จัดหนัก จัดเต็ม!ร้านลาบ-ก้อยชื่อดังขอนแก่นนำขาวัวน้ำหนัก 60 กก.แห่ขันหมากสู่ขอลูกสะใภ้

ขอนแก่น-ร้านลาบ ก้อยชื่อดังขอนแก่น รับลูกสะใภ้เข้าบ้าน จัดหนัก จัดเต็ม ขาวัวน้ำหนัก 60 กก. ร่วมขบวนแห่ขันหมาก พร้อมรังสรรค์เมนูอาหารมงคลจากขาวัว  ให้คนในงานแต่งได้รับประทานจนอิ่มท้องตลอดทั้งวัน

เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 17 ธ.ค.2565 ที่โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งได้กำหนดให้มีการจัดพิธีมงคลสมรสระหว่าง น.ส.ฐิติรัตน์ ศิรินามมนตรี หรือน้องหมิว อายุ 26 ปี และนายสุนทร คลับชำนาญ หรือ น้องโอ อายุ 30 ปี โดยทางครอบครัวเจ้าบ่าวนั้น มีกิจการร้านอาหารอีสานชื่อดังของ จ.ขอนแก่น คือร้าน “สีก้อยฟ่าว” ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้าน โนนสวรรค์ หมู่ 6 ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น

ทั้งนี้เมื่อลูกชายแต่งงานทั้งที่ นายกระสินธ์ คลังชำนาญ พ่อเจ้าบ่าวจึงได้จัดเต็มในเรื่องของอาหารอีสานจากเนื้อวัว ตามประเพณีความเชื่อของชาวอีสานต้องมีลาบ มีก้อย ให้แขกที่มาร่วมเฉลิมฉลองในงานแต่งลูกชายได้รับประทานลาบ ก้อย กันให้อิ่มหนำสำราญตามความต้องการของเจ้าภาพ จึงได้จัดขาวัวสดๆ น้ำหนักข้างละ 30 กิโลกรัมจำนวน 2 ขา มาร่วมในขบวนขันหมากสู่ขอลูกสะใภ้ด้วย

ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานต่างมีความสุข ยินดีกับคู่บ่าวสาวสุดแสนชื่นมื่น โดยเฉพาะเพื่อนเจ้าบ่าวและคนแบกขาวัวทั้งเต้น ทั้งโยกเข้าจังหวะเพลงอย่างมันส์ ก่อนจะผ่านด่านประตูเงินประตูทองซึ่งต้องทำภารกิจทั้งเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าบ่าว ต้องโชว์ลีลาเอวอ่อนรอดโซ่ประตูเพื่อเข้าไปเรียกเจ้าสาวเข้าสู่พิธีการบนเวที

แต่ไฮไลท์ยังอยู่ที่ขาวัวที่นำมาในขบวนแห่ขันหากสู่ขอเจ้าสาววันนี้ ซึ่งทางฝ่ายเจ้าบ่าวได้ยกครัวเคลื่อนที่ พร้อมเครื่องปรุงครบเซ็ต ไม่มีขาดตกบกพร่อง และที่สำคัญคือ เลือดสด และ ดีขมๆ ที่นิยมใส่ในเมนูเนื้อวัวเมนูต่างๆ ให้ได้รสชาติอีสานขนาดแท้ และกุ๊กจากทางร้านก้อยสีฟ้าว ก็เริ่มหั่น เริ่มเฉือน เริ่มปาดเนื้อวัวสดๆจากขาวัวหนัก 30 กิโลกรัม จำนวน 2 ขา รวมทั้งหมด 60 กก.แล้วรังสรรค์เป็นเมนูมงคล ทั้งลาบ ทั้งก้อย แต่หากแขกที่มาร่วมงามไม่ชอบกินดิบ ก็จะมีเมนูลาบคั่ว ก้อยคั่วร้อนๆเสิร์ฟให้เช่นกัน เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับประทานอาหารที่รสชาติดีจากกุ๊กร้านอาหารชื่อดัง และเป็นอาหารชื่อมงคลในงานมงคลสมรสวันนี้ด้วย

นายกระสินธ์ คลังชำนาญ พ่อเจ้าบ่าวและเจ้าของร้าน สีก้อยฟ้าว กล่าวว่า ครอบครัวได้เปิดร้านขายลาบก้อยมานานกว่า 12 ปี โดยมีลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารเต็มร้านทุกวัน ซึ่งร้านตนเองนอกจากจะเป็นร้านอาหารอีสานแล้ว ยังมีรถยนต์โบราณ และสิ่งของหายากเพื่อให้ลูกค้าได้เข้าไปชมเหมือนกับเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ

"นอกจากนี้ตนเองยังได้นำรถตู้ที่ตกแตงแนววินเทจ มามอบเป็นของขวัญรับลูกสะใภ้ด้วย ซึ่งลาบก้อยเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหาร ที่จะต้องมีเสิร์ฟในงานมงคลทำให้ตนเองจึงต้องมีลาบ ก้อย เพื่อให้แขกๆที่เข้าร่วมงานได้รับประทาน โดยเอกลักษณ์ของร้านตนเองนั้น จะใช้เนื้อวัวสดๆมาเป็นวัตถุดิบ ส่วนเมนูก้อยจะนำเนื้อวัวมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ก่อนจะนำไปใส่เครื่องปรุงโดยจะต้องใส่ดี เพื่อให้มีรสขมอ่อนๆ และจะต้องใส่เลือดวัวไปด้วยไม่มาก เพื่อเพิ่มสีสันของก้อย จึงทำให้ได้รับความนิยมมานานหลายปี"