ผอ.ศปพร. ร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทำบุญ ถวายเพลพระ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ณ วัดรัตนานุภาพ จ.นราธิวาส

ผอ.ศปพร. ร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทำบุญ ถวายเพลพระ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ณ วัดรัตนานุภาพ จ.นราธิวาส





ad1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ วัดรัตนานุภาพ  ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางลงพื้นที่ เพื่อถวายภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ ร่วมกับส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เนื่องในวันพระ ประจำเดือน พฤษภาคม 2566 ตามโครงการเสริมสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง กิจกรรมการสนับสนุนภัตตาหารแด่พระสงฆ์ในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงภัย ไม่สามารถบิณฑบาตได้  พร้อมทั้งสอบถามความเป็นอยู่ของพระสงฆ์ และการปฏิบัติศาสนกิจ   ตลอดจนได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยง ร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น โดยมี พันเอกภาคิน เกื้อกูล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48  เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนาประจำตำบล เข้าร่วมในกิจกรรม

จากนั้น พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะ ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ นางประทุม นักทอง หรือ"ป้านิ่ม" อายุ 55 ปี ประชาชนได้รับบาดเจ็บสาหัส สูญเสียขาทั้งสองข้าง จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดในสวนยางพาราพื้นที่หมู่ 2 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ต่อมาหลังทำการรักษาเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และได้รับการใส่ขาเทียม ซึ่งปัจจุบันป้านิ่มสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ปรับสภาพเข้ากับขาเทียมทั้ง 2 ข้างได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญจิตใจของป้านิ่มแข็งแกร่งมาก แม้จะเผชิญกับเหตุการณ์ที่รุนแรง แต่ป้านิ่มกลับบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงฝันร้ายที่ตื่นมาก็หายไปแล้ว ทุกวันนี้พอใจกับความสุขที่ได้อยู่ดูลูกหลานเติบโต และชีวิตในปัจจุบัน

ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว  ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาร่วมทำบุญ ถวายเพลพระ ร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เนื่องในวันพระ พร้อมทั้งได้มาพบปะพี่น้องประชาชนไทยพุทธ เป็นการส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และสานสัมพันธ์สังคมพหุวัฒนธรรมพื้นที่ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง และสร้างขวัญกำลังใจ ให้พี่น้องประชาชนอยู่ในพื้นที่ รวมถึงเพื่อให้ประชาชนไทยพุทธ ไม่อพยพ หรือย้ายถิ่นฐานเพิ่ม รวมทั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจ ให้พี่น้องประชาชนไทยพุทธ และประชาชนไทยมุสลิม อาศัยอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม และที่สำคัญ เพื่อเป็นการมอบความห่วงใยสร้างความสัมพันธ์ อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

โดยมีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้นและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้พี่น้องประชาชนในชุมชนมีขวัญ และกำลังใจดีขึ้น ลดช่องว่าง สร้างความเข้าใจ และขจัดปัญหาความน้อยใจระหว่างพี่น้องประชาชนไทยพุทธ และประชาชนไทยมุสลิมในพื้นที่ “แตกต่างแต่ไม่แตกแยก ” ส่งเสริมการสร้างสภาพแวดดล้อมชุมชนให้น่าอยู่ เพื่อไม่ให้สมาชิกในชุมชนอพยพถิ่นฐานออกนอกพื้นที่ ตลอดจนเป็นการ สร้างความรัก และความสามัคคี ปรองดองให้เกิดขึ้นในชุมชน “มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” เพราะเรายืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยผืนเดียวกัน

โดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ” แนวทางตามโครงการพระราชดำริ เป็นการปฎิบัติตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง โดยมุ่งหวังมิให้เกิดการละทิ้งถิ่นฐานของประชาชนในพื้นที่ จชต. ส่งเสริมการประกอบอาชีพของชุมชนไทยพุทธให้สามารถประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูตนเอง และครอบครัว รวมถึงการเข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ อาทิเช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อการพึ่งพาตนเอง สร้างแรงจูงใจเพื่อให้ประชาชนกลับมายังถิ่นฐานเดิม โดยโครงการดูแลชุมชนไทยพุทธ ของศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มี 3 โครงการ ได้แก่

1.โครงการฟื้นฟูไทยพุทธเสริมสร้าง เพื่อเข้าไปดูแล ส่งเสริม สนับสนุนขั้นต้น ให้แก่ ประชาชนในพื้นที่ในการประกอบอาชีพทางการเกษตร และการเลี้ยงสัตว์ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ ลงพื้นที่สอบถามความต้องการในการประกอบอาชีพเพิ่มเติม ทั้งด้านการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และความต้องการอื่นๆ ของพี่น้องประชาชนในชุมชนไทยพุทธ ในพื้นที่ จชต. เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างความเชื่อมั่นเกิดความรู้สึกปลอดภัยในพื้นที่ สร้างความเข้มแข็งขึ้นในชุมชน เกิดสำนึกรักถิ่นฐานบ้านเกิด ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ละทิ้งถิ่นฐาน

2. โครงการพัฒนาศาสนสถาน เพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์ ซ่อมแซม วัด สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ ที่ชำรุดทรุดโทรมให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรงเพื่อใช้ในการปฎิบัติศาสนพิธีได้

3. โครงการสนับสนุนภัตตาหารแด่พระสงฆ์ในพื้นที่ชุมชนล่อแหลม / เสี่ยงภัยไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพระสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่ล่อแหลม / เสี่ยงภัย ให้มีภัตตาหารที่เพียงพอ สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ และไม่ละทิ้งวัด

โดย...ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส