"ด.ญ.อ้อ บ่อเกลือใต้" ไม่ขออะไรมาก อยากเรียนต่อเพื่ออนาคตที่ดี วอนผู้ใจบุญหนุนโอกาสทางการศึกษา

น่าน-ฝันเล็กๆของเด็กเมืองน่าน "ด.ญ.อ้อ  บ่อเกลือใต้" ไม่ขออะไรมาก อยากเรียนต่อเพื่ออนาคตที่ดี วอนผู้ใจบุญสนับสนุนโอกาสทางการศึกษา

ที่จังหวัดน่าน ครูโรงเรียนบ้านบ่อหลวง ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน  ประกาศขอความเมตตาจากผู้ใจดี ใจบุญ มีกำลังทรัพย์ ช่วยเหลือเด็กนักเรียนในสังกัดโรงเรียน ที่เรียนจนชั้นป.6 แล้ว แต่ทางบ้านมีฐานะยากจน ไม่มีเงินส่งเรียน เตรียมให้ ไปทำงานรับจ้างรายวัน หาเงินเลี้ยงครอบครัวแทน

นางสุจิตรา ยาวิไชย  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบ่อหลวง  เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนที่โรงเรียนหลายคน ทางบ้านมีฐานะยากจน บางรายไม่มีพ่อแม่ อาศัยอยู่กับปู่ย่า ตายาย ที่แก่ชรา ไม่มีอาชีพ  โดยรายล่าสุดที่ทางโรงเรียนกำลังหาทางช่วยเหลือ ได้แก่ ด.ญ.อรวรรณ ใจปิง  หรือ น้องอ้อ   อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่13 บ้านน้ำแพะ ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน  เป็นนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนบ้านบ่อหลวง ที่กำลังจะจบการศึกษา แต่ความขาดแคลนของครอบครัวทำให้ไม่มีทางเลือกที่จะได้เรียนต่อระดับมัธยมศึกษา ทางบ้านเตรียมให้ออกมารับจ้างทำงานเพื่อช่วยหารายได้เลี้ยงครอบครัวอีก 8 ชีวิต และต้องช่วยเลี้ยงน้อง อายุ 6 เดือน เพื่อสลับให้แม่ออกไปทำงานหารายได้

ซึ่งทางโรงเรียนเสียดายโอกาสของน้องอ้อ ที่เป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 3.20 หากได้เรียนหนังสือต่อในระดับสูงๆ ก็อาจจะช่วยให้เด็กมีทางเลือกในชีวิต มีงานทำที่ดี มีอนาคตที่ดีขึ้น แต่หากความยากจนต้องทำให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา และความรู้ที่น้อยนิดก็จะทำให้หางานทำได้ยาก ทำได้เพียงขายแรงงาน งานรับจ้างทั่วไป ตามร้านค้า ร้านอาหารในหมู่บ้านเท่านั้น  รู้สึกเสียดายอนาคตของเด็กนักเรียน

และจากการตรวจเยี่ยมติดตามเด็กนักเรียนของคุณครู ทำให้ได้เห็นสภาพบ้านของน้องอ้อ   ที่อยู่รวมกันมากถึง 8 คน  น้องอ้อ อาศัยรวมอยู่กับ ตา  ยาย แม่ พี่สาว หลานชาย และน้องๆ ต่างพ่อ อีก 2 คน  โดยมีนางสาวอรอนงค์ ใจปิง อายุ 20 ปี  เป็นพี่สาวคนโต ที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนบ่อเกลือ ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอบ่อเกลือ   แล้วไม่ได้เรียนต่อ ต้องออกมาทำงานรับจ้างอยู่ที่ร้านขายของ มีรายได้วันละ 300 บาท และอรอนงค์เป็นเสาหลักคนเดียวที่ทำงานหารายได้เลี้ยงทั้งครอบครัว

 ส่วน ตาและยาย ทำอาชีพการเกษตรในที่ดินที่รัฐจัดสรรให้ ด้วยการปลูกข้าวไร่  หัวมัน และ ข้าวโพด มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 2,000-3,000 บาท ซึ่งก็เอามาใช้จุนเจือเรื่องค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน แต่รายได้ที่หารวมกันมาได้ ไม่เพียงพอที่จะส่งลูกหลานให้ได้เรียนหนังสือสูงๆ เพราะค่าใช้จ่ายไม่ได้มีแค่เพียงเรื่องค่าเทอม แต่ยังมีเรื่องค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน ค่าชุดเสื้อผ้านักเรียน  ซึ่งเป็นเรื่องยากที่ทางครอบครัวจะสนับสนุนได้  การให้น้องอ้อออกจากโรงเรียนแล้วมาช่วยทำงานหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวจึงเป็นทางเลือกเดียวที่ครอบครัวทำได้

ด้าน ด.ญ.อรวรรณ ใจปิง  หรือ น้องอ้อ  บอกว่า  "หนูไม่ขออะไร ขอแค่ได้เรียนหนังสือต่อ  เรียนที่ไหนก็ได้ ขอแค่ให้ได้เรียนต่อ"  และเมื่อถามย้ำไปอีกว่า ถ้าขอให้กับตัวเองอยากขออะไร น้องอ้อ ตอบแบบเด็กใสซื่อที่คิดถึงครอบครัว "หนูขอข้าวสาร  ขอเป็นข้าวเหนียว ขอของกินเป็นอาหารแห้ง "

อย่างไรก็ตามขณะนี้ ทางคณะครูโรงเรียนบ้านบ่อหลวง  ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับพลตรีคณิศร  อาสมะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 และ นายธนวัฒน์ รุ่งเรืองศรี นายอำเภอบ่อเกลือ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ  เข้าเยี่ยมบ้าน และสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองเด็กนักเรียน ที่ต้องให้บุตรหลานเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับ และความสำคัญของการศึกษาที่จะช่วยสร้างอนาคตที่ดีได้  โดยเบื้องต้นได้เปิดบัญชีขอรับบริจาคจากผู้ใจบุญ เพื่อเป็นทุนการศึกษา  ซึ่งทางโรงเรียนจะเป็นผู้ดูแลบัญชีเงินฝาก  และประสานโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 น่าน ให้เด็กได้เรียนในระดับต่อไป  ทั้งนี้สามารถร่วมบริจาคทุนการศึกษาได้ทางบัญชีธนาคาร ธกส. เลขบัญชี 020152281937  ชื่อบัญชี ด.ญ.อรวรรณ ใจปิง  หรือสอบถามครูประจำชั้น โทร.0892661297