เอกอัครราชทูตปากีสถานย้ำพร้อมหนุนแนวทางความร่วมมือช่วยเหลือ นศ.ไทยในต่างแดนทุกมิติ
เลขาธิการ ศอ.บต. ต้อนรับ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ปากีสถาน เผย..พร้อมหนุนแนวทางความร่วมมือ ช่วยเหลือนศ.ไทยในต่างแดนทุกมิติ
วันที่ 23 มิถุนายน 2566 พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับนายจักรกฤดิ กระจายวงศ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน ในโอกาสหารือ แนวทางการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กับสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ด้านการศึกษา การดูแลนักศึกษาไทยในปากีสถาน การส่งออกสินค้าและการลงทุน ณ ห้องรับรอง ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ ศอ.บต.
พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เป็นการเชื่อมต่อแนวทางความร่วมมือที่เป็นกลไกหลักสำคัญในทุกมิติ โดยเฉพาะการช่วยเหลือนักศึกษาไทยจากประเทศซูดานกว่า 200 คนที่ประสบกับเหตุสงครามกลางเมืองให้กลับสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ อีกทั้งยังได้ดำเนินการตรวจสารพันธุ์กรรม DNA ให้กับคนไทยที่อยู่ในประเทศมาเลเซียที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์และต้องอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายเพื่อให้ได้สิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรจะได้รับอย่างถูกต้อง ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 5 ปี นอกจากนี้ยังได้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือเยาวชนในพื้นที่ที่มีทักษะทางด้านภาษาอาหรับ-อารบิค
โดยการนำไปฝึกประสบการณ์ทำงาน ณ โรงพยาบาลกรุงเทพโดยจะนำร่อง 2 รุ่น เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนในพื้นที่ได้มีอาชีพมีรายได้ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา การค้า การท่องเที่ยว ในภาคธุรกิจรัฐบาลจะต้องเร่งส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ให้กับนักศึกษา เพื่อนำไปเป็นประสบการณ์ในการเชื่อมต่อกันในอนาคตที่จะสามารถรองรับประเทศโลกตะวันออกกลางได้ ถือเป็นสิ่งบ่งชี้ที่จะทำให้รู้ว่ารัฐบาลไทยไม่ทอดทิ้งประชาชนในผืนแผ่นดินไทย ดังนั้นความร่วมมือต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตศอ.บต. มีความยินดีอย่างยิ่งที่หนุนเสริมในทุกมิติเพื่อทำให้เยาวชนหรือนักศึกษาที่อยู่ในต่างแดนไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและน้อยหน้าไปกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก
ด้านนายจักรกฤดิ กระจายวงศ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน กล่าวว่า การดูแลนักศึกษาไทยในต่างประเทศถือเป็นนโยบายที่กระทรวงการต่างประเทศจะต้องดำเนินการอย่างใกล้ชิด ซึ่งได้มีการส่งเสริมให้นักศึกษาได้ทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ร่วมกันรวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับการส่งเสริมวิชาชีพเพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กันน้อง ๆ นักศึกษาไทยไทยในต่างแดนด้วยกันทั้งหมด ต้องขอบคุณแทนนักศึกษาไทยในต่างแดนด้วยที่รัฐบาลได้ดูแลทุกคนอย่างเต็มที่และเท่าเทียม
อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ไทย - ปากีสถาน ดำเนินความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาอย่างยาวนาน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ตลอดจนการท่องเที่ยว และวัฒนธรรม ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีคนไทยในปากีสถาน ประมาณ 1,198 คน และนักศึกษาไทยในปากีสถาน 453 คน (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2565) มีนักศึกษาไทยมุสลิมในปากีสถาน ประมาณ 260 คน (ข้อมูลจากข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศ ณ เดือนกันยายน 2565) กำลังศึกษาอยู่ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย และโรงเรียนสอนศาสนา รวมทั้งได้มีการจัดตั้งสมาคมนักเรียนไทยในปากีสถานอนาคตคาดว่ามีแนวโน้มว่าคนไทยให้ความสนใจไปศึกษาต่อในปากีสถานเพิ่มขึ้น 2 เท่า
ทั้งนี้ประเทศปากีสถานถือเป็นแหล่งอารยธรรมและเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อพุทธศาสนิกชนไทย ซึ่งในฐานะตลาดส่งออกที่มีศักยภาพและมีประชากรมากเป็นอันดับ 6 ของโลก มีสินค้าที่ส่งออกระหว่างกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีความชำนาญทางสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งหากได้มีความมือระหว่างกันเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อการพัฒนาคุณภาพของผู้ที่สนใจต่อไป
