ศูนย์การเรียนรู้พุทธศิลป์วัดแสงดาว พื้นที่สร้างสรรค์งานเชิงช่างศิลป์พื้นถิ่นน่าน มากกว่ากิจกรรมเวิร์คช๊อป คือการอนุรักษ์และต่อยอดภูมิปัญญา

ศูนย์การเรียนรู้พุทธศิลป์วัดแสงดาว  พื้นที่สร้างสรรค์งานเชิงช่างศิลป์พื้นถิ่นน่าน มากกว่ากิจกรรมเวิร์คช๊อป คือการอนุรักษ์และต่อยอดภูมิปัญญา





ad1

วัดแสงดาว  ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดน่าน  สร้างขึ้นโดย ครูบาอินต๊ะ ซึ่งเป็นครูบามหาป่าเมื่อปี พ.ศ. 2490  เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านแสงดาวมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กว่า 76 ปี  ความยึดโยงของวัดและชาวบ้านมีความเหนี่ยวแน่น โดยเฉพาะด้านองค์ความรู้และภูมิปัญญางานฝีมือเชิงช่างพุทธศิลป์ของกลุ่มช่างศิลป์ท้องถิ่นและครูช่าง   หรือที่ชาวเหนือเรียกกันว่า "สล่า"  ที่มีการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น  ซึ่งในอดีตนั้น กลุ่มช่างพุทธศิลป์เป็นผู้ที่มีทักษะสูง เป็นงานที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก  แต่ปัจจุบันกลับเลือนรางหายไปตามกาลเวลาและยุคสมัย  กลุ่มช่างศิลป์มีน้อยลงและซ่อนตัวทำงานเงียบๆ ในหมู่บ้าน องค์ความรู้และภูมิปัญญาก็จะหายไปกับครูช่างทั้งหลาย หากไม่ได้มีการบันทึกหรือถ่ายทอดไว้

พระมหาธนพล ธมฺมพโล เจ้าอาวาสวัดแสงดาว และประธานกลุ่มพุทธศิลป์น่าน   คนน่านรู้จักและเรียกขานกันว่า "พระอาจารย์มหาโล่" แกนหลักสำคัญที่ทำให้เกิด "ศูนย์การเรียนรู้พุทธศิลป์วัดแสงดาว" ซึ่งใช้พื้นที่ของวัด เป็นพื้นที่เรียนรู้และรวบรวมภูมิปัญญางานช่างพุทธศิลป์เมืองน่าน  ทั้งงานไม้ งานปูนปั้นสด งานลงรักปิดทอง  โดยมุ่งหวังให้เกิดการฟื้นฟูและอนุรักษ์สืบสานงานช่างพุทธศิลป์ให้คงไว้เป็นมรดกของชาวเมืองน่าน

ซึ่งจากความตั้งใจและทุ่มเทของพระมหาโล่ ได้ดึงความร่วมมือจากหลายภาคส่วน มาร่วมพัฒนาศูนย์แห่งนี้ ทั้งจากการขับเคลื่อนสถาบันช่างศิลป์ท้องถิ่น  ของโครงการจัดตั้งวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ TASSHA (Thailand Academy of Social Sciences, Humanities and Arts) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)   โครงการฐานข้อมูลพุทธศิลป์ เครื่องเงินและหัตถกรรม การฝึกอบรมช่างศิลป์ และการจัดตั้งหอจดหมายเหตุขององค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน  ซึ่งสอดคล้องกับโครงการช่างศิลป์ของสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.)   และโครงการจัดทำหลักสูตรมรดกวัฒนธรรมงานหัตถกรรมพื้นถิ่นน่าน เพื่อขับเคลื่อนเมืองน่านสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. โดยมีศูนย์น่านศึกษา หออัตลักษณ์นครน่าน วิทยาลัยชุมชนน่าน เป็นหน่วยประสานและร่วมดำเนินการในฐานะสถาบันการศึกษา

การเติบโตของศูนย์การเรียนรู้พุทธศิลป์วัดแสงดาว   ในช่วงกว่า 2 ปี ที่ผ่านมา ด้วยความร่วมมือหลายหน่วยงาน ทำให้เกิดงานวิจัยและกลายเป็นคลังความรู้ด้านพุทธศิลป์ เครื่องเงิน ผ้าน่าน และดนตรีพื้นบ้าน    จนนำไปสู่การพัฒนาเป็นหลักสูตรพุทธศิลปกรรมท้องถิ่นน่าน ได้แก่ แกะสลักพระพุทธรูปไม้ งานปูนปั้นสด และการลงรักปิดทอง  คัมภีร์ใบลาน งานปักผ้าหน้าหมอน    เกิดกิจกรรมเวิร์คช๊อปฝึกทักษะและเรียนรู้งานเชิงช่างศิลป์ ถ่ายทอดไปสู่ผู้คนที่สนใจกลุ่มต่างๆ ทั้งกลุ่มช่างฝีมือ  กลุ่มเด็กและเยาวชน  กลุ่มพระสงฆ์ สามเณร และผู้ที่สนใจงานช่างฝีมือ  มีการเปิดพื้นที่จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้  เกิดการรวมตัวของกลุ่มช่างศิลป์แขนงต่างๆ  กิจกรรมเวิร์คช๊อปฝึกทักษะ เกิดแรงบันดาลใจและไอเดียสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ๆ ที่ต่อยอดมาจากฐานภูมิปัญญาดั้งเดิม   โดยผลงานส่วนหนึ่งถูกรวบรวมและแสดงไว้ที่หออัตลักษณ์นครน่านด้วย

นางสาวอภิญญาตา ทนะขว้าง  นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน ผู้ที่ชื่นชอบและศึกษาการวาดภาพจิตรกรรมมาโดยตลอด  ได้เรียนรู้การวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังสกุลช่างน่าน จากศูนย์การเรียนรู้พุทธศิลป์วัดแสงดาว  หลักสูตร 1 เดือนเต็ม เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา  โดยฝึกวาดตั้งแต่เริ่มต้นลงลายเส้น จนถึงการลงสีธรรมชาติ ทำกาวมะขามผสมดินสอพอง รองพื้นเฟรมสำหรับวาดภาพ ศิลปะสกุลช่างน่านแบบโบราณดั้งเดิม จากภูมิความรู้ สู่การฝึกฝน วันนี้สามารถวาดภาพจิตรกรรมได้อย่างสวยงาม  สิ่งสำคัญคือการได้ซึมซับองค์ความรู้ภูมิปัญญาที่หาเรียนได้ยาก ยิ่งวาดไปเรียนรู้ไป ก็ยิ่งรู้สึกอินกับงานภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังและงานสกุลช่างน่าน  ซึ่งในอนาคตมุ่งหวังให้งานวาดภาพจิตรกรรมของตน มีคนชื่นชอบและยอมจ่ายเพื่อได้เป็นเจ้าของ  ถึงแม้ไม่ได้หวังให้ถึงกับเป็นอาชีพหรือสร้างรายได้ แต่ก็อยากให้ภาพวาดของตนเองขายได้ โดยพี่ๆ ที่ไปเรียนพร้อมกันในหลักสูตรนี้ สามารถขายภาพวาดของตัวเองกันได้แล้วด้วย