ศอ.บต.ร่วมรัฐเคด้าห์ บูมเที่ยวโบราณสถาน ศึกษาอารยธรรม ไทย-มาเลเซีย

ศอ.บต.ร่วมรัฐเคด้าห์ บูมเที่ยวโบราณสถาน ศึกษาอารยธรรม ไทย-มาเลเซีย





ad1

สำนักงานเลขาธิการฟื้นฟู กลุ่มประเทศนูซันตารา หารือ เลขาธิการ ศอ.บต. เตรียมจัดกิจกรรมท่องเที่ยวโบราณสถาน ศึกษาอารยธรรม ไทย-มาเลเซีย ห้วงวันที่ 11-13 ก.ย. นี้ สตาร์ทจากรัฐเคด้าห์ สิ้นสุด พิพิธภัณฑ์อัลกุรอ่าน นราธิวาส

ผู้แทนสำนักงานเลขาธิการการฟื้นฟู กลุ่มประเทศนูซันตารา นำโดยศาสตราจารย์ ดาโต๊ะ ดร. มุคตาร์ ไซดิน ผู้อำนวยการศูนย์โบราณคดี ปีนัง มาเลเซีย อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโบราณคดีสากล มหาวิทยาลัยไซน์ มาเลเซีย และคณะฯ เข้าพบ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อหารือ แสวงหาความร่วมมือกับ ศอ.บต. ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูภาษา อัตลักษณ์ ประเพณี วัฒนธรรม และโบราณสถานในชุมชน นำไปสู่การฟื้นฟูอารยธรรมนูซันตารา เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน พร้อมหารือบูรณาการความร่วมมือกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย กับแหลมมลายูในภูมิภาคนูซันตารา อันประกอบไปด้วย ประเทศไทย (๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้) มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไนดารุสซาลาม และสิงคโปร์ เพื่อยกระดับการพัฒนาความร่วมมือสู่ระดับสากล พร้อมนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ณ ห้องประชุมปฏิบัติการด้านการพัฒนา อาคาร ศอ.บต.

โดยผู้แทนสำนักงานเลขาธิการการฟื้นฟู กลุ่มประเทศนูซันตารา  ( Sekretariat Kebangkitan Nusatara Sejahtera: SKNS) เผยว่า ทางกลุ่มฯ จะมีการจัดกิจกรรมนำเยาวชนเข้าศึกษาเส้นทางอารยธรรมโบราณที่เชื่อมต่อกันระหว่างประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย โดยบูรณาการความร่วมมือกับ ศอ.บต. เพื่อสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยกับรัฐเคด้าห์ ประเทศมาเลเซีย โดยทาง SKNS โดยกำหนดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ในกิจกรรมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวตามร่องรอยโบราณคดี (Archeology Trails) เริ่มต้นจากรัฐเคด้าห์ - Jerai Geopark ประเทศมาเลเซีย ผ่านเข้า อุทยานธรณีโลก จ.สตูล เข้าสู่เมืองเก่าสงขลา และตรงไปยังเมืองเก่ายะรัง (ลังกาสุกะ) จ.ปัตตานี สิ้นสุดที่ พิพิธภัณฑ์อัลกุรอ่าน จ.นราธิวาส  โดยมีโควต้าพิเศษสำหรับเยาวชน จชต. ที่สนใจศึกษาโบราณคดี จำนวน 5 ที่นั่ง ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว มีกำหนดจัดขึ้นในห้วงวันที่ 11-13 กันยายน นี้

ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า เห็นด้วยในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ ผ่านการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีอารยธรรมโบราณเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยทั้ง 2 ประเทศมีความคล้ายคลึงกันทั้งภาษา อัตลักษณ์ ประเพณี วัฒนธรรม มีความเชื่อมโยงกันในหลายเรื่อง โดยมีเพียงด่านตรวจคนเข้าเมือง ชายแดนไทย-มาเลเซีย เท่านั้น ที่กั้นระหว่าง 2 ประเทศ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีในการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ศึกษาอารยธรรม ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของทั้งประเทศไทยและมาเลเซีย

สำหรับ สำนักงานเลขาธิการการฟื้นฟูกลุ่มประเทศนูซันตารา (Sekretariat Kebangkitan Nusatara Sejahtera: SKNS) เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ส่งเสริมคุณค่าสากลแก่มวลมนุษยชาติ โดยไม่คำนึงถึงภูมิหลังทางศาสนา ชาติพันธุ์ เชื้อชาติ สีผิว และภาษา มีวัตถุประสงค์หลักในการมุ่งสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมที่หลากหลายอย่างบริสุทธิ์และสวยงาม ไม่เป็นองค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองและไม่มุ่งเน้นผลกำไร