ตร.สอท.รวบยกแก๊งมือแฮคเฟชบุ๊คขรก.ระดับสูง ก่อนแชทยืมเงิน

ตร.สอท.รวบยกแก๊งมือแฮคเฟชบุ๊คขรก.ระดับสูง ก่อนแชทยืมเงิน





ad1

ขอนแก่น-ตร.สอท.รวบยกแก๊ง 4 ผู้ต้องหา แฮคเฟชบุคข้าราชการระดับสูง ก่อนแชทไปยืมเงินคนอื่นไปทั่ว  พบประวัติโชกโชนทำงานเป็นทีม

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 มิ.ย.2565 ที่ บก.สอท.3( กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3) พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ออมสิน   ตรารุ่งเรือง  ผบก.สอท.3,พ.ต.ท.ไพรวัลย์  อายุวงษ์   รอง ผกก.4   บก.สอท.3 ร่วมกันแถลงข่าว ผลการจับกุม  น.ส.สโรชา  เอี่ยมลออ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่502/7 ถนนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ,น.ส.สุนี  ภู่อ่าง อายุ 18  ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/4  ม.10  แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ,นายสมชาย แสนธิเลิศ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301/90  ม.5 ตำบลโป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย  และนายหลงติ๊บ บุญศรี อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/1 ม.9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย       ในข้อหา กระทำความผิดฐาน เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น อันเป็นความผิดตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2440  มาตรา 5, 14 (1)  และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,343 พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์ 1 ชุด ซิมการ์ด โทรศัพท์อีกกว่า 100 ซิม

พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท กล่าวว่า ภายหลังจากมีคนร้าย แฮกเฟสบุ๊คของ นายสุธี ปรารถนายิ่งยศ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมข้าราชการฝ่ายตุลาการ แต่ปัจจุบันได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว โดยคนร้ายได้สวมรอยเป็นนายสุธี และส่งข้อความทางหมายเลขโทรศัพท์ ไปหาผู้เสียหาย   ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงใน จ.ขอนแก่น   แจ้งว่าไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหาย ขอให้ผู้เสียหาย ส่งหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับไลน์ มาให้เพื่อใช้ติดต่อด้วย ผู้เสียหายหลงเชื่อคนร้ายว่าเป็นนายสุธี  ตัวจริงซึ่งเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คกับผู้เสียหาย จึงได้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ไปให้คนร้าย จากนั้นได้มีข้อความมายังโทรศัพท์ของผู้เสียหาย  ซึ่งเป็นรหัส OTP  คนร้ายได้สอบถามรหัสดังกล่าว ผู้เสียหายหลงเชื่อ  ได้ส่งรหัส OPT ดังกล่าวไปให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นนายสุธีฯ   ทางข้อความ หลังจากนั้นปรากฏว่าไลน์ของผู้เสียหาย  ที่เครื่องโทรศัพท์ ไม่สามารถใช้งานได้  เนื่องจากคนร้ายได้เข้าไปควบคุมไลน์ของผู้เสียหาย  ที่มีรหัสผ่านเป็นการเฉพาะ   แล้วสวมรอยเป็นผู้เสียหาย และแสดงตัวเป็นผู้เสียหาย

"เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายได้เข้าใช้งานไลน์และเข้าถึงข้อมูลในไลน์ของผู้เสียหาย  แล้วเข้าควบคุมสวมรอยและแสดงตนเป็นผู้เสียหาย    แล้วทักไปไลน์หลอกยืมเงินจากบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นเพื่อนในไลน์ของผู้เสียหาย  โดยไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นผู้ใด  ที่มีอยู่ทั้งประเทศ เพื่อขอให้เพื่อนในไลน์ผู้เสียหาย  ชำระค่าบริการค่าโทรศัพท์ให้  โดยมีเพื่อนในไลน์ท่านผู้เสียหาย  หลงเชื่อและโอนเงินให้คนร้ายจำนวนหลายราย  โดยในพื้นที่ จ.ขอนแก่นมีผู้เสียหาย 4 ราย ความเสียหายร่วม 200,000 บาท และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.3 (ขอนแก่น) ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ"

รอง ผบช.สอท. กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบแหล่งกบดานของคนร้าย ที่ทำหน้าที่แฮกเฟสบุ๊ค  ซึ่งพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.แม่สาย   จึงทำการตรวจสอบในจุดที่ต้องสงสัย แต่ไม่พบตัว เนื่องจากคนร้ายไปเข้าพักที่โรงแรม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามไปควบคุมตัวเอาไว้ได้ 2 คนคือนายสมชาย  และนายหลงติ๊บ   ทั้ง 2 คน ยอมรับว่าเป็นคนทำหน้าที่แฮกเฟสบุ๊คของผู้เสียหายหลายราย  จากนั้นได้มีการสอบสวนขยายผลจับกุมบุคคลที่ทำหน้าที่รับโอนเงิน หรือคนที่ถือบัญชีม้า และสามารถจับกุมตัวได้ 2 คน ในบ้านพักที่กรุงเทพฯ คือ น.ส.สโรชา  และน.ส.สุนี

"จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยอมรับสารภาพว่า ไม่มีความรู้ทางเทคโนโลยี เพราะจบแค่ป.6 แต่เนื่องจากมีหัวหน้าทีมเป็นชาวต่างชาติ อาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน มาติดต่อ พูดคุย ให้รวมทีมกันทำงาน โดยชาวต่างชาติรายนี้ จะทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ มาสอนและมาแนะนำวิธีทำ วิธีลงมือ วิธีล่อหลอก และการใช้คำพูด เพื่อหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อ  เมื่อได้ทีมครบ 4 คนแล้วก็แบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยนายสมชาย กับนายหลงติ๊บ  จะทำการแฮกเฟซบุ๊ค หรือไลน์ของบุคคลอื่น แล้วสวมรอยเป็นบุคคลนั้น ส่งข้อความไปหลอกลวงบุคคลอื่นที่เป็นเพื่อนของบุคคลที่ได้สวมรอยเป็นบุคคลที่แฮกเฟซบุ๊ค หรือไลน์ หลอกขอยืมเงิน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินมาให้ ผ่านบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท จากนั้นจะนำเงินจากบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท ไปซื้อพินเล่นเกมส์ เพื่อเป็นการฟอกเงินผ่านร้านเกมส์ นำเงินที่ได้โอนเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง  ทางร้านเกมส์จะโอนเงินเข้าบัญชี จากนั้นจะโอนเงินต่อไปยังบัญชีอื่น เพื่อไม่ให้เจ้าพนักงานตำรวจติตามได้ และไปกดเงินสดนำเงินสดมามอบให้"

ขณะที่ พ.ต.ท.ไพรวัลย์  อายุวงษ์   รอง ผกก.4   บก.สอท.3  กล่าวว่า  จากการสืบสวนสอบสวน และจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ สามารถดำเนินการตัดวงจรเครือข่ายผู้กระทำผิดได้ คือ อายัดบัญชีทรูวอลเลตที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จำนวน 138  บัญชี ตรวจยึดของกลาง (ซิมการ์ด) ในคดีจำนวน76  ซิม  ที่ใช้สมัครวอลเล็ท อายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด 10 บัญชีและจากการตรวจสอบพบว่ายังมีผู้เสียหายที่ถูกผู้ต้องหาแฮกเฟซบุ๊ค หรือไลน์ สวมรอยหลอกลวงยืมเงิน ที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ในพื้นที่ทั่วประเทศ  จำนวน 38  คดี มีผู้เสียหายที่แจ้งความในระบบแจ้งความออนไลน์ระหว่างเดือน เม.ย. – พ.ค. 2565  จำนวน 90  คดี มูลค่าความเสียหายทั่วประเทศ ประมาณ 10 ล้านบาทและจากการตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดพบว่านายสมชายได้เคยก่อเหตุแฮกไลน์ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่  และเคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาก่อนจำนวน 2  คดี  เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 26 มี.ค.2564หลังพ้นโทษนายสมชายได้ก่อเหตุแฮกไลน์แล้วหลอกยืมเงินอีกเรื่อยมา จนกระทั่งถูกจับกุมอีกครั้ง