ชาวขอนแก่นนับร้อยร้องเจ้าหน้าที่สหกรรณ์ยักยอกเงินกว่า 20 ล้านบาท

ชาวขอนแก่นนับร้อยร้องเจ้าหน้าที่สหกรรณ์ยักยอกเงินกว่า 20 ล้านบาท





ad1

ขอนแก่น-ชาวบ้านนับร้อยคน พากันไปเบิกเงินที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีเงิน เพราะถูกเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์ยักยอกไปกว่า 20 ล้านบาท ขอเวลา 1 เดือนตรวจให้คืนทั้งต้นทั้งดอก

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเปือยน้อย จ.ขอนแก่นและ สภ.เปือยน้อย ได้มีชาวบ้านกว่า 100 คน นำสมุดคู่ฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เล่มสีน้ำเงิน และ สมุดคู่ฝากบัญชีเงินฝากพิเศษออมทรัพย์ เล่มสีชมพู และเอกสารจากทางสหกรณ์ที่แสดงรายงานการเดินบัญชี ซึ่งระบุไม่ตรงกับในสมุดคู่ฝากบัญชีของชาวบ้านที่เป็นสมาชิก เข้าร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคยนพร้อมทั้งการเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อเป็นกระบอกเสียงสะท้อนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบกรณีเงินในบัญชีของชาวบ้านที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยหายไป

น.ส.พวงผกา คงพันแสง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม. 7 ต.สระแก้ว อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้มอบอำนาจให้แม่ไปถอนเงินจำนวน 420,000 บาท แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถเบิกเงินได้ เพราะเกิดปัญหาระบบล่ม ขอเวลา 3 วัน จะดำเนินการเบิกจ่ายให้ จึงคิดว่าสถาบันการเงินขนาดใหญ่ไม่ควรจะเกิดปัญหาติดขัดแบบนี้ น่าจะมีเงินหมุนเวียนอยู่แล้ว จนกระทั่งเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาได้ให้แม่ไปถอนเงินและปิดบัญชี เพราะไม่เชื่อใจ ซึ่งไปขอ 3 ครั้งก็บอกเพียงว่าไม่มีเงินให้ บอกเพียงว่าขอเวลาหาเงินก่อน

"ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางสหกรณ์ติดประกาศไว้หน้าสหกรณ์ว่าระบบล่ม 8-15 พ.ค.ซึ่งชาวบ้านมีการพูดคุยกันมาตลอด ไม่มีใครสามารถถอนเงินได้ จึงรวมกลุ่มกัน ไปที่สหกรณ์ แต่ก็ยังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรมาก เพราะมีตัวแทนชาวบ้านเข้าไปคุยในห้องผู้จัดการเพียง 2คน ทางชาวบ้านจึงบอกให้ออกมาชี้แจงกับชาวบ้านข้างนอก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่า มีคนทุจริตยักยอกเงินไปกว่า 10 ล้านบาท จึงทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้ ขอเวลาในการตรวจสอบ 1 เดือน และจะชดใช้เงินทั้งต้นทั้งดอกคืนให้กับสมาชิกทุกคนที่ถูกยักยอกเงินออกไปจากบัญชี จึงเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมซึ่งได้ประสานไปยังสหกรณ์จังหวัดส่งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง"

น.ส.พวงผกา กล่าวต่ออีกว่าในส่วนของสมุดบัญชีที่ชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกทุกคนมีอยู่นั้น ข้อมูลไม่ถูกต้อง เป็นการปลอมข้อมูลขึ้นมาโดยเจ้าหน้าที่การเงิน โดยในสมุดบัญชีลงข้อมูลเบิกจ่ายตามจริงที่เราทำธุรกรรม แต่ในระบบการเดินบัญชีของสหกรณ์มีการเบิกจ่ายนอกเหนือจากที่ทำธุรกรรมทางการเงิน จนเงินในบัญชีจากหลักแสนบาทเหลือเพียงหลักหมื่นบาทเท่า ซึ่ง หากสามารถนำเงินมาคืนทั้งต้นทั้งดอกได้ตามที่บอกกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ชาวบ้านก็ไม่ติดใจ ส่วนเรื่องอื่นว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งเชื่อว่าไม่ได้ทำคนเดียว มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก

ขณะที่นาย ประมวล ดงแสง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.7 ต.ขามป้อม อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น กล่าวว่าทำงานที่ กทม. และนำเงินฝากกับสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ซึ่งฝากเข้าบัญชีจนได้เงินเก็บกว่า 2,400,000 บาท ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ามีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น  จนกระทั่งในวันที 12 พ.ค.ได้เดินทางกลับมาจาก กทม.เพื่อมาขอถอนเงินจำนวน 1,300,000 บาท  เพราะจะนำไปซื้อที่ทำนา แต่เมื่อมาขอถอนเงินเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถถอนได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์ยักยอกไปจนหมด ซึ่งทางสหกรณ์ขอดำเนินการตรวจสอบไม่เกิน 2 เดือน และจะดำเนินการจ่ายเงินคืนทั้งต้นและดอกเบี้ยคืนให้ครบทั้งหมด

"ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ตนเองฝากเงินไว้อยู่ 2,400,000 บาท  ถูกยักยอกเงินไป 1,300,000 บาท ซึ่งก็ถามว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วจะถอนเงินที่เหลืออีกล้านกว่าบาทคืนได้ไหม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกขอตรวจสอบก่อน ส่วนเรื่องที่ทางสหกรณ์บอกว่ามีเจ้าหน้าที่เอาเงินไป ตนเองก็ไม่ได้สอบถามมาก ทราบเพียงว่า สหกรณ์ให้เหตุผลที่ถอนเงินไม่ได้เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ยักยอกเงินไปและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากตรวจสอบเสร็จก็จะดำเนินการคืนเงินให้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยครบทั้งหมด"

นายประมวล กล่าวต่ออีกว่า จ้าหน้าที่ของสหกรณ์ยังได้ยื่นขอเสนอว่า ต้องการที่ดินแทนเงินที่ถูกยักยอกไปหรือไม่ ตนเองก็บอกว่าหากมีที่ดินแทนเงินสดได้ก็เอา จึงหามาให้เลือกตนเองจึงเลือกที่ดินเนื้อที่ 8 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตีราคาเป็นเงิน 2 ล้านบาท โดยบอกที่แรกไร่ละ 200,000 บาท แต่พอมาดูที่บอกเป็นไร่ละ 250,000 บาท ตนเองก็เอะใจว่าทำไมถึงพูดกลับไปกลับมาแต่ก็ตกลงเอา แต่มาในช่างรังวัดที่ดิน มีเกินมา 1 งานเศษ จึงเรียกเงินจากตนเองอีก 90,000 บาท จึงบอกว่า พูดกลับไปกลับมา เงินเก่ายังไม่ได้ ยังจะมาเอาเงินใหม่อีก จึงปฏิเสธไม่เอาที่ดินแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงบอกให้กลับมาคิด ก่อนจะกลับมาบ้านและได้พูดคุยกับชาวบ้าน ชาวบ้านก็เจอปัญหาเช่นเดียวกันจึงรวมตัวกันทยอยเข้าแจ้งความ หากถามว่าเชื่อมั่นไหมว่าจะได้เงิน ตอบเลยว่าไม่มีความมั่นใจ เพราะจำนวนเงินหลายสิบล้าน จะใช้เวลาแค่ เดือนสองเดือนมาคืนให้ก็เชื่อยาก หากเป็นปีก็จะพอเชื่อได้ และหากได้เงินคืนตนเองก็ไม่ติดใจส่วนคดีก็ว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย โดยพบว่าทางสหกรณ์ได้ทำการปิดให้บริการเนื่องในวันหยุดวันพืชมงคล ซึ่งจากการตรวจสอบพบประกาศข้อควงามระบุระว่า "สหกรณ์ฯงดให้บริการการรับฝากเงิน การถอนเงิน ชั่วคราว เพื่อปรับปรุงโปรแกรมการใช้งานคอมพิวเตอร์ เนื่องจากพบความผิดปกติของระบบการให้บริการและโปรแกรมการใช้งาน สหกรณ์จึงของดบริการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 8-15 พ.ค.66"