วันครูอามานะศักดิ์ส่อวุ่นวาย หลังจากหนึ่งในผู้บริหารอามานะศักดิ์ไม่ได้กล่าวคำขอโทษต่อหน้าสาธารณะ

วันครูอามานะศักดิ์ส่อวุ่นวาย หลังจากหนึ่งในผู้บริหารอามานะศักดิ์ไม่ได้กล่าวคำขอโทษต่อหน้าสาธารณะ





ad1

วันครูอามานะศักดิ์ส่อวุ่นวาย หลังจากหนึ่งในผู้บริหารอามานะศักดิ์ไม่ได้กล่าวคำขอโทษต่อหน้าสาธารณะตามเนื้อหาที่ได้มีการตกลงในชั้นศาล เมื่อมีญาติผู้เสียหายลุกขึ้นถามผู้บริหารต่อกรณีดังกล่าวจึงเกิดเหตุโกลาหล

วันนี้(18มกราคม66)ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดกิจกรรมวันครูที่จัดขึ้นเป็นปีแรกอย่างเป็นทางการ  โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิอามานะศักดิ์เพื่อการศึกษา คณะผู้บริหารโรงเรียนอามานะศักดิ์ กรรมการที่ปรึกษาและบรรดาคุณครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมพร้อมเพรียงกัน

โดยมีกำหนดการจัดงานเริ่มเมื่อเวลา08.30น.-09.00น.คณะครูและผู้เข้าร่วมกิจกรรมวันครูลงทะเบียน จากนั้นได้มีการเริ่มพิธีด้วยการอัญเชิญพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน โดยนักเรียนอามานะศักดิ์ด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ จากนั้นมีการบรรยายธรรมจากอาตารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในหัวข้อเรื่องความสมานฉันท์ ครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นมีการร่วมอ่านอัลกุรอ่านบทยาซีน นำโดยครูอุสมาน ลาเตะ เพื่อเป็นศิริมงคลและอุทิศบุญกุศลแด่ผู้ร่วมก่อตั้งและบรรดาคุณครูที่ล่วงลับมาก่อนหน้านี้ ต่อมามีการเชิญประธานมูลนิธิอามานะศักดิ์เพื่อการศึกษา และผู้บริหาร กล่าวให้โอวาทให้กับคุณครูและบุคลากรทางการศึกษา เ บรรยากาศนั้นเงียบสงบ

ภายใต้การบริหารโรงเรียนอามานะศักดิ์ ชุดใหม่ ผู้ได้รับใบอนุญาตคนใหม่ และคณะกรรมการมูลนิธิอามานะศักดิ์เพื่อการศึกษาชุดใหม่ ที่มีนายจักรกฤช วรสูตร เป็นผู้ได้รับใบอนุญาต นายยะโกะ เบ็ญมะเซ็งหรือเปาะซูโกะนั่งเป็นประธานมูลนิธิฯคนปัจจุบัน หลังจากที่ได้มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการมูลนิธิอามานะศักดิ์เพื่อการศึกษา และคณะบริหารโรงเรียนอามานะศักดิ์ชุดใหม่  .ในลักษณะคล้ายกับเป็นการยึดอำนาจจากนางสาวกาญจนา เด่นอุดมหอมชื่นหรือแม่ครู จากการเป็นประธานมูลนิธิฯและผู้ได้รับใบอนุญาต

ทำให้สถานะโรงเรียนอามานะศักดิ์เกิดคลื่นซัดไปซัดกันมาจนกลายเป็นคดีความฟ้องร้องกัน เป็นเวลาหลายปี ดูเหมือนทุกอย่างเริ่มจะกลับมาด้วยดี

ภายหลังจากทั้งสองฝ่ายยอมที่ถอยและเข้าสู่กระบวนไกล่เกลี่ยในชั้นศาล เพื่อยุติการดำเนินความกับคดีที่เคยฟ้องร้องศาลมาก่อนหน้านี้ ภายใต้เงื่อนไขว่านางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่น หรือแม่ครู ที่ถูกนายสุชาติ อนันตศาสน์ เลขามูลนิธิฯและผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนอามานะศักดิ์คนปัจจุบัน กล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์จำนวนเงินในบัญชี3 ด้วย เพื่อเหตุที่สุชาติให้การรับสารภาพว่าเหตุผลที่ต้องมีการกล่าวหานางกาญจนาหรือแม่ครูนั้นว่า ”ข้าฯพูดข้อความในที่ประชุม เพื่อจูงใจให้คณะกรรมการที่เข้าร่วมประชุมลงมติเพื่อขับไล่นางกาญจนาหรือแม่ครูออกจากเป็นผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนอามานะศักดิ์ กล่าวขอโทษ

ในบันทึกยังได้ระบุอีกว่า นายสุชาติได้ร่างบันทึกที่เป็นการกล่าวขอโทษนางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่นแล้ว ศาลจึงมอบให้นางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่นนำกลับไปตรวจสอบโดยผ่านทนาย หากไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง นายสุชาติจะกล่าวถ้อยคำดังกล่าวต่อหน้าสาธารณะในวันที่16มกราคม2566 ที่โรงเรียนอามานะศักดิ์ ซึ่งเป็นวันครู และจะมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก เพื่อเป็นการกล่าวขอโทษจำเลย(นางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่น/แม่ครู) ทีมีการกล่าวหาพาดพิงทำให้จำเลย(แม่ครู)ได้รับความเสียหาย

@@เนื่องจากในวันนี้ได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว และหากเป็นที่พอใจของจำเลย(แม่ครู)ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีหมิ่นประมาท จำเลย(แม่ครู)และนายสุชาติจะนัดมาที่ศาลนี้เพื่อแถลงให้ศาลทราบ และวางเงินค่าเสียหายแล้วจำเลย(แม่ครู)ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีหมิ่นประมาทจะแถลงขอถอนคำร้องทุกข์ในคดีดังกล่าวต่อไป.....นี่เป็นส่วนหนึ่งบันทึกในชั้นศาล อาจเป็นเหตุผลหลักในการจัดงานวันครูอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ที่เป็นครั้งแรกแต่น่าเสียดายที่มีผู้ปกครองเด็กนักเรียนมากันน้อยมาก ทั้งๆที่ผู้บริหารอามานะศักดิ์อยากให้บริหารด้วยวิธีบริสุทธิ์ โปร่งใส่ เป็นแบบครอบครัวกัน

จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงได้มีการดำเนินพิธีขอโทษขอขมาของนายสุชาติ อนันต์ศาสตร์ เลขานุการมูลนิธิฯและผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนอามานะศักดิ์คนปัจจุบัน ต่อนางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่น/แม่ครู อดีตผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนอามานะศักดิ์ยุคแรกๆในฐานะผู้บุกเบิกและผู้กาอตั้งโรงเรียนอามานะศักดิ์ภายในมูลนิธิฯ ในกรณีที่ถูกกล่าวหาจากนายสุชาติว่ายักยอกทรัพย์เงินในบัญชี3 แต่ไม่มีมูลความจริง เพียงแค่กล่าวหาใส่ร้ายเพื่อเป็นการโน้มน้าวคณะกรรมการมูลนิธิฯ เพื่อลงมติขับนางกาญจนาออกจากเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต จึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาทสั่งให้ปรับเงินสด1แสนบาท เพื่อยุติคดีความระหว่างกันจึงมีการไกล่เกลี่ยคดีในชั้นศาลที่นอกเหนือจากค่าปรับ1แสนบาท เพื่อสู่การถอนฟ้องต่อกัน ภายในเงื่อนไขนายสุชาติ ต้องกล่าวขอโทษ ขอขมา นางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่นหรือแม่ครูด้วยคำถ้อยแถลงเนื้อหาที่ได้มีการตกลงกันไว้ในชั้นศาล

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงวันนี้กลับไม่ได้เป็นไปตามที่ได้มีการตกตงกันไว้ โดยเฉพาะเนื้อหาถ้อยคำที่ออกมาขอโทษไม่เป็นไปตามเนื้อหาที่ได้ตกลงกัน และไม่มีการแอกชั่นใดๆเลย เช่นการมอบดอกไม้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความจริงใจ จึงไม่แปลกที่ญาติของนางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่นได้เปิดปากถามนายสุชาติ ต่อหน้าสาธารณะว่าทำไม่ถึงไม่กล่าวถ้อยคำ เนื้อหาที่ได้มีการตกลงกันที่ศาล เรียกร้องให้นายสุชาติตอบ จนกลายเป็นประเด็นโต้ตอบกันระหว่างฝ่าย จะกลายเป็นเวทีโกลาหล มีตัวแทนของผู้ปกครองเปิดปากถามอีกว่าแล้วเมื่อไรพวกคุณจะมอบคืนตำแหน่งให้กับแม่ครู จนทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในงานออกมาเตือนสติให้ทุกฝ่ายสงบอารมณ์ ก่อนที่ผู้ดำเนินรายการจะดำเนินการตามโปรแกรมกันต่อไป

ด้านตัวแทนผู้ปกครองไม่อยากเอยนามว่าได้ฟังผู้บริหารพูดออกมาว่าโรงเรียนติดหนี้ปีละล้านกว่าบาท จึงไม่สามารถเพิ่มเงินเดือน ค่าตอบแทนให้กับบุคลากรทางการศึกษาได้ นักการภารโรงทำหน้าที่หนักดูแลโรงเรียนบริเวณโรงเรียนได้เป็นอย่างตลอดอย่างต่อเนื่องเพียงค่าตอบแทนไม่กี่พัน สถานะการเงินของโรงเรียนตอนนี้ไม่เพียงพอ แต่ไม่เอาครูออกเพื่อแก้ไขปัญหา สิ่งที่ผู้ปกครองอยากทราบว่าสถานการณ์สถานะการเงินโรงเรียนติดลบแต่ทำไมผู้บริหารบางคนตั้งเงินเดือนให้กับตัวเองสูงถึง4หมื่นบาท บางคนสูงถึง7หมื่นบาทต่อเดือน มันเป็นข้อเท็จจริงไหม อยากได้คำชี้แจงจากฝ่ายบริหารโรงเรียนอามานะศักดิ์และผู้บริหารมูลนิธิฯอีกด้วยว่ามันเป็นเพียงข่าวลือหรือมันคือความจริง

ส่วนบรรยากาศทั่วไปที่น่าทึ่งก็คือบรรดาคุณครูอามานะศักดิ์ที่เข้าร่วมงานวันครูในวันนี้ ต่างเข้าล้อมกอดนางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่นหรือแม่ครู พร้อมลั่งน้ำตา ที่ร่วมรับรู้ชะตากรรม ที่เกิดขึ้นกับแม่ครู หลายปีที่ไม่ได้พบเห็นหน้ากัน หลังถูกยึดอำนาจบริหารอย่างไม่เป็นธรรม หวังว่าเวทีในวันนี้สามารถเป็นบทเรียนของทุกๆคน

@@@@ประวัติโรงเรียนอามานะศักดิ์โดยสังเขป....โรงเรียนอามานะศักดิ์ตั้งอยู่ภายใต้มูลนิธิอามานะศักดิ์เพื่อการศึกษา ที่บริหารในรูปของคณะกรรมาการมูลนิธิฯ หลังจากที่ได้สับเปลี่ยนการจดทะเบียนโรงเรียนในรูปของบริษัทมาก่อนหน้านี้หลังจากต้องประสบกับปัญหาในเรื่องของงบประมาณ

การดำเนินการจัดจดทะเบียนมูลนิธิอามานะศักดิ์เพื่อการศึกษาใช้ทุนจดทะเบียนครั้งแรกในวงเงินทุน500,000บาท(ห้าแสนบาทถ้วน) ต้องยกความดีให้กับนางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่น ที่ได้ทุ่มเทพลังกายและใจ ในการเดินสายหาทุนสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี ท่ามกลางที่มีเสียงคัดค้านจากผู้บริหารบางคนในปัจจุบัน เมื่อจดทะเบียนมูลนิธิฯได้สำเร็จ จึงได้มีการยกเลิกทะเบียนโรงเรียนในนามของบริษัท แล้วเปลี่ยนมาจดทะเบียนโรงเรียนอามานะศักดิ์ภายใต้มูลนิธิฯจนตราบทุกวันนี้ หลังจากมีการเปลี่ยนสถานะโรงเรียนอามานะศักดิ์มาอยู่ภายใต้มูลนิธิฯที่มีนางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่น นั่งตำแหน่งประธานมูลนิธิฯและตำแหน่งผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนอามานะศักดิ์ ตั้งแต่เริ่มแรก เพราะคงไม่มีใครที่เหมาะสมกว่า ที่จะมานี่งในตำแหน่งดังกล่าว เพราะผู้บริหารปัจจุบันบางคนไม่ได้เข้ามาร่วมในการดำเนินการจดมูลนิธิฯและปฏิเสธไม่เห็นด้วยกับการจดเป็นมูลนิธิฯซ้ำไป จากด้วยสถานะที่เป็นข้าราชการครูมาก่อน เติบโตในวงการศึกษามาอย่างยาวนาน จึงเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารโรงเรียนฯผลักดันอย่างมืออาชีพ ทำให้โรงเรียนอามานะศักดิ์มีชื่อเสียงโด่งดังว่าเด็กนักเรียนที่นี่เรียนเก่ง ทำให้เกิดแรงศรัทธาจากประชาชนทั่วจังหวัดปัตตานี

โรงเรียนอามานะศักดิ์เป็นโรงเรียนในระดับอนุบาลและระดับประถมศึกษายุคแรกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานีที่มีการสอนหลักสูตรบูรณาการศาสนาควบคู่กับสามัญ ทำให้เด็กนักเรียนที่นี่เก่งทั้งสามัญและศาสนา จนทำให้ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ปกครองในพื้นที่เป็นอย่างมาก ทำให้โรงเรียนคับแคบทันทีไม่สามารถรองรับการเติบโตของโรงเรียนในอนาคต ทำให้ผู้บริหารมูลนิธิฯที่มีนางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่น ได้ร่วมหารือกับผู้ใหญ่ใจบุญ เพื่อจัดหาทุนทรัพย์เพื่อก่อสร้างโรงเรียนให้เพียงพอกับการขยายขนาดของโรงเรียน จนสามารถรับทุนสนุนการก่อสร้างอาคารเรียนขนาดสี่ชั้นจากกองทุนอิสลามิกแบงก์หรือIDB เป็นตึกขนาดสี่ชั้นหลังแรกจึงตั้งชื่อตึกหลังนี้ว่า”อาคารเรียน IDB” ทาสีเขียวจนตราบปัจจุบัน ซึ่งต้องยกความดีจากผู้ใหญ่ใจดี อัลมัรโฮมมูฮัมหมัด ฮาเรสเทรดดิ่ง เจ้าของร้านกีตาบฮาเรสเทรดดิ่ง ทำหน้าที่ประสานกับกองทุนIDB จนประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นก็ได้รับการสนับสนุนอาคารตึกขนาดสี่ชั้นเพิ่มอีกหนึ่งอาคารเรียนจากกองทุนกองทุนอิสลามิกแบงก์หรือIDBเช่นกัน เพื่อรองรับการพัฒนาการเจริญเติบโตของโรงเรียนอามานะศักดิ์ภายใต้การบริหารของนางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่น

ส่วนบัญชี3 ที่ประเด็นฟ้องร้องกันนั้นที่กล่าวหาว่าแม่ครูยักยอกทรัพย์นั้นที่ถูกศาลพิพากษาความผิดในข้อหาหมิ่นประมาทแล้วนั้น นางกาญจนา เด่นอุดม หอมชื่นไม่ได้ยักยอกเงินตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด ในชั้นศาลก็ได้พิสูจน์แล้วว่าแม่ครูนั้นสุจริตและบริสุทธิ์