คนน้ำพองระทมทุกข์น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้านไม่หยุด บางจุดน้ำขังนานเริ่มส่งกลิ่นเหม็น

คนน้ำพองระทมทุกข์น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้านไม่หยุด บางจุดน้ำขังนานเริ่มส่งกลิ่นเหม็น





ad1

ขอนแก่น-น้ำพองยังล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้านต่อเนื่อง บางจุดน้ำขังนานเริ่มส่งกลิ่นเหม็น ขณะที่ ผู้ใหญ่บ้านเผยนอกจากผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว สภาพจิตใจชาวบ้านก็ต้องเข้าไปให้กำลังใจ

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำพอง โดยเฉพาะที่บ้านท่ามะเดื่อ ม.7 และ ม.8 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยมวลน้ำที่ระบายจากเขื่อนอุบลรัตน์ยังคงไหลผ่านลงลำน้ำพอง โดยวันนี้ระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ลดลงจากเมื่อวาน 7 ซม. โดยมี ปริมาณน้ำในเขื่อน 3,107.98 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 128 % ของความจุเขื่อน โดยมีน้ำไหลเข้าเขื่อน 30.97 ล้าน ลบ.ม. และแผนการระบายน้ำวันนี้อยู่ที่ 43 ล้าน ลบ.ม. เป็นการระบายน้ำลดลงจากเมื่อวานนี้ 3 ล้าน ลบ.ม.และจะลดลงแบบขั้นบันไดวันละ 3 ล้าน ลบ.ม.ไปจนถึงวันที่ 21 ต.ค.ก็จะเข้าสู่การ ระบายน้ำวันละ 40 ล้าน ลบ.ม.เป็นต้นไป

ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำพองยังคงเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรของ ต.ท่ากระเสริมได้รับความเสียหายทั้งหมด ขณะที่ภายในหมู่บ้านพบว่า ชาวบ้านในพื้นที่ที่มีกว่า 400 หลังคาเรือน ทั้งบ้านท่ามะเดื่อม. 7 และบ้านท่ามะเดื่อ ม. 8 ชาวบ้านบางส่วนที่มีบ้านชั้นเดียวต้องอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยจากน้ำท่วม บางส่วนที่ยังอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านพบว่าระดับน้ำยังไม่เข้าในตัวบ้าน บางหลังน้ำกระสอบทราบมากั้นสูงกว่า 1 ม.เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าบ้าน การสัญจรต้องใช้เรือ หรือรถไถในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน และบางคนที่ไม่มีเรือหรือรถไถก็จะเดินลุยน้ำไปซื้อของ หากเจอเรือหรือรถไถที่ชาวบ้านสัญจรผ่านมาก็สามารถอาศัยกันไปได้ โดยชาวบ้านให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี โดยระดับน้ำในหมู่บ้านต่ำสุดอยู่ที่ 15 ซม. และจุดที่ลึกที่สุดอยู่ท้ายหมู่บ้าน ระดับน้ำท่วมสูงถึงกว่า 2 เมตร และระดับน้ำลดลงจากเมื่อวานเล็กน้อย

นายสุชัยรัตน์ ไกรฤาชา อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ.ท่ามะเดื่อ ม. 7 กล่าวว่า ขณะนี้การช่วยเหลือมีทั้งภาครัฐและเอกชน นำถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้งมาแจกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน ทั้งข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม รวมทั้งห้องน้ำชั่วคราวปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่มาสร้างให้ 15 ห้อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ยังต้องการเพิ่มเติม เพราะในหมู่บ้านท่ามะเดื่อนั้นมีสองหมู่บ้าน  ประชากรรวม 410 หลังคาเรือน ขณะที่น้ำที่เข้ามาท่วมนั้นยังทรงตัวลดลงเล็กน้อย

" หากไม่มีน้ำมาเพิ่มและเขื่อนอุบลรัตน์ปรับลดการระบายลงต่อเนื่องจนเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน แต่ในระยะเวลาดังกล่าวนั้น ถือว่ายาวนานมาก และปีนี้ถือว่าหนักที่สุด นอกจากเรื่องความต้องการข้าวสารอาหารแห้ง และห้องน้ำแล้ว เรื่องของสภาพจิตใจชาวบ้านบางครัวเรือนเริ่มแย่ลง เพราะการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป แต่หลายๆคนที่อยู่กับสถานการณ์นี้มาทั้งชีวิตก็จะสามารถปรับตัวได้ไว เพราะปกติน้ำจะท่วม 5 ปีครั้ง แต่ครั้งนี้หนักสุด ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้นำชุมชน ก็พากลุ่มแม่บ้าน และผู้ช่วย ออกให้กำลังใจชาวบ้านด้วย"

ทั้งนี้ มวลน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ที่ไหลลงสู่ลำน้ำพองนั้น ยังได้เอ่อล้นพื้นที่การเกษตรขึ้นมาท่วมผิวจราจรบนถนนอีกหลายสาย ทั้งถนนสาย ต.ท่ากระเสริม-ต.หนองตูม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ระดับน้ำสูงประมาณ 20-40 ซม. แต่กระแสน้ำไหลเชี่ยว รถเล็กต้องขับอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งตลอดทั้งสาย มีน้ำท่วมถนนเป็นระยะหลายจุดตลอดเส้นทาง และเส้นทางหลักอีกจุดคือบริเวณ สี่แยกเคียมห้วย ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น มุ่งหน้าไป พระธาตุขามแก่น อ.น้ำพอง ยังคงปิดช่องทางการจราจร 1 เลน ระยะทางประมาณกว่า 200 เมตร ระดับน้ำล่าสุดอยู่ที่ 70 ซม. และอีกช่องทางการจราจรสามารถผ่านไปได้แต่รถเล็กควรหลีกเลี่ยงเส้นต้องใช้เส้นทางบ้านโคกสี แทน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำป้ายแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์เส้นทางเอาไว้อำนวยความสะดวก

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า  จากการระบายน้ำของเขื่อนที่ลดลง จะทำให้น้ำค้างทุ่งและน้ำที่ท่วมขัง ในเขต อ.เมือง ก็จะระบายลงตามไปด้วย ซึ่งหากเป็นลักษณะเช่นนี้ คาดว่า 1 สัปดาห์ น้ำก็จะลดระดับลงตามการบริหารจัดการน้ำ อีกทั้ง ในระยะนี้ฝนทิ้งช่วง ทำให้มวลน้ำไหลลงอ่างของเขื่อนอุบลรัตน์ลดลง ส่วนพายุที่ตกในช่วงที่ผ่านมาก็เติมน้ำในจุดท้ายเขื่อนมากกว่า 

"สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้นทุกหน่วยงานได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยขอยืนยันว่าการช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐ และ อปท. นั้นมีการแจกจ่ายอย่างทั่วถึง แต่ในส่วนของภาคเอกชนที่เข้าพื้นที่เอง และไม่มีการแจ้งจังหวัด หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบได้รับทราบ สิ่งของที่ส่งมอบอาจจะไม่ทั่วถึง จึงขอให้หน่วยงานใดที่จะเข้าให้การช่วยเหลือ เพราะคนไทยไม่ไร้น้ำใจและต้องการที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขอให้มีการประสานพื้นที่ เพื่อจะได้กำหนดสิ่งของและรับทราบถึงการให้ความช่วยเหลือให้ครอบคลุมและครบทุกคน"