"กรณ์"ผงาดนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรชาติพัฒนากล้าลั่นฟื้นเศรษฐกิจปลุกชีวิตยุคมนุษย์ทองคำ

"กรณ์"ผงาดนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรชาติพัฒนากล้าลั่นฟื้นเศรษฐกิจปลุกชีวิตยุคมนุษย์ทองคำ





ad1

นครราชสีมา-ชาติพัฒนากล้า ได้ฤกษ์ดัน"กรณ์ จาติกวณิช" ขึ้นนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค แทน"เทวัญ" เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ประกาศลั่นฟื้นเศรษฐกิจปลุกชีวิตยุคมนุษย์ทองคำ "สุวัจน์"แบไต๋ อยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจ ชพก.ทำงานได้กับทุกพรรค

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2565  พรรคชาติพัฒนากล้า ได้จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิกพรรค ที่ห้องลำปลายมาศ โรงแรมแคนทารี่ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยมีแกนนำและกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา ,นายกรณ์ จาติกวณิช ,นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ,นายวัชรพล โตมรศักดิ์,นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี,นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ,นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็นต้น เข้าร่วมประชุมฯโดยวาระการประชุม ประกอบด้วย การรายงานความคืบหน้าในการเตรียมการเลือกตั้ง , การปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กรของพรรค และการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการประชุม นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคฯ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯ ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคทุกคนสิ้นสภาพ ที่ประชุมใหญ่ฯ สมาชิกพรรคจึงได้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ทั้งหมด ซึ่งผลการเลือกตั้ง นายกรณ์ จาติกวณิช ได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าคนใหม่ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นเลขาธิการพรรค นายวัชรพล โตมรศักดิ์ เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1  นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นรองหัวหน้าพรรค นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานพรรคฯ ซึ่งกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้าชุดใหม่ มีทั้งหมด 30 คน .

นายกรณ์ กล่าวต่อที่ประชุมด้วยม็อตโต้ชัดเจนว่า “คนไทยต้องรวย เศรษฐกิจต้องดี” ชาติจะพัฒนาได้ ต้องกล้าเปลี่ยน เนื่องจากปัจจุบันด้วยสภาพปัญหาของประเทศไทย หลายคนตั้งคำถามว่า คนไทยกำลังจนลงใช่ไหม รายได้ที่ขึ้นตามไม่ทันเงินเฟ้อหรือเปล่า กินข้าวแต่ละมื้อ เติมน้ำมันแต่ละครั้งรู้สึกเหมือนถูกสูบเงินในกระเป๋า ยิ่งมีสถานการณ์โควิด และสงคราม ยิ่งซ้ำเติมประชาชน กลายเป็นมหาวิกฤตทางเศรษฐกิจ ที่ถ้าไม่แก้ไขอย่างเร่งด่วน ประเทศจะไปไม่รอด ในขณะที่ภาคการเมืองกลับไม่ได้สนใจปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง ความทุกข์ยากของประชาชน กลับกลายเป็นเรื่องท้ายๆ ที่นักการเมืองจะสนใจ

นายกรณ์  กล่าวว่า ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องกล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศใหม่ทั้งระบบ ต้องกล้าคิดในเรื่องที่คนอื่นไม่เคยคิด เราต้องสร้างงานใหม่ๆ นับล้านตำแหน่ง งานแห่งอนาคตที่จะสร้างรายได้ให้คนไทย ไม่ว่าจะ Creative Economy , การสร้างให้คนไทยเป็นเซลล์แมนขายของออนไลน์ไปทั่วโลก กล้าทำในเรื่องยากๆ ปรับการคำนวณฐานภาษีใหม่ ให้คนชนชั้นกลางจ่ายภาษีน้อยลง เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋า กล้าชนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ รื้อโครงสร้างพลังงานใหม่ ให้คนไทยใช้พลังงานที่ถูกลงซึ่งเป็นต้นทุนของทุกอย่าง กล้าเปลี่ยนแปลงโดยการตั้งบริษัทเพื่อผลิตภัณฑ์การเกษตรแต่ละชนิด เช่น บริษัทข้าวหอม ให้มืออาชีพมาช่วยสร้างตลาด ชาวนาชาวไร่ทุกคนมีหุ้นอยู่ในบริษัท ซึ่งสามารถเข้าตลาดหุ้นได้ในอนาคต และสุดท้ายคือ กล้าตัดสินใจให้รัฐอยู่ในโทรศัพท์มือถือ ทำให้รัฐเล็กลงด้วยเทคโนโลยี หรือ Gov Tech ทำให้คนเข้าถึงได้ง่าย 24 ชั่วโมง เพื่อทำให้ประเทศคล่องตัว มุ่งไปข้างหน้าได้ไวขึ้น

“ผมเชื่อว่าคนไทยมีโอกาสที่ดีกว่านี้ได้ เป็นมนุษย์ทองคำ เหมือนคนในรุ่นผมเป็นได้ เหมือนสมัยผมกลับเมืองไทยมาตั้งบริษัทใหม่ๆ แค่ต้องมีความกล้า ที่จะเริ่ม และลงมือทำ คนไทยรวยได้ ชาติพัฒนาได้ ต้องกล้า เพราะพรรคชาติพัฒนากล้า กล้าด้วยประสบการณ์ ชาติพ้นวิกฤติ” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวย้ำ