ตะเพิด"แรชฟอร์ด"แมนฯยูฯ เหลือ 10 บุกพ่าย"โคเปนเฮเกน"3-4 จมบ๊วยชปล.

ตะเพิด"แรชฟอร์ด"แมนฯยูฯ เหลือ 10 บุกพ่าย"โคเปนเฮเกน"3-4 จมบ๊วยชปล.





ad1

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2023-24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่ 4 เมื่อคืนวันพุธที่ 8 พ.ย. 66 คู่ที่น่าสนใจ เอฟซี โคเปนเฮเกน จากเดนมาร์ก เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ

เปิดเกมครึ่งแรก นาทีที่ 3 แมนยูฯ ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อารอน วาน-บิสซากา จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ปาดเข้ากลาง รามุส ฮอยลุนด์ ชาร์จจ่อๆ เข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 28 แมนยูน หนีเป็น 2-0 บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายบอลให้ อเลฮานโดร การ์นาโช หลุดไปยิงจังหวะแรกติดเซฟผู้รักษาประตู บอลมาเข้าทาง ราสมุส ฮอยลุนด์ ซ้ำเข้าไปไม่พลาด

อย่างไรก็ตามเล่นมาถึงนาทีที่ 42 แมนยูฯ ต้องมาเหลือ 10 คน มื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปย่ำใส่ อีเลียส เจเลิร์ต ผู้ตัดสิน VAR แล้วชูใบแดงไล่ แรชฟอร์ด ออกจากสนาม

จากนั้นนาทีที่ 45 โคเปนเฮเกน ไล่มาเป็น 1-2 จาก  การยิงของ โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี

แค่นั้นยังไม่พอ ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+9 โคเปนเฮเกน ได้จุดโทษจากจังหวะที่ แฮร์รี แม็คไกวร์ กองหลังแมนยูฯ ทำแฮนด์บอล และเป็น ดิโอโก กอนซัลเวส ทำหน้าที่สังหารไม่พลาด พา โคเแนเฮเกน ไล่ตีเสมอ 2-2

จบครึ่งแรก เอฟซี โคเปนเฮเกน เสมอ แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด อยู่ 2-2

เปิดเกมมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 69 แมนยูฯ มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ผู้เล่นเจ้าถิ่นทำแฮนด์บอล และเป็น บรูโน เฟอร์นันเดส รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พา แมนยูฯ ขึ้นนำ 3-2

แต่ นาทีที่ 83 โคเปนเฮเกน ตามตีเสมอ แมนยูฯ 3-3 จาก ลูคัส เลราเกอร์ เท่านั้นยังไม่พอนาทีที่ 87 โคเปนเฮเกน ขึ้นนำ แมนยูฯ 4-3 จาก รูนีย์ บาร์ดจี

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาแพ้ เอฟซี โคเปนเฮเกน 3-4

จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีเพียง 3 คะแนน จาก 4 นัด รั้งบ๊วยของกลุ่ม เอ ส่วน เอฟซี โคเปนเฮเกน มีเพิ่มเป็น 4 แต้ม ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม มีแต้มเท่ากาลาตาซาราย แต่ลูกได้เสียดีกว่า

ส่วนผลการแข่งขันอีกหนึ่งคู่ บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านเอาชนะ กาลาตาซาราย 2-1 มี 12 คะแนนเต็มจากการเก็บชัย 4 นัดรวด ผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์เป็นที่แน่นอนแล้ว

กลุ่มบี “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล จากอังกฤษ เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม เอาชนะเซบียา แชมป์เก่ายูฟ่า ยูโรปา ลีก จากสเปน 2-0

เจ้าบ้านได้ประตูจาก เลอันโดร ตรอสซาร์ด นาที 29, บูคาโย ซากา นาที 64

ผลอีกคู่ พีเอสวี (เนเธอร์แลนด์) ชนะ ล็องส์ (ฝรั่งเศส) 1-0

อันดับหลังผ่านไป 4 นัด 1. อาร์เซนอล (9 คะแนน), 2. พีเอสวี (5 คะแนน), 3. ล็องส์ (5 คะแนน), 4. เซบียา (2 คะแนน)

กลุ่มซี “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด จากสเปน เปิดสนามเอสตาดิโอ ซานติอาโก เบร์นาเบว เอาชนะสปอร์ติง บรากา จากโปรตุเกส 3-0 ส่งผลให้มาดริดการันตีผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์แน่นอนแล้ว

เจ้าบ้านได้ประตูจาก บราฮิม ดิอาซ นาที 27, วินิซิอุส จูเนียร์ นาที 58, โรดรีโก นาที 61 ขณะที่ทีมเยือนมีโอกาสได้ประตูจากจุดโทษ อัลบาโร ดีชาโล ยิงพลาดนาที 6

ผลอีกคู่ นาโปลี (อิตาลี) เสมอ อูนิโอน เบอร์ลิน (เยอรมนี) 1-1

อันดับหลังผ่านไป 4 นัด 1. มาดริด (12 คะแนน – เข้ารอบ), 2. นาโปลี (7 คะแนน), 3. บรากา (3 คะแนน), 4. อูนิโอน (1 คะแนน)

กลุ่มดี เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก จากออสเตรีย เปิดสนามเรดบูลล์ อารีนา แพ้ต่อ “งูใหญ่”อินเตอร์ มิลาน รองแชมป์เก่าจากอิตาลี 0-1 ทำให้อินเตอร์การันตีผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ ส่วนซัลซ์บวร์กจะเหลือลุ้นเพียงโควต้ายูฟ่า ยูโรปา ลีก

ทีมเยือนได้ประตูชัยจาก เลาตาโร มาร์ติเนซ นาที 85 (จุดโทษ)

ผลอีกคู่ เรอัล โซเซียดาด (สเปน) ชนะ เบนฟิกา (โปรตุเกส) 3-1 โซเซียดาดการันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ ขณะที่เบนฟิกาเหลือลุ้นเพียงโควต้ายูโรปา ลีก

อันดับหลังผ่านไป 4 นัด 1. โซเซียดาด (10 คะแนน – เข้ารอบ), 2. อินเตอร์ (10 คะแนน – เข้ารอบ), 3. ซัลซ์บวร์ก (3 คะแนน), 4. เบนฟิกา (0 คะแนน)