ปูพรมตรวจค้นจับกุมร้านค้าภูเก็ตลอบขายบุหรี่เถื่อนทำรัฐเสียหายกว่า 5 ล้าน

ปูพรมตรวจค้นจับกุมร้านค้าภูเก็ตลอบขายบุหรี่เถื่อนทำรัฐเสียหายกว่า 5 ล้าน





ad1

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ กรมสรรพสามิต บุกค้นและจับกุมร้านค้าแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้แอบลักลอบขายบุหรี่นำเข้าผิดกฎหมาย ทำให้รัฐเสียหายมูลค่ากว่าห้าล้านบาท
 
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.) พร้อมกรมสรรพสามิต และเจ้าพนักงานชุดปฏิบัติการที่บก.ปอศ.  ร่วมกันตรวจค้น ดังนี้

1. ร้านค้าแอบจำหน่ายบุหรี่ ไม่มีชื่อ ไม่ติดเลขที่ (ตรงกันข้ามกับ ซอย กมลสุข) ถ.พัฒนาท้องถิ่น ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ ค.๑๕/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๗      

2. ร้านค้าแอบจำหน่ายบุหรี่ ไม่มีชื่อ ไม่ติดเลขที่ (ตรงกันข้ามกับ ซอย พรรณยมล ๓) ถ.พัฒนาท้องถิ่น ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ ค.๑๖/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๗

3.ร้านค้าแอบจำหน่ายบุหรี่ ไม่มีชื่อ ไม่ติดเลขที่ ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ตามหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ ค.๑๖/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๗

4.ร้านจำหน่ายบุหรี่ ไม่มีชื่อ ไม่ติดเลขที่ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ศาลจังหวัดพังงาที่ ๖/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๗    

ผู้ต้องหา
1.นายเอกชัยฯ
2.น.ส.ปวีณาฯ
3.นายปองพลฯ
มีความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร”อันเป็นความผิดตามาตรา ๒๔๖ พรบ.ศุลกากร พ.ศ.๒๕๖๐ และ มีความผิดตาม
พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๒๐๓ ประกอบมาตรา ๒๐๔ “ผู้ใดมีไว้ในครอบครองโดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งสินค้าที่ได้รับยกเว้นหรือได้รับคืนภาษีแล้วหรือผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน”​
 
ของกลางที่พบ บุหรี่ที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ หลากหลายยี่ห้อ จำนวน 28,895 ซอง คิดเป็น ๕๓๙,๑๓๘ มวน มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 5 ล้านบาท

พฤติการณ์ เนื่องจากเมื่อต้นเดือนมกราคม ๒๕๖๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๒ บก.ปอศ. ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางเป็นบุหรี่ที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวน ๔,๘๘๑ คอตตอน มูลค่าความเสียหายประมาณ ๔๕ ล้านบาท ซึ่งสินค้าดังกล่าวมีการส่งผ่านทางไปรษณีย์จันทบุรี ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจึงได้ขยายผลจากคดีดังกล่าว จนสืบทราบว่าได้มีบุหรี่บางส่วนถูกส่งมายังพื้นที่จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้ เจ้าพนักงานตำรวจกก.๒ บก.ปอศ. และ เจ้าพนักงานสรรพสามิต สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต จึงได้ร่วมทำการสืบสวนตามร้านค้าที่อยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดทางภาคใต้ และได้เดินทางลงพื้นที่ จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา เพื่อทำการสืบสวน/ตรวจสอบ กรณีมีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ 

และมิได้ปิดแสตมป์แสดงการเสียภาษี อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต และ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร ตามอำนาจ/หน้าที่ โดยเมื่อไปพบสถานที่เป้าหมายที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ผิดกฎหมายดังกล่าว เจ้าพนักงานตำรวจ กก.๒ บก.ปอศ. จึงยื่นคำร้องขอหมายศาล และได้เข้าตรวจค้น ผลจากการตรวจค้นพบ บุหรี่นำเข้าหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ พร้อมจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไปโดยไม่เสียภาษี โดยอ้างว่า “สินค้าที่ขายนำเข้าจากต่างประเทศ และเสนอขายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด เน้นขายให้กลุ่มลูกค้าเยาวชนและเด็ก”

จากการตรวจสอบสินค้าพบว่าไม่ปรากฎตราหรือฉลาก เกี่ยวกับตัวสินค้าว่าเป็นสินค้าชนิดใด หรือใช้งานอย่างใด หรือสัญลักษณ์ที่ระบุว่าได้ผ่านตัวแทนนำเข้าในประเทศไทยแต่อย่างใด ทำให้น่าเชื่อว่าถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศแบบผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญผู้ต้องหามาให้ปากคำและแสดงเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจยึดของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้รับสารภาพ โดยให้การว่าได้ซื้อต่อมาจากร้านค้าย่านแจ้งวัฒนะ โดยจะซื้อ ๒-๓ เดือนต่อครั้ง