องคมนตรีติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในรัชกาลที่ 9 จังหวัดชลบุรี

องคมนตรีติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในรัชกาลที่ 9 จังหวัดชลบุรี สนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อยอดโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทรอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

เมื่อวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมด้วยนางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองหลวงรัชชโลทร อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี โดยรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีทั้งหมดจำนวน 45 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ จำนวน 24 โครงการ และรับฟังการบริหารจัดการน้ำของโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทรอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการดำเนินกิจกรรมด้านต่าง ๆ

โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทรฯ เป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีลักษณะเป็นอ่างขนาดใหญ่ ประเภทเขื่อนดิน ความจุเก็บกักน้ำได้ 125 ล้านลูกบาศก์เมตร ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2553-2559 ต่อมาในปี 2562 กรมชลประทานได้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทรฯ ด้วยการปรับปรุงเขื่อนหลักและติดตั้งบานพับได้บนสัน spillway เพื่อยกระดับน้ำกักเก็บจากเดิมความจุ 98 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มเป็นความจุใหม่ 125 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อส่งน้ำสนับสนุนให้แก่พื้นที่ชลประทานจำนวน 121,558 ไร่ ครอบคลุม 23 ตำบล 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเกาะจันทร์ อำเภอพนัสนิคม และอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี รวมทั้งสนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และพื้นที่การเกษตร ประมาณ 87,000 ไร่ ตลอดจนสนับสนุนน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม รวมถึงช่วยป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่อำเภอพานทอง อำเภอพนัสนิคม และอำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งขยายพันธุ์สัตว์น้ำและอาชีพประมงพื้นบ้าน สร้างรายได้ให้แก่ราษฎรในชุมชน และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดชลบุรีอีกด้วย

จากการติดตามขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนฯ เพื่อสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด จึงได้จัดทำโครงการต่อยอดอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น และโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทรฯ ถูกบรรจุให้อยู่ในโครงการต่อยอด ทั้งนี้ เพื่อขยายประโยชน์ให้ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนให้ได้รับประโยชน์อย่างมั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

ในการนี้ องคมนตรีกล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ซึ่งมีพระบรมราโชบายในการสืบสาน รักษา และต่อยอด จึงได้มีโครงการเพิ่มศักยภาพของอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทรอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สร้างประโยชน์ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ ทำให้มีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรเพิ่มขึ้น ปัจจุบันสามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง เกษตรกรทำสวนผสมผสาน ยกตัวอย่างเช่น ฝรั่งกิมจู ถือว่าเป็นผลิตทางการเกษตรคุณภาพ การทำประมงที่มีศักยภาพ มีแหล่งท่องเที่ยววิสาหกิจชุมชน มีกิจกรรมเกิดขึ้นในชุมชนมากมาย ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชน นอกจากนี้ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงรับไว้เป็นโครงการต่อยอด โดยเน้นการส่งเสริมอาชีพ โดยมีหน่วยงานรัฐเข้ามาดูแล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ อีกทั้งอ่างเก็บน้ำคลองหลวงฯ ทำให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี เป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญของคนในพื้นที่ ดังนั้น ขอฝากให้ทุกคนช่วยกันรักษาแหล่งน้ำและใช้น้ำอย่างประหยัด

จากนั้น องคมนตรีพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจราษฎรผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ จากนั้นร่วมปล่อยพันธุ์ปลาลงอ่างเก็บน้ำฯ เพื่อขยายพันธุ์สัตว์น้ำเป็นแหล่งอาหารและประกอบอาชีพให้แก่ราษฎรต่อไป

ทางด้านนายวันชัย ทีรุณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลท่าบุญมี อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ประธานกลุ่มประมงน้ำจืดบริเวณอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทรอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า สมัยก่อนที่ยังไม่มีอ่างเก็บน้ำฯ เมื่อถึงเวลาฝนตกในช่วงฤดูฝนน้ำไหลบ่าลงมา ทำให้น้ำท่วมพืชสวนและไร่นาของชาวบ้าน ตั้งแต่อำเภอเกาะจันทร์และอำเภอพนัสนิคม ซึ่งมีอยู่หลายหมู่บ้าน หลายตำบลด้วยกันตั้งแต่มีโครงการอ่างเก็บน้ำฯ แห่งนี้ขึ้นมา ก็ไม่เกิดปัญหาอุทกภัยทำให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“กระผมดีใจมาก รู้สึกซาบซึ้งในพระองค์ท่านที่ทรงมีแนวความคิดในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ขอฝากให้พี่น้องเกษตรกรและพี่น้องชาวไทยทุกคนน้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ก็จะทำให้ชีวิตดีขึ้นตามลำดับทุกครอบครัวครับ” นายวันชัย ทีรุณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 กล่าว