เดอะโอ๋ !!! ประธานในการประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 7/2566

เดอะโอ๋ !!! ประธานในการประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 7/2566





ad1

เดอะโอ๋ !!! ประธานในการประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 7/2566


วันนี้ 11 กรกฎาคม 2566 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารตำรวจภูธรภาค 7 จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 7/2566 โดยมี พล.ต.ท.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผทค.พิเศษตร.รรท.รองผบช.ภ.7 พล.ต.ท.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผทค.พิเศษตร.รรท.รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัยรอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7 พร้อม พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.ดร.จักษ์ จิตตธรรม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.กค.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 พร้อมรอง ผบก.ภ.จว.ทั้ง 8 จังหวัด ผกก.หัวหน้าสถานีทั้ง 104 สถานี ในสังกัดตำรวจภูธรภาค.7 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดยก่อนการประชุม คุณอำนาจ เพ็ญพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์บริษัท บีเจซี และ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้มอบกระเช้าผลไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองกาญจนบุรี ในกรณีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท ร้านทองเยาวราช-กรุงเทพ สาขาบิ๊กซีกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.66 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองกาญจนบุรีสามารถ จับกุมคนร้าย พร้อมได้ของกลางกลับคืนมา ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเมื่อวันที่ 29มิ.ย. 66 ในการนี้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้จัดพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณด้านงานป้องกันปราบปรามและด้านการสืบสวน กรณีพิเศษ พร้อมเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ เจ้าหน้าที่กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี


จากนั้น มอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของภ.7(อินทรี7) กรณีเข้าร่วมการแข่งขัน Royal Thai Police SWAT Challenge 2023 ของตร. ซึ่งได้รับรางวัลที่ 5 จากผู้เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 13 ทีม มอบใบประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแก่นักกีฬาในสังกัดภ.7ที่ได้รับเหรียญรางวัลแต่ละประเภทกีฬาในการแข่งขันกีฬาภายในตร.ในการประชุมได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติ 1.เน้นย้ำเรื่องสถานการณ์การเมืองขณะนี้ เป็นช่วงอยู่ระหว่างเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจมีการเคลื่อนไหวด้านกิจกรรมทางการเมือง หรือกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ จึงกำชับให้ทุกหน่วยสืบสวนหาข่าว และเฝ้าระวังในพื้นที่ ให้ทุกหน่วยปรับกำลังกองร้อย คฝ.ให้เป็นปัจจุบัน รวมทั้งฝึกอบรมทบทวน กองร้อย คฝ. เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ และสำรวจอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ให้มีความพร้อมอยู่เสมอ

2.การดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 เน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ และแนวทางที่ ตร. กำหนด โดยเฉพาะ ผู้บังคับบัญชาผู้ใดทราบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของตน จะกระทำหรือได้กระทำความผิดฐานทรมานตามมาตรา 5, กระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามมาตรา 6 หรือ กระทำให้บุคคลสูญหายตามมาตรา 7 และไม่ดำเนินการที่จำเป็นและเหมาะสม เพื่อป้องกันหรือระงับการกระทำผิด หรือไม่ดำเนินการส่งเรื่องให้สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ผู้บังคับบัญชาผู้นั้นต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วยตามมาตรา 42 พร้อมกำชับให้ทุกคนปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ และแนวทางที่ ตร. กำหนด อย่างเคร่งครัด ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องให้ความสำคัญ ประชุมชี้แจงให้ความรู้และกำชับแนวทางปฏิบัติ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจ ปฏิบัติได้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และสอดคล้องกับยุทธวิธีการปฏิบัติของแต่ละสายงาน กำชับให้หัวหน้าหน่วย มอบหมายผู้ทำหน้าที่ Admin เพื่อลงทะเบียนข้อมูลของข้าราชการตำรวจที่มีหน้าที่จับกุมของหน่วยตนเองลงในระบบของกรมการปกครอง ให้ดำเนินการให้ครบถ้วนทุก สภ.โดยเร็ว 3.การตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด เน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจ ตามแนวทางที่ ตร.กำหนดโดยเคร่งครัด ตามหนังสือ ตร.ที่ 0007.22/438 ลง 2 ก.พ.2566 โดยเฉพาะการติด body camera ในการปฏิบัติงานทุกนาย เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใจข้อกฎหมาย ขั้นตอนการปฏิบัติ ตาม SOP ทั้งงานป้องกันปราบปราม และงานจราจร และต้องมีการอบรมชี้แจงก่อนปล่อยแถวทุกครั้ง ให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย เข้าใจวัตถุประสงค์การตั้งจุดตรวจ เพื่อมุ่งเน้นการป้องกันอาชญากรรมและอุบัติเหตุเป็นหัวใจสำคัญ ให้ใช้วาจาสุภาพเป็นมิตรกับประชาชนรวมทั้งสามารถตอบคำถาม ข้อสงสัยต่างๆ ได้

สำหรับการทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์ที่จุดตรวจ ให้เป่าเฉพาะผู้ขับขี่ที่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่าดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่ให้เป่าทดสอบทุกรายที่ผ่านจุดตรวจ 4.การดำเนินการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจ โดย 4.1ขณะนี้อยู่ในห้วงการตรวจครั้งที่ 2 (มิ.ย. - ก.ค.66) โดยเป็นการตรวจของคณะทำงานระดับ บก./ภ.จว. ขอให้ทุกหน่วยจัดทำแผน และเร่งรัดการตรวจให้ครบถ้วนทุกสถานีตามกรอบ Timeline กำชับให้คณะทำงานที่ทำหน้าที่ตรวจประเมิน ให้คะแนนเป็นมาตรฐานเดียวกัน ระดับสถานีตำรวจ ให้เตรียมความพร้อมรับการตรวจ โดยเฉพาะหน่วยที่มีผลการประเมินครั้งที่ 1 ที่ได้คะแนนน้อย (กลุ่มคะแนนระหว่าง 75 - 84) ต้องทบทวนปรับปรุงจุดที่ต้องแก้ไข 4.2.ผลการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการปฏิบัติงานระดับสถานีตำรวจทั่วประเทศ ครั้งที่ 2 ตร. ให้ Super Poll ทำการสำรวจจำนวนประชากร 1 ล้านตัวอย่าง เพื่อประเมินความพึงพอใจของประชาชน 3 กลุ่ม คือ ประชาชนทั่วไป ผู้เสียหาย และผู้แจ้งเหตุ 191 ซึ่งได้แจ้งผลการประเมินครั้งที่ 1ให้ทุกหน่วยทราบไว้แล้ว รวมทั้งให้หน่วยเสนอแก้ไขข้อคำถามของแบบสำรวจตามหนังสือ ตร.ที่ 0007.45/3028 ลง 26 พ.ค.66 ซึ่งทุกหน่วยยืนยันไม่ขอแก้ไข ขณะนี้จะเริ่มสำรวจความพึงพอใจครั้งที่ 2 จึงให้ หัวหน้า สภ. ประชุมชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดทราบถึงขั้นตอนการสำรวจภารกิจที่จะถูกประเมิน กลุ่มเป้าหมายที่จะถูกสอบถาม ข้อคำถามต่างๆ ให้เข้าใจ 5.การใช้ระบบ CRIMES Online รูปแบบใหม่ ให้ทุกหน่วยกำชับให้ข้าราชการตำรวจที่ยังไม่ลงทะเบียนใช้งาน สมัครเข้าใช้งานระบบตามภารกิจหน้าที่ให้ครบถ้วน และเพื่อให้สามารถนำข้อมูลจากระบบมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละภารกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

6.การกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ทุกหน่วยปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดในอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการกระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า ซิมม้า และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว ไม่ให้มีการซื้อขายบัญชีม้า ซิมม้า เพื่อทำลายเครือข่ายของผู้กระทำความผิด และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 7.การดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร จากการตรวจสอบพบว่า การสอบสวน การรวบรวมพยานหลักฐานคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้มีหลายคดีพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี และศาลพิพากษายกฟ้อง จึงกำชับ ผบก. และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามคำสั่ง ตร.ที่ 558/2563 ลง 30 ต.ค.63 ของแต่ละ บก./ภ.จว.ให้ดำเนินการดังนี้ 7.1ทำการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ทั้งข้อเท็จจริง พยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุ 7.2พิจารณาพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ ครบถ้วน ก่อนเสนอสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ 7.3กำชับผู้เบิกความในคดีดังกล่าว ให้เบิกความตามคำให้การที่ให้ไว้ต่อคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยให้ประสานพนักงานอัยการก่อนวันสืบพยานหรือเบิกความ โดยให้ รอง ผบช.ที่รับผิดชอบ และ ผบก. ควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด อย่าให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ 8.กำชับการรักษาภาพลักษณ์ข้าราชการตำรวจและการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย โดย 8.1การแสดงภาพยนตร์ หรือละคร หรือการแสดงอื่นใด ที่จะ ต้องเผยแพร่ต่อสาธารณชน หากต้องการมีการแต่งเครื่องแบบตำรวจ ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการแสดงนั้น จะต้องแจ้งต่อหัวหน้า สน./สภ. ท้องที่นั้นพร้อมด้วยบทข้าราชการตำรวจที่จะใช้แสดง และเนื้อหาของงานตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น รายละเอียดเครื่องแบบตำรวจ / เครื่องแต่งกายที่คล้ายเครื่องแบบตำรวจที่ใช้แสดง 8.2หัวหน้าสถานีที่ได้รับแจ้ง ให้ดูแลแนะนำ ไม่ให้มีการแต่งเครื่องแบบและบทบาทการแสดงที่ไม่เหมาะสม หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ข้าราชการตำรวจ 8.3 หากฝ่าฝืน มีความผิดฐาน แต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ม.152 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 5 ปี และ/หรือ แต่งกายโดยใช้เครืองแต่งกายคล้ายตำรวจ และกระทำการใดๆ ทำให้ข้าราชการตำรวจถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ข้าราชการตำรวจ ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ม.154 จำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับตั้งแต่ 1,000 – 10,000 บาท8.4กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายระมัดระวังในการใช้สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่โพสต์ข้อความหรือภาพถ่ายที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในขณะแต่งกายด้วยชุดข้าราชการตำรวจ หากมีการฝ่าฝืนให้พิจารณาดำเนินการทางวินัย ตามอำนาจหน้าที่

9.มาตรการประหยัดพลังงาน ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ ขอให้ทุกหน่วยงานออกมาตรการประหยัดพลังงานตามนโยบายรัฐบาล และเพื่อประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายในหมวดค่าสาธารณูปโภคของแต่ละหน่วย โดยขอให้ทุกหน่วยเริ่มปฏิบัติพร้อมกันตั้งแต่ 1 ก.ค.66 – 30 ก.ย.66 10.การแก้ไขปัญหานักเรียนนักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท กำชับให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานักเรียนนักศึกษาทะเลาะวิวาทอย่างจริงจัง ให้ไปวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่จะก่อเหตุ โดยจัดทำข้อมูลนักศึกษาที่เคยมีประวัติก่อเหตุรุนแรง กลุ่มเฝ้าระวังใกล้ชิดผู้ก่อเหตุ วิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่ปฏิบัติการ จุดล่อแหลม จุดรวมตัว เส้นทางการเดินทาง หรือจุดที่มักจะเกิดเหตุอยู่เป็นประจำ และนำไปปรับแผนการตรวจ เฝ้าระวัง ตลอดจนเพิ่มความถี่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ โดยใช้กำลังในพื้นที่ และกำลังสนับสนุน จัดเจ้าหน้าที่ประสานสถานศึกษาอย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุในพื้นที่ ให้ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มข้น และดำเนินการอย่างเฉียบขาดในทุกฐานความผิดตามกฎหมาย รวมทั้งให้นำ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาบังคับใช้กับบิดา มารดา ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องด้วย และศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปรามได้จัดทำวีดีทัศน์สื่อความรู้ SOP หลักการและแนวทางการระงับเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ในแอปพิเคชันแทนใจแล้ว ขอให้ทุกหน่วยนำไปศึกษา และปรับใช้แก้ไขปัญหาในพื้นที่ต่อไป 11.โครงการฝึกอบรมการบริหารเหตุการณ์ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ซึ่งได้มีการฝึกอบรมแล้วเสร็จ ให้ทุกหน่วยนำความรู้ที่ได้เข้ารับการฝึกอบรม ไปถ่ายทอด ขยายผล ให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งเหตุในสังกัด เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถปฏิบัติงานเป็นทีมบริหารเหตุการณ์ในสถานการณ์วิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับข้อกฎหมาย ยุทธวิธี และ สร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้กับประชาชน 12.โครงการฝึกทักษะยิงปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสายงานป้องกันปราบปราม สืบสวน และจราจร ในสถานีตำรวจขณะนี้ ตร.ได้จัดฝึกอบรมครูฝึก ทั้งครู ก. ครู ข.และ ครู ค.เสร็จสิ้นครบถ้วนแล้วให้ทุกสถานีตำรวจ เร่งดำเนินการฝึกอบรมให้กับข้าราชการตำรวจในสถานีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดทักษะ และเกิดความชำนาญ