แม่ทัพภาคที่ 4เดินสาย พบปะผู้นำศาสนา จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี มอบผลอินทภาลัมเนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอน 1444

แม่ทัพภาคที่ 4เดินสาย พบปะผู้นำศาสนา จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี มอบผลอินทภาลัมเนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอน 1444





ad1

แม่ทัพภาคที่ 4 เดินสาย พบปะผู้นำศาสนา จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี มอบผลอินทภาลัมเนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอน 1444 ให้รอมฎอนปีนี้เป็นปีอันประเสริฐของพี่น้องมุสลิมทุกคน ย้ำรักษาความปลอดภัยเข้มงวด เพื่อดูแลทุกข์สุข สร้างสันติสุขแก่พี่น้องประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้

 วันนี้ (18 มีนาคม 2566) เวลา 09.00 น. ที่ตำบลลำใหม่  อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เข้าพบ ดร.สะมะแอ  ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1444  เพื่อส่งกำลังใจผ่านไปยังพี่น้องมุสลิม ขอให้รอมฎอนปีนี้ได้เก็บเกี่ยวผลบุญอย่างสมบูรณ์ตามที่ตั้งใจ  โดยมี พันเอก นิติ ติณสูลานนท์ รองเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ,พันเอก ปองเชษฐ์ พูนช่วย ผู้อำนวยการสำนักมวลชนและกิจการพิเศษ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ส่วนหน้า พร้อมคณะผู้บังคับบัญชากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ส่วนหน้า เข้าเยี่ยมให้กำลังใจก่อนมอบอินทผาลัมอบแห้งและสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อใช้ละศีลอดห้วงเดือนรอมฎอน

 จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะฯ เข้าพบปะและมอบอินทผาลัม รวมถึงสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการถือศีลอด ตามบทบัญญัติทางศาสนาแก่ นาย แวดือลาแม  มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ที่โรงเรียนเตรียมศึกษา ตำบลรูสะมิแล  อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

 โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่าวันนี้ถือเป็นอีกโอกาสดี ที่ได้พบปะกับประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนอันประเสริฐที่พี่น้องมุสลิมจะได้ประกอบความดี ปฎิบัติศาสนกิจตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม ตามแบบอย่างของศาสดาอย่างเคร่งครัด พร้อมย้ำว่าขอส่งกำลังใจผ่านผู้นำศาสนาไปยังพี่น้องมุสลิมทุกพื้นที่ ขอให้รอมฎอนปีนี้เป็นปีแห่งการรับผลบุญที่เท่าทวีคูณอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งในฐานะแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมให้การสนับสนุนทุกกิจกรรมตลอดห้วงเดือนรอมฎอน และพร้อมเข้าร่วมกิจกรรมเมื่อได้รับคำเชิญ ยืนยันพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนตลอดห้วงเดือนรอมฎอนอย่างดีที่สุด รวมไปถึงการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมจะดำเนินการไปพร้อมกัน

เพราะนอกจากในเดือนรอมฎอนของพี่น้องมุสลิมแล้ว ประชาชนไทยพุทธก็เป็นวันทำบุญปีใหม่ไทย รดน้ำสรงพระในวันสงกรานต์เช่นกัน ซึ่งมันจะทำให้เราเห็นวัฒนธรรมที่หลากหลายภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเกิดความสุขร่วมกัน ส่วนด้านวัฒนธรรมอยากให้แสดงออกถึงอัตลักษณ์กันอย่างเต็มที่ การแต่งกายที่สวยงามตามประเพณี เพราะนั่นคือความสวยงามและคงเสน่ห์ของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนขอความร่วมมืองดจุดพลุประทัดที่เป็นการเฉลิมฉลอง เนื่องจากอาจจะสร้างความสับสนและเกิดอันตรายได้ ซึ่งผู้นำศาสนาต่างเห็นด้วยในความร่วมมือดังกล่าว และเข้าใจในแนวทางการดำเนินงานของภาครัฐส่งข้อมูลให้กับประชาชนรับทราบด้วยดีเสมอมา

 โดยประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี กล่าวรู้สึกซาบซึ้งใจ พร้อมขอบคุณที่แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 มาเยี่ยมเยือน ให้กำลังใจถึงบ้าน  ยืนยันพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงร้องขอ อีกทั้งร่วมขออำนวยพร (ดุอาอ์)ให้แก่แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกนายมีแต่ความสุขในชีวิต ประสบความสำเร็จทุกเรื่อง ร่วมกันสานต่อภารกิจพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สู่สันติสุขอย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกันในวันนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะได้ถือโอกาสนี้ เยี่ยมให้กำลังใจ นาง รอมียะห์ มูดอ และครอบครัว ซึ่งเป็นภรรยาของนายเจ๊ะมูหามะญากี เจ๊ะเด็ง อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านดอนรัก ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ขณะช่วยเจรจากับผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อมอบอินทผาลัมอบแห้ง และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ อยู่เคียงข้างกันในทุกเทศกาลอีกด้วย

 ทั้งนี้การปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศจะดูดวงจันทร์ในวันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2566 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า หากในวันและเวลาดังกล่าวมีผู้เห็นดวงจันทร์ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจะตรวจสอบและรายงานผลการดูดวงจันทร์ดังกล่าวมายังจุฬาราชมนตรี เพื่อออกประกาศแจ้งให้พี่น้องมุสลิมได้ทราบโดยทั่วกันต่อไป อย่างไรก็ตามวันเริ่มถือศีลอดมีระยะเวลาประมาณ 1 เดือน โดยพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ซึ่งชาวไทยพุทธ มุสลิม มีความสามัคคีและให้เกียรติซึ่งกันและกัน อีกทั้งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนนำพาไปสู่สังคมแห่งสันติสุขที่ยั่งยืน