สู้รบ"เมียนมา" ไม่กระทบการค้าวัวไทย -ใต้ขาดแคลนต้องสั่งจากภาคกลาง

สู้รบ"เมียนมา" ไม่กระทบการค้าวัวไทย -ใต้ขาดแคลนต้องสั่งจากภาคกลาง





ad1

พัทลุง-“วัว” ใต้ขาดแคลนโคขุน  ต้องนำเข้าจากภาคกลาง เพชรบุร ประจวบคีรีขันธ์ รายใหญ่ ราคาขยับ 5-10 บาท / กก. ชี้ ควายทะเลน้อย ต้องบริการจัดการเลี้ยง รายได้ดี

 

นายวิรัตน์ รอดนวล ประธานกรรมการวิสาหกิจชุมชนคนเลี้ยงวัวลังกาสุกะพัทลุงและประธานกรรมการ บริษัท ลังกาสุกะฟาร์ม จำกัด ตลาดกลางประมูลซื้อขายโคและควาย อ.กงหรา จ.พัทลุง เปิดเผยว่า สถานการณ์โค จ.พัทลุง และภาคใต้ ขณะนี้ค่อนขาดแคลนโคขุน 

เพราะทางภาค ใต้ไม่นิยมเลี้ยง จึงต้องนำเข้าจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.เพชรบุรี และขณะนี้การบริโภคโคก็เพิ่มขึ้นเนื่องจากอยู่ระหว่างเดือนรอมฎอนถือศิลอดของชาวไทยมุสลิม

แต่ในส่วนโคพื้นบ้าน ยังไม่ประสบภาวะขาดแคลนสามารถยังบริโภคภายในและส่งออกได้ และราคาได้ขยับขึ้นมาแล้วตั้งแต่ราคา 95 บาท 100 บาท / กก. จากราคาที่อยู่ประมาณ 90 บาท / กก. ราคาขยับขึ้นตามสินค้า 

นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์สู้รบในประเทศเมียนมา ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าโคระหว่างประเทศ มีการค้าเป็นไปตามปกติ 

ส่วนการเลี้ยงควายทะเลน้อย หรือควายน้ำ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา ที่มีอยู่เกือบ 3,000 ตัว และเกิดการล้มตายไปแล้วจำนวนหนึ่ง แนวทางการเลี้ยงควายจะต้องจัดการบริหาร สร้างคอก อาหาร การผสมพันธุ์

ตอนเช้าปล่อยออกจากคอก ตอนเย็นต้อนเข้าคอก และควรให้อาหารเสริม และควรหาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ขนาดใหญ่ 

“ควายจะต้องดูแลไม่ต่างกับการเลี้ยงโคขุนโคพื้นบ้าน เพราะควายก็มีราคาที่ดี ไม่ต่างกับโค และควายตลาดก็ต้องการ ราคาตัวที่คุณภาพไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท / ตัว ทั้งโค ควาย ราคาไม่เคยตกต่ำไปได้ตลอด” นายวิรัตน์ กล่าว.