ตำรวจสงขลาออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหาแก๊งขนแรงงานเถื่อนสังหารโหดชาวเมียนมา 3 ศพทิ้งชายป่า

ตำรวจสงขลาออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหาแก๊งขนแรงงานเถื่อนสังหารโหดชาวเมียนมา 3 ศพทิ้งชายป่า





ad1

คดีฆ่าแรงงาน “เมียนมา”  3 ศพ  จ.สงขลา ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 5 คน พร้อมรถ 5 คัน เป็นกลุ่มรับจ้างขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา ขณะขนมากับรถกระบะตู้ทึบ 3 คัน จากจ.สมุทรปราการ มาส่งในพื้นที่เกิดเหตุ

ความคืบหน้าคดีพบศพแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองถูกฆ่าหมู่ 3 ศพ และนำไปทิ้งนอนเรียงกันบริเวณชายป่าห่างจากถนนลพบุรีราเมศวร์เข้าไปประมาณ  200 เมตร ก่อนถึงไปรษณีย์เขต 9 หมู่8 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา 

โดยมี 1 ศพ ถูกจับมัดมือมัดมัดเท้าและใช้มีดปาดคอ ส่วนอีก 2 ศพ ถูกตีด้วยของแข็งที่ใบหน้าและศีรษะ และทั้ง 3 คน ผูกเชือกแดง ที่ข้อมือเป็นสัญลักษณ์ และทั้ง 3 ศพ เป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี 2 คน และวัยรุ่นอีก 1 คน 

ล่าสุดคดี หลังจากที่มีการระดมทีมสืบสวนจาก 5 หน่วยทั้งชุดสืบสวน สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา ชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา  ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 ชุดสืบสวน ตม.สงขลา

โดยตามแกะรอยหาเบาะแสคนร้ายทั้งจากภาพกล้องวงจรปิดและสอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่าคดีนี้เบื้องหน้าเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับขบวนการขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติ 


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าช่วงเกิดเหตุ มีรถกระบะตู้ทึบ 3 คัน ขับเข้าออกจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นรถขนแรงงานเถื่อน

พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ ทองด้วง ผกก. สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา เผปิดเผยว่า คดีหลังจากมีการรวบรวมพยานหลักฐานได้มีการขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 5 คนและสามารถจับกุมได้หมดทั้ง 5 คน แล้วเมื่อวานนี้ (19มี.ค.66) 

ประกอบด้วยนายชวัลวิชย์ หรือโก้ กว้างขวาง อายุ 22 ปี พร้อม นส.หนึ่งฤทัย ยินดีพิศ อายุ 19 ปี แฟนสาว นายนรินทร์หรืออั้ม อายุ 24 ปี พร้อม นส.มลวรรณ หรือบิ๋ม เปรงปราง อายุ 25  ปีแฟนสาว  และนายนาวีหรือมาร์ค ป้อมค่าย อายุ 28 ปี ทั้ง 5 คน เป็นชาว จ.สมุทรปราการ

พร้อมกับยึดรถที่ใช้ก่อเหตุ 5 คัน จากพื้นที่ จ.สมุทรปราการ 2 คัน จากเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี 1 คัน และจาก จ.นราธิวาส 2 คัน  แยกเป็นรถขนแรงงานเถื่อนและรถนำทาง 3 คัน ประกอบด้วยรถยนต์กระบะตู้ทึบ ที่ใช้ขนแรงงานเถื่อนและรถนำทาง 3 คัน ประกอบด้วยรถกระบะไฮลักษ์รีโว่ สีขาว ทะเบียน 2 ฒส 7880 กทม. รถกระบะอีซูซูดีแมค สีเทา ทะเบียน 2 ฒห 618 กทม. 

ซึ่งสองคันนี้เป็นรถขนแรงงานเมียนมาคันละประมาณ 15 คน และรถกระบะอีซูซุ สีขาวทะเบียน 2 ฒศ 6278 กทม.ซึ่งเป็นรถนำทาง  ส่วนอีก 2 คัน เป็นรถกระบะมีรั้วหรือรถคอกและรถตู้ ซึ่งเป็นรถที่มารับช่วงต่อไปส่งที่ จ.นราธิวาส

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การว่าขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา มาจากพื้นที่ จ.สมุทรปราการ มาเมื่อประมาณเที่ยงคืน วันที่ 14 มีนาคม 66 และมาส่งในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา จุดที่พบศพในเวลาประมาณ 10.30 น.ของวันเดียวกัน 

ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนนั้น ขนมากับรถกระบะอีซูซุ ดีแมค สีเทา ทะเยียน 2ฒห 618 กทม. ที่มีนายนรินทร์หรืออั้ม นส.กมลวรรณ หรือบิ๋ม แฟนสาวขับขี่มาและเป็นรถคันที่อยู่ตรงกลาง 

โดยบอกว่า ขับรถมาตามถนนสายเอเชีย จนมาถึงช่วงจ.สุราษฎร์ธานี กับ จ.นครศรีธรรมราช ได้ยินเสียงดังผิดปกติท้ายรถเหมือนการต่อสู้กัน จนฝากระโปรงท้ายเปิด จึงหยุดรถและรีบปิดทันที เพราะกลัวเหมือนกัน แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามีการฆ่ากันตายในรถ

จนขับมาถึงปลายทางในที่เกิดเหตุตอนที่ให้แรงงานต่างด้าวลงจากรถ จึงรู้ว่ามีการฆ่ากันตายถึง 3 คน จึงให้กลุ่มแรงงานต่างด้าวยกลงจากรถมาทิ้งไว้ ก่อนที่จะมีรถอีก 2 คัน ซึ่งเป็นกระบะรั้วกับรถตู้มารับช่วงต่อขนแรงงานต่างด้าวไปยังปลายทางที่ จ.นราธิวาส 

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ถูกแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ"ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันปิดบัง ซ่อนเร้น ย้ายทำลายศพฯ,ร่วมกันซ่อนเร้นให้ที่พักพิง ช่วยเหลือประการใดใดให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฏหมาย  

พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ เปิดเผยอีกว่า  หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสอบสวนขยายผลต่อไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมากลุ่มนี้ ทั้งต้นทางและปลายทางที่ จ.นราธิวาส ซึ่งยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน  

ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ก่อเหตุฆ่าแรงานต่างด้าวด้วยกันนั้นถูกส่งต่อไปยังปลายทางที่ จ.นราธิวาส แล้วตอนนี้ยังไม่สามารถบอกว่าได้ข้ามแดน ไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วหรือไม่หรือว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่.