ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จับกุมนักค้ายา “เมียนมา” ขณะเปิดรีสอร์ท ขายยาบ้าให้ลูกค้า
วันที่ 27ธ .ค.65 ตำรวจชุดตะวันปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยสั่งการของ พ.ต.อ. อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก. สภ.หาดใหญ่ , พ.ต.ท. มาชา แก้วทอง รอง ผกก.ปสภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วางแผนจับกุมนายอาซัน มูอาหมัด อายุ 20 ปี เชื้อชาติเมียนมาซึ่งมีพ่อแม่เป็นคนเมียนมา ขณะขับรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างมาเปิดห้องพักภายในทุ่งทองรีสอร์ท ถนนทุ่งทอง ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อขายยาบ้าให้กับลูกค้า
โดยตำรวจได้แฝงตัวเป็นพนักงานรับส่งอาหารเพื่อเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหว กระทั่งได้เดินออกมาจากห้องพักเพื่อส่งยาบ้าให้กับลูกค้าบริเวณปากทางเข้ารีสอร์ท จึงแสดงตัวเข้าจับกุมแต่ปรากฏว่าได้วิ่งหนีตำรวจไปตามถนนระยะทาง 200 เมตร ก็หมดแรงและถูกจับกุมได้ตรวจค้นในตัวพบยาบ้าจำนวน 43 เม็ด และพากลับไปค้นในห้องพักไม่พบยาบ้าหรือยาเสพติดชนิดอื่นเพิ่มเติม แต่ค้นในกระเป๋าพบบัญชีซื้อขายยาเสพติดด้วย
และขณะถูกจับกุมได้มีนางหฤทัย เส้งกุ่ย อายุ 27 ปี พร้อมลูกชายอายุ 4 ปี ได้มาหานายอาซัน ที่ห้องพักในรีสอร์ท ทันทีทนายอาซันเห็นหน้าภรรยา ถึงกับจับมือร่ำให้โฮออกมาทันทีและกุมมือภรรยาไว้ ส่วนภรรยาก็ร่ำให้เช่นกันเมื่อเห็นสามีถูกจับกุมเพราะสงสาร และต่างฝ่ายก็ต่างพูดร่ำลากัน
จากการสอบถามนายอาซัน เชื้อชาติเมียนมาแต่มาเกิดในประเทศไทย ทราบว่าเดิมมีอาชีพรับเหมาต่อเติมบ้าน แต่ที่หันมาขายยาบ้า เพราะพักหลังงานไม่ค่อยมีและเงินไม่พอใช้ และเพิ่งอยู่กินกับภรรยาได้ไม่นาน และมีลูกติดมาด้วย และบอกว่าตัวเองค้ายาบ้าเพียงคนเดียวภรรยาไม่เกี่ยว
ตำรวจจึงแจ้งข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมายและเสพยาบ้า นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับนายอาซัน ก่อนที่จะถูกจับกุมในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 65 ที่ผ่านมา เพิ่งประสบอุบัติเหตุขับรถกระบะสี่ประตูตกคูกลางถนนลพบุรีราเมศวร์ พื้นที่หมู่ 3 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะนั่งกันมาในรถ 3 คน พ่อแม่ลูก
โดยพุ่งลงไปชนติดอยู่กับต้นไม้พลิกตะแคงข้าง ตัวรถด้านหน้าพังยับและต้นไม่ขาด 1 ต้น แต่ทั้ง 3 คนรอดมาได้แทบไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แถมภรรยายังโชว์พระหลวงปู่ทวดที่ลูกชายวัย 4 ขวบห้อยคออยู่ บอกเป็นเพราะบารมีหลวงปู่ทวด ที่ทำให้รอดชีวิตมาได้ทั้ง 3 คน โดยตอนเกิดเหตุกำลังขับรถยนต์กระบะไปเปลี่ยนคันใหม่ ที่เต้นรถยนต์มือสอง แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน.
