"บิ๊กตู่"ส่งความห่วงใยจนท.ปฎิบัติงานชายแดนใต้ขอให้ทำงานเพื่อปชช.-สันสุขปลายด้ามขวาน

"บิ๊กตู่"ส่งความห่วงใยจนท.ปฎิบัติงานชายแดนใต้ขอให้ทำงานเพื่อปชช.-สันสุขปลายด้ามขวาน





ad1

นราธิวาส-"พล.อ.ประยุทธ์"นายกรัฐมนตรี ส่งความห่วงใยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในชายแดนใต้ เผย ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน และสันติสุขปลายด้ามขวาน

วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2566) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบหมายให้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เยี่ยม สิบโท สุรินทร์ รักษ์ดี อายุ 25 ปี เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดสมาชิกอาสาสมัครชุดคุ้มครองตำบลสาวอ      อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส 

ภายหลังปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยเส้นทางรถไฟและกำลังเดินทางกลับฐานปฏิบัติการหลังจากปฏิบัติหน้าที่แล้วเสร็จ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิดเส้นทางดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบ 8 ราย โดย สิบโท สุรินทร์ รักษ์ดี โดนสะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะ กกหูข้างซ้าย และมีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อและแก้วหูซ้ายทะลุ ซึ่งขณะนี้ พักรักษาตัวอยู่ ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ทุกนายที่ได้รับผลกระทบ ขอให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน ความสงบและสันติสุขของประเทศชาติ ขณะเดียวกัน ก็ขอให้รักษาตัวด้วยการรักษาวินัยขณะปฏิบัติหน้าที่ อาทิ สวมชุดเกราะ หรือชุดเครื่องแบบป้องกันตนเอง เพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลังต่อไป

สำหรับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ศอ.บต. โดยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดนราธิวาส ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น กรณีร่างกายได้รับบาดเจ็บ เป็นจำนวนเงินขั้นต่ำ 10,000 บาท และจะมีการพิจารณาระดับความเจ็บป่วยจากแพทย์ที่รักษา เมื่อแพทย์ออกเอกสารรับรองระดับความเจ็บป่วย ก็จะมี     การเยียวยาตามหลักเกณฑ์ขั้นต่อไป 

โดยเมื่อระบุระดับความรุนแรงของบาดแผล มีอาการบาดเจ็บรุนแรง พิการ หรือทุพพลภาพระดับ 5 จะมีการเยียวยาเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท บาดเจ็บสาหัสระดับ 4 เป็นเงินเยียวยา 50,000 บาท บาดเจ็บปานกลางระดับ 3 เยียวยาจำนวน 30,000 บาท บาดเจ็บเล็กน้อยระดับ 1-2 เป็นเงินเยียวยาจำนวน 10,000 บาท ตามหลักเกณฑ์ฯ ทั้งนี้ผู้ได้รับผลกระทบจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงาน  ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อื่นๆอีกด้วย ซึ่งจะมีการเยียวตามหลักเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานต่อไป