปุ๋ยยังจะคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไปอีก ล่าสุดได้รับการแจ้งว่าจะปรับราคาอีกกระสอบละ 100 บาทเป็นอย่างน้อย 

เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา รายงาน