เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยภาคใต้ทยอยปิดกิจการ ขาดทุนอ่วมตัวละ 2,000 – 2,500 บาท

เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยภาคใต้ทยอยปิดกิจการ ขาดทุนอ่วมตัวละ 2,000 – 2,500 บาท





ad1

แหล่งข่าวจากผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า ภาวะหมูกล่องมีบางลงแล้วจากผลกระทบที่ราคาสุกรไทยราคาทยอยลงจนถึงขณะนี้ราคาประมาณ 74-75 บาท / กก. เป็นสุกรมีชีวิตราคาหน้าฟาร์ม และราคาหน้าเขียงบางตลาดบางพื้นที่ที่ราคา 140-160 บาท / กก. และจากการที่กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร ทหาร วางมาตรการเข้มข้นตรวจสอบจับกุมส่งผลต่อการนำเข้าหมูกล่องจากต่างประเทศ

“ตอนนี้ราคาหมูกล่อง ราคาประมาณ 100 บาท ต้น ๆ / กก. ขณะที่หมูชำแหละของไทยหน้าเขียงบางตลาดบางพื้นที่ ราคา 140 -60 บาทต้น ๆ / กก. สำหรับหมูกล่องเป็นหมูแช่เย็นที่เนื้อหมูชำแหละมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 เดือน ส่วนหมูไทยหน้าเขียงเป็นหมูร้อนที่เพิ่งชำแหละ” แหล่งข่าว ระบุ

แหล่งข่าว ยังกล่าวอีกว่า แต่ถึงอย่างไรแม้ว่าราคาสุกรของไทยราคาจะทยอยลง และมาตรการเข้มข้นในการตรวจสอบจับกุม แต่ก็ยังมีหมูกล่องลอยลำทางทะเลที่จะขึ้นฝั่งอยู่อีกประมาณ 400 ตู้ โดยบรรจุตู้ละ 12 ตัน

แหล่งข่าว กล่าวว่า ขณะนี้เพื่อป้องกันการนำหมูกล่องจากประเทศเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ทางสมาคมสุกรของไทย ได้วางเงินรางวัลนำจับ จำนวน 2,000 บาท / ตัน ตลอดจนถึงค่าทำลายสุกรลักลอบนำเข้าอีกจำนวนหนึ่งด้วย.
นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า ภาวะสุกรตอนนี้ราคาได้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาสุกกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ประมาณ 74 บาท และ 75 บาท / กก. ขณะที่ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย รายเล็กและขนาดกลาง ๆ ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 95 บาท และ 100 บาท / กก. ประสบภาวะขาดทุนตอนออกขายสุกรมีชีวิตตัวละกว่า 2,000 บาทถึง 2,500 บาท

“จากที่สุกรไทยราคาทยอยลงและส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงรายย่อย รายเล็ก และขนาดกลาง ๆ ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก เพราะจากต้นทุนการผลิตตั้งแต่เริ่มเลี้ยงอยู่นั้นสูงมากและจนกว่าเอาออกขายได้” นายปรีชา กล่าว.