ตำรวจภาค 4 รวบยกแก๊ง ลักลอบขนยาบ้ายึดของกลางกว่า 6 แสนเม็ด

ตำรวจภาค 4 รวบยกแก๊ง ลักลอบขนยาบ้ายึดของกลางกว่า 6 แสนเม็ด





ad1

ตำรวจภาค 4 สกัดจับแก๊งค้ายาเสพติด ขณะกำลังนำยาบ้ากว่า 6 แสนเม็ด ส่งลูกค้าที่ จ.ขอนแก่น ได้ 4 ผู้ต้องหา แบ่งกันทำหน้าที่ ขับรถขนยา-รถนำทาง

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ชัชชัย วงศ์สุนะ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร สั่งการให้ พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผกก.สืบสวน ภ.จว.มุกดาหาร พร้อมชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด วิเคราะห์ติดตามเครือข่ายขบวนการลักลอบลำเลียงยาบ้ารายใหญ่ อาศัยเส้นทางตามแนวชายโขง และเขตแนวชายแดน ส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร และพื้นที่อื่นๆ ในภาคอีสาน  

จากการสืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จึงวางกำลังเฝ้าติดตามในพื้นที่ จ.มุกดาหาร พบรถเก๋ง Mitsubishi Attrage สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ขับมาจากเส้นทาง อ.ดอนตาล มุ่งหน้า อ.เมืองมุกดาหาร จึงเข้าสกัดจับกุม

ตรวจค้นในรถพบ นายแดง หรือโต้ง (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ชาว จ.มุกดาหาร เป็นผู้ขับ มีนายอิทธิพล หรือโป้ง อายุ 27 ปี นั่งด้านข้าง ภายในรถพบยาบ้า 3 กระสอบ (6 แสนเม็ด) และบริเวณใต้เบาะโดยสารข้างคนขับพบอาวุธปืนพกสั้น Glock19 ไม่มีทะเบียน และเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 45 นัด ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 รับสารภาพว่ารับยาบ้าทั้งหมดมาจากชายไม่ทราบชื่อ ในตำบลท่าน้ำ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ให้นำยาบ้าไปส่งลูกค้าในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น 

นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยในครั้งนี้ ขับรถกระบะ Isuzu รุ่น Dmax สีเทา ทะเบียนมุกดาหาร ขับนำหน้าเพื่อดูเส้นทาง ชุดจับกุมจึงแจ้งให้จุดสกัดยาเสพติดพระไกรศรีสุข ต.โนนยาง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร สกัดจับเอาไว้ได้ ตรวจค้นพบ นายกฤติวิทย์ หรือเมฆ อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับ มี น.ส.ประภาศิริ หรือจ๋า อายุ 25 ปี นั่งข้าง ตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดยทั้งคู่ให้การรับสารภาพทำหน้าที่ขับรถนำทางในการลักลอบขนยาเสพติด จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สภ.เมืองมุกดาหาร  

แจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าจนก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” และแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)  

จากนั้นได้ขยายผลตรวจยึดทรัพย์สิน เพื่อตรวจสอบ 5 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 1.46 ล้านบาท พรัอมขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ ติดตามยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อตัดวงจรขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเด็ดขาดตามกฎหมายต่อไป.