"เพื่อไทย"ย้ำยึดมติเดิมดัน"เศรษฐา"โหวตนายกฯ มั่นใจได้เสียงสนับสนุนจากรัฐสภาเกิน 375
"เพื่อไทย"ย้ำยึดมติเดิม ชู"เศรษฐา"โหวตนายกรัฐมนตรี มั่นใจได้เสียงสนับสนุนจากรัฐสภาเกิน 375 คุย"พรรค 2 ลุง"คืบหน้า ยันเคารพ"มติก้าวไกล"ไม่โหวตรัฐบาลผสมข้ามขั้ว
เมื่อวันที่ 15 ส.ค.66 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท.แถลงผลการประชุม สส.พรรค ว่า คณะกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุมพรรคเพื่อไทยยังคงย้ำมติเดิมเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพราะมั่นใจว่าจะได้เสียงสนับสนุนจากรัฐสภาเกิน 375 เสียง ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คาดการณ์ว่าอาจจะเป็นวันที่ 18 ส.ค.หรือ 21 ส.ค.นี้ แต่พรรคเพื่อไทยอยากให้มีการเลือกเร็วที่สุดคือวันที่ 18 ส.ค.นี้
เมื่อถามต่อว่า พรรคเพื่อไทยจะมีท่าทีอย่างไรต่อมติของพรรคก้าวไกล นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราไม่มีท่าทีใดๆ เพราะถือเป็นมติทางการเมือง ฝ่ายต่างมีความเห็น เคารพการตัดสินใจของแต่ละพรรคเราไม่ก้าวก่าย ซึ่งพรรคเพื่อไทยสามารถทำงานได้จากทุกภาคในทุกมิติ และเรื่องนี้ยืนยันว่าจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง
"ที่ผ่านมาเราประเมินท่าทีสถานการณ์พรรคก้าวไกลมาตลอด เราเคารพความเห็นและการแสดงออกทางออกพรรคก้าวไกล ตั้งแต่ที่มีการพูดคุยกันที่ตึกไทยซัมมิท ซึ่งเราเสนอทางออกเรื่องการตั้งรัฐบาล 3 แนวทาง แนวทางแรกหากได้รับการสนับสนุนจากพรรคก้าวไกล ก็จะเป็นรัฐบาลอีกสูตรหนึ่ง ซึ่งคำตอบมีความชัดเจนว่าก้าวไกลต้องไปดูความเห็นความเห็นของประชาชน ความเห็นของสมาชิกพรรค คำตอบที่ออกมาก็ประเมินชัดเจนแล้วว่าโอกาสที่จะได้รับความเห็นชอบจากพรรคก้าวไกลในลงมติให้เพื่อไทยก็ค่อนข้างยากอยู่แล้ว" นพ.ชลน่าน ระบุ
เมื่อถามว่าเสียงที่จะได้เกิน 375 เสียงมีพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐเข้ามาอย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าอย่างเป็นทางการก็ต้องรอ ความร่วมมืออย่างเป็นทางการ ตอนนี้ถ้าใครโหวตให้ก็ขอบคุณก็อยู่ในสมการในการที่เราจะพิจารณาแต่ไม่มีเงื่อนไขอะไร แต่เท่าที่คุยกันแล้วพรรคที่เกี่ยวข้องในการจัดตั้งรัฐบาลต่างฝ่ายก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ก่อนโหวตน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น จากที่หารือกันมาก็มีความคืบหน้าเรื่อยๆกับสองพรรคลุง
เมื่อถามว่า จากที่พรรคร่วมอยากได้แบ่งกระทรวงก่อนวันโหวตนายกฯนายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่คุยกับพรรคร่วมต่างๆ ก็เข้าใจบนกรอบภายใต้วิกฤติการณ์ ความจำเป็นความสำคัญในการให้แต่ละพรรคเข้าไปบริหารประเทศโดยมีนโยบายที่สอดรับ
เมื่อถามว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง แถลงเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน เกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต จะทำให้ สว.ไม่ยกมือสนับสนุนให้นั้นกังวลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องของนายชูวิทย์ทุกคนก็ทราบ และรู้จักคุณชูวิทย์ดีอยู่แล้ว และนายชูวิทย์ก็นำเสนอได้เรื่อยๆ แต่คุุณสมบัติของนายเศรษฐาก็ว่าไปตามกฏระเบียบข้อบังคับ ต่างๆในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะขบวนการต่างๆผ่านการรับรองแล้ว
