นอภ.สบเมย ประชุม อส.ร้อย 7. เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดน หลังทหารเมียนมาสู้รบหนักชนกลุ่มน้อย มีผู้ลี้ภัยทะลักเข้าเมือง

นอภ.สบเมย  ประชุม อส.ร้อย 7. เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดน หลังทหารเมียนมาสู้รบหนักชนกลุ่มน้อย มีผู้ลี้ภัยทะลักเข้าเมือง





ad1

เมื่อวันที่15 มิถุนายน 2566  ว่าที่นายกองโทอัครพันธุ์  พูลศิริ  ผู้บังคับกองร้อย กองอาสารักษาดินแดน( อส.)ที่ 7 อ.สบเมย/ นายอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประชุม อส.ร้อย 7. โดยได้เรียกประชุม ฝ่ายความมั่นคง อส.อ.สบเมย กองร้อย 7.เพื่อมอบนโยบาย และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดน หลังทหารเมียนมาสู้รบหนักชน กลุ่มน้อย มีผู้ลี้ภัยทะลักเข้าเมืองด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวนหลายพันคน โดยฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย ได้มีมาตรการในก้านความมั่นคงในพื้นที่เพื่อรับสถานการณ์การสู้รบและป้องกันอธิปไตยไทย

สถานการณ์ชายแดนไทย=เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงคะยา ในรัฐคะยา ประเทศเมียนมาร์ ยังคงพากันหลบหนีเข้ามาในไทย เพิ่มเป็น 2,673 คน สาเหตุที่หนีเนื่องจากเกรงทหารเมียนมาใช้อากาศยานโจมตีหมู่บ้าน ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในรัฐกะเหรี่ยงที่อยู่ติดกัน

 ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงข้อมูล ผู้ลี้ภัยสงครามจากเมียนมา  ที่ได้เข้ามาพักอาศัยเป็นการชั่วคราวฝั่งไทย วันที่ 15 มิถุนายน 2566 เวลา 08.00 น. รายละเอียดดังนี้

1. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ.เสาหิน (LA 595512) ม.1 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
- ยอดเดิม จำนวน จำนวน 1,803 คน ได้แก่ ชาย 790 คน (ผู้ใหญ่ 527, เด็ก 263), หญิง 1,013 คน (ผู้ใหญ่ 622, เด็ก 391)
 - รับเพิ่มเติม จำนวน 566 คน ได้แก่ ชาย 249 (ผู้ใหญ่ 107, เด็ก 142), หญิง 317 คน (ผู้ใหญ่ 164, เด็ก 153)
 - ยอดปัจจุบัน จำนวน 2,369 คน ได้แก่ ชาย 1,039 คน (ผู้ใหญ่ 634, เด็ก 405), หญิง 1,330 คน (ผู้ใหญ่ 786, เด็ก 544)

2. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ.พะแข่ (LA 733670) ม.3 ต.แม่กิ๊ อ.ขุนยวม จว.ม.ส.        
- ยอดเดิม จำนวน 262 คน ได้แก่ ชาย 135 คน (ผู้ใหญ่ 117, เด็ก 18), หญิง 127 คน (ผู้ใหญ่ 91, เด็ก 36)
- รับเพิ่มเติม จำนวน 42 คน ได้แก่ ชาย 23 คน (ผู้ใหญ่ 16, เด็ก 7), หญิง 19 คน (ผู้ใหญ่ 15, เด็ก 4)
 - ยอดปัจจุบัน จำนวน 304 คน ได้แก่ ชาย 158 คน (ผู้ใหญ่ 133, เด็ก 25), หญิง 146 คน (ผู้ใหญ่ 106, เด็ก 40)

รวมมีผู้ลี้ภัยสงครามในรัฐคะยา ปะเทศเมียนมา ได้พากันหนีภัยสงครามเข้ามาพักพิงบริเวณศูนย์พักพิงชั่วคราว ในไทย จำนวน 2,673 คน

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลพรรคชาติคะยาก้าวหน้า ( Karenni National Progressive Party / KNPP ) เปิดเผยว่า เนื่องจากการสู้รบที่เมืองแม่แจ๊ะ อ.บอลาแคะ รัฐคะยา ราษฎรในพื้นที่ดังกล่าว หลายพันคนจึงหลบหนีมายังประเทศไทย  ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ผู้อพยพมาจากเมือง ชาดอว์ ( ซาตอ ) และ เมือง บอลาแคะ เมืองชาดอว์ ที่หมู่บ้าน ดอ นก กุ มีบ้านเรือนจำนวน 800 หลังคาเรือน ราษฎรจำนวน 4,895 คน  ส่วนที่ เมือง บอลาแคะ บ้านห้วยปูหลวง มีบ้านเรือนจำนวน 67 หลังคาเรือน มีราษฎรจำนวน 297 คน รวม 5,192 คนที่พากันหนีภัยสงครามเข้ามาไทย

ทั้งนี้ ผู้อพยพเหล่านั้น กล่าวว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถขนสิ่งของได้เนื่องจากสถานการณ์การอพยพอย่างกะทันหัน เมื่อคืนนี้ ( 14 มิ.ย.66 ) คนกว่าพันคนมาถึงฝั่งไทย  สิ่งที่จำเป็นคืออาหาร  น้ำดื่ม  เพียงเพื่อกินและดื่ม และที่นอน สาเหตุที่พากันหลบหนีเข้าสู่ประเทศไทย เนื่องจากกลัวกองทัพทหารเมียนมา จะแก้แค้นกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา ด้วยการใช้อากาศยานบินมาทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมา ทหารเมียนมาได้เคยใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดใส่ประชาชนชาวกะเหรี่ยงในรัฐกะเหรี่ยงตรงข้าม บ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จนทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก