โมโหหิว!พังช้างป่าทับลานบุกบ้านพักคนงานในสำนักสงฆ์รื้อสิ่งของหากิน (ชมคลิป)

ปราจีนบุรี-ระวังภัย!   คลิปช้างป่าทับลานโมโหหิวพังบ้านพักคนงานในสำนักสงฆ์รื้อค้นหาสิ่งของกิน  สส.ปราจีนฯอภิปรายในสภาฯแจงปัญหาผลกระทบขณะเครือข่ายภาคประชาชน 9 จังหวัด  เตรียมบุกยื่นหนังสือเพื่อหารือแนวทางหรือมาตรการเร่งด่วนในการหยุดยั้งการสูญเสียของทั้งคนและช้างป่าที่อาจเกิดขึ้น ต่อไป

วันนี้ 8 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่าได้รับแจ้งมี(เจ้าละมุด)ช้างป่าสีดอจากอุทยานแห่งชาติทับลาน มรดกโลก  อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่เพิ่งเตะคนแก่จนสลบคาตีน  เมื่อฟื้นรู้สึกตัวแกล้งทำทีตายจึงรอดหวุดหวิด    ได้บุกเข้ารื้อในครัวที่พักของคนงานชาวเขมร  ข้างสำนักสงฆ์คลองยาทันใจ ม.3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  

จึงลงพื้นที่เดินทางไปพบกับครอบครัวกับแรงงานเขมร   ที่เป็นคนงานเฝ้าสวนกระท้อน พบร้องรอยช้างป่า   พังหลังคาที่พักที่ทำเป็นครัวประกอบอาหารพังเสียหาย

นายไก่ แรงงานชาวเขมร   กล่าวว่าเมื่อเวลาประมาณ 06.00น.เช้านี้ (8มิ.ย.)  ขณะที่ตนเองเองกับภรรยาและลูกกำลังนอนอยู่ในห้องได้ยินเสียงไม้หักที่หน้าประตูที่พัก   จึงลุกขึ้นมาเปิดประตูออกดูถึงกับตะลึง เมื่อเห็นช้างป่าขนาดน้ำหนักมากกว่า 1ตัน   ยืนอยู่หน้าที่พักห่างจากตนเอง 2 เมตร และ   เห็นช้างใช้งวงหิ้วถุงปุ๋ยขนาดเล็ก   ที่ใส่ก้อนหินไว้ยิงนกเดินหนีไปคาดว่าช้างเข้าใจว่าเป็นถุงอาหาต  จึงร้องบอกให้ภรรยาและลูกหนีออกทางหน้าต่าง อเพื่อเอาตัวรอด แล้วโทร.ขอกเถ้าแก่ให้รู้ว่าช้างมาพังที่พัก

อึดใจต่อมาขณะที่ตนเองและครอบครัวกำลังมองดูที่พักที่ถูกช้างพังเข้าไปเพื่อหาของกิน   ช้างป่าได้ย้อนกลับมาในครัวอีกครั้งหนึ่ง  เพราะรู้ว่าถุงที่เอาไปไม่ใช่ถุงข้าวสารหรือขาวเปลือก    กินไม่ได้ จึงย้อนกลับมา   เพื่อจะหาของกินอีกครั้งหนึ่งจึงช่วยกันจุดประทัดไล่ช้างออกไป    

รวมเหตุการณ์ที่ช้างป่าได้เข้ามาหาของกิน   รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 รู้สึกกลัวอันตรายมากแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรและไม่รู้ว่าช้างป่าจะมาอีกวันไหน

ด้านนายชัยพร   ชนะโรค ผู้ใหญ่บ้านทุ่งแฝก หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “จากที่ เจ้าละมุดช้างป่าสีดอจากอุทยานแห่งชาติทับลาน มรดกโลก  อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี   ที่เพิ่งเตะคนแก่คือลุงทองบุตร ชัยเฉลิม อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ถูกช้างทำร้ายที่ใบหน้า-เตะที่สะโพกขาวเป็นแผล ที่ใบหน้า คิ้วขวา แก้มซ้าย คาง เย็บ 17เข็ม  เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.65 เมื่อคนแก่ฟื้นรู้สึกตัวแกล้งทำทีตาย จึงรอดหวุดหวิด    มาวันนี้ มันได้บุกเข้ารื้อในครัวที่พักของคนงานชาวเขมร  ข้างสำนักสงฆ์คลองยาทันใจ ม.3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

  ได้รายงานให้กับทางนายอำเภอนาดี ทราบตามลำดับชั้นแล้ว ทางอำเภอได้เรียกปรชุมผู้นำท้องถิ่น แนะนำแนวทางในการดูแลช่วยเหลือผู้แก่ประสบภัย  ตามประกาศภาวะภัยพิบัติเป็นเบื้องต้นแล้ว และในส่วนของชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนงค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่างเห็นว่าทางป่าไม้ควรมีมาตรการในการขนย้ายช้างป่านี้ออกจากพื้นที่ เนื่องจากมีพฤติกรรมดุร้ายทำอันตรายผู้คน  โดยแต่เดิมมักออกมาขโมยหาอาหารตามในครัว หรือ ข้าวเปลือกตามยุ้งฉาง ไล่ธรรมดาก็ไป  แต่ระยะหลังๆนี้  พฤติกรรมเปลี่ยนดุร้ายที่ทำร้ายคนนั้น  สักวันใดวันหนึ่ง อาจมีนพลาดพลั้งเสียชีวิตได้ ”   นายชัยพร   กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไป ที่รัฐสภา วันนี้ (8มิ.ย.)   ดร.สฤษดิ์ บุตรเนียร ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 3 พรรคภูมิใจไทย ได้อภิปรายถึงปัญหาผลกระทบจากช้างป่า ที่ออกนอกพื้นที่   ทั้งอุทยานฯทับลาน มรดโลก  อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  หรือ  ช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ. ฉะเชิงเทรา (ในป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทย หรือ ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง )  ที่จำนวนประชากรเพิ่มสูง  และออกมาหากินนอกพื้นที่  แล้วไม่กลับคืนผืนป่า   สร้องความขัดแย้ง หรือ ผลกระทบำลายผลผลิต ด้านการเกษตร ที่พักอาศัย  ทรัพย์สิน  และ  ทำร้ายชาวบ้าน

รายล่าสุดคือ ลุงทองบุตร ชัยเฉลิม อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ถูกช้างป่า   ทำร้ายที่ใบหน้าเย็บ  -  เตะ   ที่สะโพกขาวเป็นแผล ที่ เย็บ 17เข็ม ขณะกลับจากกรีดยางพารา  ช้างได้เตะจนสลบคา  เมื่อฟื้นรู้สึกตัวแกล้งทำทีตาย  จึงรอดหวุดหวิด  

ก่อนหน้านี้   ช้างป่าดังกล่าว  ยังคงหิวจัด หรือติดใจรสชาติอาหาร บุกเข้าไปยังในครัว  บ้านเลขที่ 99 หมู่ 3 บ้านทุ่งแฝก ต.ทุ่งโพธิ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ใช้งวงฉกข้าวสุกในหม้อร้อน ๆ กิน   นางพนม ใกล้ชิด  เจ้าของบ้านสามารถถ่ายคลิปพฤติกรรมเอาไว้ได้ เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 29 พ.ค.65  ที่ผ่านมา  และเพียงข้ามวันต่อมาช้างป่าตัวเดิม หิวจัดไม่มีของกิน ยกถังขยะเททิ้งต่อหน้าเจ้าของบ้าน

และ  ที่ บ้านสวนริมธาร เลขที่ 277 บ้านวังไอ้ป่อง ม.3 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี บ้านลุงวิสูสตร์ เชิดชิต อายุ 83 ปี เจ้าของบ้านซึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาสอง ตายาย    ปลูกสวนผลไม้ 17 ไร่ ทุเรียน เงาะ ไผ่ตง ขนุน ช้างป่า   ได้วนหากินและทำลายต้นเสียหาย ทุเรียนกำลังจะแก่ช้าลงสำรวจหมายตาไว้กิน ขนุนหลายต้นช้างเด็ดลงมากัดกินอยู่พื้นดินหลายลูก     ลุงวิสูตร์ ได้ถูกช้างป่าทับลานออกมากัดกินพืชผลการเกษตรเสียหายทุกคืน    มีบ้างมาบ่ายๆมายืนกินขนุนแล้วก็จากไป    ยากให้ทางการช่วยเหลืองเยียวยาบ้างช้างทำลายบ้าน ยกตู้เย็นทุ่มลงพื้นเสียหายหนึ่งเครื่องบางวันช้างมาแอบยืนอยู่ภายในบ้าน ตนกับภรรยาหันมาเห็นช้างตัวสูงใหญ่ตกใจเกรงจะได้รับอันตราย อายุมากแล้วต้องคอยมาระวังช้างทุกวัน จนตัวเองป่วยแล้ว    อยากถามภาครัฐจะช่วยเหลือด้านใดบ้าง ปีนี้ขายขนุนได้ 80 บาทช้างมากัดกินไม่รู้ว่าจะเหลือขายหรือไม่ช้างมาแต่ละครั้งเจ้าหน้าที่ก็มาผลักดันช้างออกไปแล้วก็มาอีก

ซึ่งตามที่ปรากฎว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบจากช้างป่ารุกล้ำเข้าไปในเขตที่อยู่อาศัย และ เขตพื้นที่ทำการเกษตร สร้างความเสียหายรุนแรง มีเหตุเสียชีวิตทั้งคนและช้างป่าอย่างต่อเนื่อง   มีการยื่นญัตติอภิปรายในการประชุมผู้สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้าง เพื่อพิจารณาศึกษาและหาแนวทางในการแก้ไข สร้างความหวังให้ประชาชนว่าปัญหาช้างป่าจะได้รับการแก้ไขจากรัฐบาลอย่างจริงจังต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า  ในปัญหาช้างป่าทั่วประเทศนี้   เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่าภาคประชาชน 9 จังหวัด  (ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก )รวมทั้งหมด ๒๐ คน จะขอเข้าพบ ท่านปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือแนวทางหรือมาตรการเร่งด่วนในการหยุดยั้งการสูญเสียของทั้งคนและช้างป่าที่อาจเกิดขึ้น ต่อไป ในวันจันทร์ที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๕ เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 109 ชั้น 1 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีด้วยเพื่อให้ปัญหาช้างป่า   สู่วาระแห่งชาติ

มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี รายงาน