ชาวพิจิตรข้องใจกรมทางหลวงใช้งบ649ล้านสร้างถนนพิจิตรสากเหล็กกว่า2ปีแล้วยังสร้างไม่เสร็จ
นายช่างโครงการฯ กรมทางหลวงชี้แจงการก่อสร้างถนนพิจิตร-สากเหล็ก งบ 649 ล้าน ใช้เวลากว่า 2 ปีแล้ว ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ แจงเหตุโควิดผู้รับจ้างจึงได้สิทธิขยายเวลาประกอบกับในช่วงฤดูน้ำหลากที่ผ่านมามีเหตุน้ำท่วม แต่ที่ยากสุดคือพิจิตรเป็นสังคมผู้สูงอายุแรงงานหายากผู้รับจ้างดิ้นสุดฤทธิ์ให้คนงานที่มีอยู่ทำงานล่วงเวลาเพราะหากล่าช้า 20 พ.ค. 67 สร้างไม่เสร็จเจอค่าปรับวันละ 1,624,123 บาท แน่นอน
วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566 นายสันติภาพ วัชรโสตถิกุล นายช่างโครงการฯ (ผู้ควบคุมงาน) สำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างถนนทางหลวงหมายเลข 115 สาย พิจิตร-สากเหล็ก ตอนบ้านเนินสมอ-สี่แยกสากเหล็ก ผู้รับจ้างคือ บริษัทสระหลวงก่อสร้าง จำกัด งบประมาณ 649,649,000 บาท ระยะทาง 10.860 กิโลเมตร ระยะเวลาเริ่มสัญญา 21 ส.ค. 64 – 11 ก.ค. 66 รวมระยะเวลาในการดำเนินการ 690 วัน แต่ในช่วงนั้นเกิดสถานการณ์โควิด จึงได้รับมาตรการผ่อนผันให้ขยายเวลา ซึ่งจะต้องสร้างถนนเส้นนี้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 พ.ค. 67 ซึ่งถ้าหากล่าเสร็จล่าช้าก็จะต้องเสียค่าปรับวันละ 1,624,123 บาท
สำหรับการดำเนินงานของผู้รับจ้างมีความคืบหน้าคิดเป็น 81.20% ในระยะการก่อสร้างทางประมาณ 9.62 กิโลเมตร งานโครงสร้างหลักๆ ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วแต่ที่ยังต้องดำเนินการ คือ ฟุตปาธทางเท้า เกาะกลางถนน ไฟส่องสว่าง ซึ่งเป็นงานปราณีตที่ต้องใช้แรงงานคนเป็นหลัก ส่วนระยะทางที่เหลืออีก 1.24 กิโลเมตร ผู้รับจ้างก็เร่งดำเนินการอย่างเต็มทที่แล้ว ในส่วนของการก่อสร้างสะพาน ซึ่งมีทั้งหมด 5 จุด ก็มีความคืบหน้าไปแล้ว 74% ซึ่งก็ยอมรับว่างานล่าช้ากว่าแผนงานที่ตั้งไว้สาเหตุเนื่องจากพื้นที่จังหวัดพิจิตรในช่วงฤดูน้ำหลากที่ผ่านมาพื้นที่งานก่อสร้างสะพานและพื้นที่ข้างทางถูกน้ำท่วม โดยเมื่อน้ำลดลงเมื่อประมาณปลายเดือน ต.ค. 66 ผู้รับจ้างก็เร่งระดมคนงานทำงานล่างเวลาในวันหยุดไม่เว้นแม้วันอาทิตย์ก็เร่งงานให้แล้ว เนื่องจากเข้าใจความเดือดร้อนของผู้ใช้เส้นทางดังกล่าว
โดย นายสันติภาพ วัชรโสตถิกุล นายช่างโครงการฯ (ผู้ควบคุมงาน) สำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง ให้สัมภาษณ์ว่าจะให้ผู้รับจ้างเร่งดำเนินการเพื่อสร้างความปลอดภัยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้เส้นทางในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 โดยจะเร่งติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง และป้ายบอกทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้แก่ประชาชน และหยุดการเดินเครื่องจักรเพื่อคืนพื้นผิวการจราจรให้แก่ประชาชนระหว่างวันที่ 28 ธ.ค. 66 – 3 ม.ค.67 รวมทถึงยังจะมีการตรวจสอบความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Audit) อย่างต่อเนื่อง อีกด้วย แต่ก็ฝาก ขอความร่วมมือประชาชนขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง ให้ชะลอความเร็วในทางที่มีการก่อสร้าง และปฏิบัติตามป้ายแจ้งเตือนอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย
โดย...สิทธิพจน์ เกบุ้ย/พิจิตร
