กู้ภัยงมหาวุ่นไม่พบร่างหลังผัวโหดกระทีบกระจกรถแตกเมียตกใจวิ่งหายลงน้ำที่แท้ยังมีชีวิต

กู้ภัยงมหาวุ่นไม่พบร่างหลังผัวโหดกระทีบกระจกรถแตกเมียตกใจวิ่งหายลงน้ำที่แท้ยังมีชีวิต





ad1

อุทัยธานี-กู้ภัยวุ่น!!งมหาตั้งนานไม่พบร่าง หลังสามีแจ้งภรรยาวิ่งหายลงน้ำ ก่อนหน้าทะเลาะกันใช้ฝ่าเท้ากระทืบรถภรรยากระจกแตก ฝากรอยเท้าไว้ที่หลังรถ ที่แท้ภรรยาวิ่งหนีตายหายเข้าไปในป่าขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

เมื่อเวลา 14.00.น.ของวันที่ 03 มิ.ย.66 สถานีตำรวจภูธรเมืองการุ้งได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีสามีภรรยาทะเลาะกัน แล้วภรรยาวิ่งหนีหายลงไปในสระน้ำ ที่หมู่ 3 ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี หลังได้รับแจ้ง ได้ประสานไปยังกู้ภัยอุทัยธานีชุดประดาน้ำ จุดเมืองการุ้ง และจุดใกล้เคียงให้มาช่วยกันงมร่างหาหญิงสาวที่เป็นภรรยาของสามีดังกล่าว จึงรุดไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านยืนดูมุงอยู่ที่บริเวณขอบสระน้ำลึกประมาน 4 เมตร กว้างประมาน 1 งาน แถวบริเวณที่ทำไร่ จนท.กู้ภัยชุดประดาน้ำลงงมร่างหาหญิงสาวนานกว่าหลายชั่วโมงก็ยังไร่วี่แวว

ล่าสุดได้มีชาวบ้านมาบอก ว่าพบหญิงสาวแล้ว ไม่ได้จมน้ำ อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง จึงได้ยุติการค้นหาใต้น้ำ

จากการสอบถามทางด้านสามีผู้สูญหายชื่อนายเอนก หรือนายหนู อายุ 36 ปี อยู่หมู่ 3 ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นสามีของผู้สูญหายชื่อนางสาวเกสราหรือม่วย ซึ่งเป็นภรรยาของตนเอง ช่วงเกิดเหตุตนเองและนางสาวม่วย ได้มีปากเสียงกัน โดยนายหนูเองได้บอกว่าเป็นห่วงภรรยา ไม่อยากให้ภรรยาของตนเองออกไปไหน อยากให้ช่วยกันทำงาน

แต่ทางด้านภรรยาของตนเองนั้นจะออกไปข้างนอกอย่างเดียว ตนเองเลยโมโหเดินไปขวางที่หน้ารถ แล้วก็ขึ้นไปพังรถของนางสาวม่วยที่ด้านหน้ารถจนเกิดกระจกแตก แล้วภรรยาก็วิ่งหายไปที่บริเวณขอบสระน้ำดังกล่าว ต่อมาตนเองก็ได้บอกกับชาวบ้านว่าให้ช่วยออกกันตามหานางม่วยแถวบริเวณตามป่าอ้อยก็ไม่พบ จึงคิดว่าภรรยาต้องกระโดดลงในน้ำอย่างแน่นอน พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยงมร่างภรรยา พร้อมกับจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง ล่าสุดก็ทราบภายหลังว่าภรรยาหรือนางสาวม่วย ไม่ได้กระโดดลงน้ำ

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านภรรยาของนายหนู หรือนางสาวเกสราหรือม่วย บ้านเลขที่ 242 หมู่ 9 ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ว่าตนเองอยู่กินกับนายหนูมาเกือบ 2 ปี รู้สึกอึดอัดใจ มีความกดดัน ไม่เคยออกไปทำธุระที่ไหน บางครั้งคนเราก็ต้องมีธุระกันบ้าง แต่ทางด้านนายหนูหรือสามีตนเองไม่เคยเข้าใจ จนเกิดปัญหาทะเลาะกันมาเรื่อย

ล่าสุดช่วงเกิดเหตุตนเองก็ขอนายหนูว่าจะไปทำธุระ ไปหาแม่บ้าง ญาติบ้าง แต่ไม่เคยได้ไป ตนเองรุ้สึกอึดอัดใจ แล้วเกิดมีปากเสียงกัน ต่อมาตนเองก็จะขับรถกระบะของตนเองออกไปข้างนอก แต่ทางด้านนายหนูไม่ให้ตนเองไป พร้อมกับมาขวางที่หน้ารถ แล้วก็ขึ้นมาเหยียบบนรถ แล้วใช้เท้าเหยียบที่รถจนกระจกด้านหน้ารถแตก ตนเองเห็นท่าไม่ดี ก็ได้วิ่งออกจากรถ แล้วก็วิ่งผ่านขอบสระน้ำดังกล่าวไป แล้วก็วิ่งเข้าไปในป่า แล้วก็ไปโผล่อีกหมู่บ้านหนึ่ง จึงได้ยืมมือถือชาวบ้านโทรหาญาติ ให้มารับตนเองมาที่บ้านของตนเองดังกล่าว ครั้งนี้ตนเองจะไม่ขอกลับไปใช้ชีวิตร่วมกับนายหนูอีก พร้อมกับขอให้มาชดใช้ค่าเสียหายที่หน้ากระจกของตนเองในครั้งนี้ด้วย แล้วต่างคนต่างอยู่

จากการสอบถามนางสายลม อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนางสาวเกสราหรือนางม่วย หรือแม่ยายนายหนู ได้เปิดเผยด้วยความทุกข์ใจ ว่านายหนูกับลูกสาวมีปัญหาทะเลาะกันเรื่อย นายหนูนั้นคอยจะห้าม จะหวง ไม่ค่อยให้ออกไปรับจ้างที่ไหน จะไปทำงานหาเงินด้วยตัวเองก็ห้าม ตนเองเคยเตือนลูกสาวหลายครั้งแล้ว แต่ลูกสาวไม่เชื่อ ว่าจะอดจะอยากก็ขออย่าให้ทุกข์ พอมาเจอปัญหากับตัวเอง ก็วิ่งเข้ากอดแม่ ทั้งๆที่แม่เคยสอนลูกเสมอ ครั้งนี้ตนเองคาดว่าสาวคงจะทุกข์แล้วเกิดความกดดันในครั้งนี้