สาธารณสุขอำเภอเทพาเผยพบผู้ป่วย “โรคไข้ดิน”แล้ว 7 ราย เสียชีวิต 5 ราย

สาธารณสุขอำเภอเทพาเผยพบผู้ป่วย “โรคไข้ดิน”แล้ว 7 ราย เสียชีวิต 5 ราย





ad1

สงขลา-พบผู้ป่วย “โรคไข้ดิน” พื้นที่ 6 อำเภอ ของอ.เทพา จำนวน 7 ราย เสียชีวิตแล้ว 5 ราย ทางเครือข่ายสาธารณสุขอำเภอเทพาเร่งลงพื้นที่รณรงค์ป้องกันทันทีเพื่อยับยั้งการระบาดและเก็บตัวอย่างดินและน้ำ ไปตรวจวิเคราะห์

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.65  นายวีรศักดิ์  เบญอะหลี  สาธารณสุขอำเภอเทพา จ.สงขลา พร้อมเครือข่ายสุขภาพอำเภอเทพา จ.สงขลา  ออกรณรงค์ป้องกันโรคเมลิออยด์โดสิส หรือโรคไข้ดิน หลังจากที่พบผู้ป่วยด้วยโรคนี้ในอำเภอเทพา ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนตุลาคม2565 จำนวน7 ราย และเสียชีวิตถึงจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย พื้นที่ ต.เกาะสะบ้า 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย ต.ท่าม่วง 1 ราย เสียชีวิต ต.เทพา 1 รายเสียชีวิต  ต.ลำไพล 1 รายเสียชีวิต ต.ปากบาง 1 รายเสียชีวิต และ ต.วังใหญ่ 1 ราย

โดยในวันนี้ทางเครือข่ายสุขภาพอำเภอเทพา จ.สงขลา ได้ปูพรมออกรณรงค์ครั้งใหญ่ เพื่อให้ประชาชนตื่นตัวและรู้วิธีการป้องกันจากการป่วยด้วยโรคไข้ดิน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ทั้ง 6 ตำบล ที่พบผู้ป่วยด้วยโรคนี้ เพื่อยับยั้งการระบาดโดยเร็วที่สุด ในการลงพื้นที่พบกับประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งที่ทำไร่ ทำนา ทำสวนและประชาชนที่อยู่ตามหมู่บ้าน เพื่อให้ความรู้และวิธีการป้องกันโรคนี้

นอกจากนี้ยังได้เก็บตัวอย่างดินและน้ำในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดว่ามีเชื้อของโรคเมลิออยด์โดสิสหรือโรคไข้ดินปนเปื้อนหรือไม่

สำหรับโรคเมลิออยด์โดสิส เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรีย ที่ระบาดในประเทศไทย ไม่มีอาการแสดงที่จำเพาะ ผู้ป่วยอาจมาด้วยอาการไข้สูงเพียงอย่างเดียว อาจมีไข้สูงช็อคจากการติดเชื้อในกระแสเลือดโดยไม่มีอาการจำเพาะที่อวัยวะใดๆ และเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วระยะฟักตัวของโรคตั้งแต่ 2 วัน ถึงนานหลายปี

สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei (เบอร์คโฮลแดเรียซูโดแมลีอาย)  พบได้ทั่วไปในดิน และน้ำในแหล่งระบาด พบได้บ่อยที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิธีการติดต่อเข้าสู่ร่างกายคนโดยผ่านทางผิวหนัง 

ทั้งนี้ โดยไม่จำเป็นต้องมีรอยขีดข่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีการสัมผัสดินและน้ำเป็นเวลานานๆ หรือการดื่มน้ำที่ไม่ได้ผ่านการต้มสุก ผ่านทางการหายใจ โดยการหายใจฝุ่นดินเข้าไปในปอด

วิธีการป้องกันเช่นหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำโดยตรง หากต้องสัมผัสดินหรือน้ำ เช่น ทางการเกษตร จับปลา ลุยน้ำ หรือลุยโคลน ควรสวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง กางเกงขายาวเสื้อแขนยาว สวมหน้ากากอนามัยหรือ ชุดลุยน้ำ หรือหลังเสร็จจากการลุยน้ำก็ให้ทำความสะอาดร่างการฟอกสบู่ทันที 

และกรณีหากมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบทาแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ ไม่ใส่ดินหรือสมุนไพรใดๆ ลงบนแผล และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำ จนกว่าแผลจะหายสนิท และควรดื่มน้ำต้มสุก.