อานิสงส์อินเดียงดส่งออกดันข้าวไทยแพงทุบสถิติ แต่เกษตรกรใค้เมินเพิ่มพื้นที่ทำนาเหตุต้นทุนแพง ไม่คุ้มค่าแรง

"ข้าว” ปรับตัวชาวนาแฮปปี้ กลุ่มเกษตรกรทำนาพัทลุงข้าวสด ได้ราคา 13-15 บาท / กก. ข้าวแห้ง 18 – 20 บาท / กก. ส่งสัญญาณข้าวพฤติกรรมการบริโภคข้าวน้อยลง ทำนาน้อยลง แม้คนจะเพิ่มขึ้น ส่วนราคาก็ปรับตัวไม่มาก ส่วนข้าวสังข์หยดพัทลุงก็ไม่ขยายตัว เพราะขยายพื้นที่ไปปลูกจังหวัดอื่น  

แหล่งข่าวจากผู้บริโภคบ้านควนอินนอโม เทศบาลตำบลเขาหัวช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ข้าวสารหลายยี้ห้อได้ปรับตัวขึ้นเป็นระยะ ๆ  เช่น บางช่วงประมาณ 2 วัน โดยข้าวสารถุงบางยี้ห้อจำนวน 5 กก. ซื้อครั้งแรกราคาประมาณ 112 บาท / 5 กก.  / ถุง เว้นระยะห่าง 2 วัน ราคาจะปรับขึ้นอีก 3 บาท / กก. รวมเป็น 115  บาท / 5  กก. / /ถุง  สำหรับบางยี้ห้อ แต่การซื้อข้าวสารที่จะได้ราคาส่วนลดแต่จะต้องซื้อเป็นกระสอบใหญ่  (40 กก.) จะได้ส่วนลดประมาณ 100 บาท

ทางด้านเจ้าของร้านโชว์ห่วย กล่าวว่า ข้าวสารกระสอบโดยเฉพาะปลายเดือนกรกฎาคมจนถึงวันที่ 10 สค.66 ได้ปรับราคาขึ้น 2 ครั้ง โดยแต่ละยี้ห้อจะปรับราคาขึ้นที่ต่างกัน บางยี้ห้อมีปรับขึ้น 10 บาท / กระสอบ ราคา 20 บาท / กระสอบ ราคา 30 บาท / กระสอบ และราคา 40 บาท / กระสอบ

“เช่น ยี้ห้อพลอย 11 จากราคาเดิม 760 บาท / กระสอบ ปรับเป็น 900 บาท / กระสอบบางร้านบางพื้นที่ หรือจากประมาณ 19 บาท / กก. ปรับมาเป็น 22.50 บาท เป็นต้น”

ส่วนประเภทข้าวบรรจุถุงขนาด 5 กก.ข้าวสารธรรมดา กข.150 และ 180 บาท / กก. หรือราคา 30 – 36 บาท / กก.บางร้านบางพื้นที่ ส่วนข้าวหอมมะลิขั้นต่ำ ราคา 200 บาท / ถุง หรือประมาณ 40 บาท / กก. บางร้านบางพื้นที่ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นข้าวถุงที่ส่งมาจากส่วนกลาง

แหล่งข่าวจากพ่อค้าข้าวสารรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากโรงสีข้าวว่าข้าวเปลือกตั้งแต่ต้นปี 2566 ราคาที่กว่า 6,000 - 7,000 บาท ได้ปรับราคาขึ้นกว่า 8,000 บาท 9,000 บาทกว่า / ตัน มาขณะนี้ปรับมาเป็น 11,000 บาท / ตัน และ 11,500 บาท / ตัน จากราคาเมื่อต้นต้นปีเคลื่อนไหวราคาที่กว่า 6,000 บาท บาท / ตัน ราคากว่า 7,000 บาท / ตัน ราคากว่า 8,000 บาท / ตัน และ ราคากว่า 9,000 บาท

สำหรับข้าวขาวธรรมดา กข.จะมีความแตกต่างกับข้าวหอมมะลิทางภาคอีสาน หากข้าวขาวธรรดมา กข. ราคาที่ 12,000 บาท / ตัน ข้าวหอมมมะลิทางภาคอีสานจะเคลื่อนไหวที่ราคา 18,000 บาท และ 20,000 บาท / ตัน

“ตอนนี้กลุ่มค้าข้าวได้กวาดซื้อเก็บเข้าสต๊อกไว้ออกขายปี 2567 เพราะปี 2567 ผลผลิตข้าวจะมีปริมาณน้อย ราคาก็ปรับตัวขึ้นอีกเหตุผลประเทศอินเดียงดส่งข้าวออก เป็นสำคัญ”

เจ้าของร้านโชว์ห่วยอีกแห่งหนึ่ง กล่าวว่า สำหรับข้าวทั้งข้าวสาร ข้าวเหนียว ต่างปรับตัวมาหลายคนแล้วตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยเฉพาะข้าวเหนียวได้ปรับตัวขึ้นถึง 4 หนแล้ว

สำหรับข้าวสารมีหลากหลายนับสิบ ๆ ยี้ห้อ แต่จะเป็นข้าวมาในสายพันธุ์เดียวกันพื้นที่นาจังหวัดเดียวกัน แต่มาแตกยี้ห้อ แตกบรรจุถุงเป็นหลากหลายยี้ห้อ และขายในหลายราคาตั้งราคาต่ำราคาสูงซึ่งผู้บริโภคสามารถที่จะเลือกบริโภคได้ ซึ่งเป็นกลยุทธทางด้านการตลาดค้าข้าว

นายสมปอง เกตุนิ่ม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ ข้าว ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ในปี 2566 ข้าวนาปรังตัวปรับตัว ทั้งข้าวเมล็ดสั้น เมล็ดยาว  โดยเมล็ดสั้นปรับตัวขึ้นมา 9,900 บาท / ตัน จาก 2-3 วันที่แล้ว (24 กค.66) อยู่ที่ 9,500 บาท / ตัน ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 400 บาท / ตัน เช่น ข้าวหอมปทุม ข้าวอาร์เจ 22 ฯลฯ  เมื่อเทียบกับข้าวนาปรังปีที่แล้ว 2565 ที่ราคา 8,500 บาท / ตัน ส่วนข้าว กข. 79 และยี่ห้ออื่นที่ราคา 8,700 บาท / ตัน ส่วนข้าวเมล็ดสั้น ประมาณ 8,000 บาท / ตัน

“ปีนี้ราคาข้าวดีมาก ชาวนาอยู่ได้ ต่างกับปีที่แล้วที่ราคา 7,000 – 7,500 บาท / ตัน สาเหตุที่ราคาข้าวได้ปรับตัว เพราะว่ามีปริมาณผลผลิตน้อย” 

นายประจวบ กล่าวว่า สำหรับข้าวสารแพคถุงส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายตามร้านค้า ห้าง จะเป็นข้าวสารแพคถุง 5 กก. ฯลฯ จะเป็นข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมปทุม ฯลฯ  จะมาจาส่วนกลางเป็นหลัก

“ตอนนี้อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังใกล้จะหมดฤดูกาลสำหรับในพื้นที่ และประมาณเดือนสิงหาคม - กันยายน ก็จะมีการลงนาข้าวนาปีต่อไป”

ทางด้าน นายอนุชา เพ็ญจำรัส ผู้จัดการกลุ่มเกษตรกรทำนาตะโหมด เทศบาลตำบลตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า สถานการณ์ข้าวราคายังปรับตัวไม่มาก โดยข้าวสดในนาราคาประมาณ 13-15 บาท / กก.หรือประมาณ 13,000 - 15,000 บาท / ตัน ราคาข้าวแห้ง 18-20 บาท / กก. ประมาณราคา 18,000 – 20,000 บาท / ตัน

และข้าวสังข์หยดพัทลุงระบบอินทรีย์ ประมาณ 15,000 บาท / แต่เมื่อบรรจุภัณฑ์แพคถุงสุญญากาศ จะส่งขายทางออนไลน์ ส่งถึงบ้านประมาณ 70 บาท / กก. 

 สำหรับสถานการณ์ข้าวสารโดยทั่วไปตามร้านค้า ค้าปลีก ข้าวสารถุงแพคถุง ฯลฯ  อย่างข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมปทุม มีราคาตั้งแต่ 35 บาท  36 บาท / กก.และสูงสุดประมาณ 38 บาท / กก.  ถือว่าราคายังปรับตัวไม่มาก  

“สถานการณ์ข้าว ทั้งด้านการทำนา การบริโภคว่า ตอนนี้ขาดแคลนคนทำนามีคนทำนาปริมาณน้อยและพื้นที่นาก็มีปริมาณจำกัดเพิ่มขึ้น จนตลาดถึงคราวมีดีมานด์มาก แต่ราคาก็ยังไม่สูงหรือปรับตัวไม่มาก ทั้งที่ประชากรเพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลา เหตุเพราะผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง จะปริโภคข้าวปริมาณลดลงจากที่เคยรับประทานข้าว 3 มื้อ ก็บริโภคไม่ถึง และมาถึงกลุ่มเด็ก เยาวชน ก็บริโภคข้าวปริมาณน้อยลง สาเหตุเพราะหันไปบริโภคอย่างอื่นแทน”

นายอนุชา กล่าวอีกว่า แต่ถึงอย่างไรกลุ่มชาวนาที่ทำนาเป็นอาชีพเสริมยังอยู่ได้ มีข้าวบริโภคและที่เหลือก็ขายได้หมดไม่ค้างสต๊อก และมาถึงกลุ่มบริโภคข้าวเพื่อสุขภาพ ก็ยังจำกัดยังมีปริมาณไม่ได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ข้าวสังข์หยดพัทลุงที่เป็นข้าวบริโภคเพื่อสุขภาพในพื้นที่ จ.พัทลุง ยังคงที่จากที่ข้าวสังข์หยดพัทลุงที่เคยเติบโตขยายตัวมาก สาเหตุเพราะว่าข้าวสังข์หยดพัทลุง ได้ขยายไปพื้นที่ไปปลูกยังจังหวัดอื่น ๆ  โดยเอาเมล็ดพันธุ์ข้าวสังข์หยดพัทลุงไปปลูก

“แต่สำหรับในกลุ่มเกษตรกรทำนาตะโหมดส่วนใหญ่แล้วปลูกข้าวกันไม่มากประมาณ 3 ไร่ 5 ไร่ และไม่เกิน 10 ไร่ ทั้งบริโภคและออกขายได้หมด ข้าวจึงไม่ได้ค้างสต๊อก”. 

โดย...อัสวิน ภักฆวรรณ