เกษตรกรโคราชเผาพื้นที่นาต่อเนื่อง ทำค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงเกินมาตฐาน

เกษตรกรโคราชเผาพื้นที่นาต่อเนื่อง ทำค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงเกินมาตฐาน





ad1

นครราชสีมา –เกษตรกรโคราชเผาพื้นที่การเกษตรต่อเนื่อง ทำค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงเกินมาตฐาน 60 มก./ลบม. ขณะที่สิ่งแวดล้อมภาค 11 ห่วงควันจากประเทศเพื่อนบ้านมาสมทบ เร่งประสานผู้ว่าฯ ควบคุมไม่ให้ชาวบ้านเผาพื้นที่การเกษตรทุกพื้นที่

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังคงมีเกษตรกรเผาพื้นที่การเกษตรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มสูงเกินกว่าค่ามาตรฐานติดต่อกันเป็นวันที่ 2 แล้ว โดยเฉพาะที่บริเวณกลางทุ่งนา ในตำบลเทพาลัย อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ภาพมุมสูงจะเห็นชาวนาในพื้นที่กำลังลักลอบจุดไฟเผาตอซังข้าวอยู่กลางทุ่งนา ทำให้เกิดกลุ่มควันไฟลอยขึ้นท้องฟ้าปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง ไปทั่วบริเวณหมู่บ้าน ชุมชน และถนนมิตรภาพ สร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุซึ่งมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมา ได้มีประกาศเตือนรณรงค์ให้ชาวนาในพื้นที่หยุดการเผาตอซัง เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พร้อมกับมีมาตรการขั้นเด็ดขาด เอาผิดกับผู้ลักลอบจุดไฟเผาตอซังข้าวแล้วก็ตาม แต่ยังพบว่า มีการลักลอบเผาตอซังข้าวอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะว่าในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ชาวนาส่วนใหญ่จะเร่งไถปรับหน้าดิน ไว้รอการเพาะปลูกในช่วงฤดูกาลทำนา

ทางด้านปกครองอำเภอคง ได้เร่งขอความร่วมมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประกาศประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน ขอให้ชาวนาทุกหมู่บ้านและทุกตำบล งดจุดไฟเผาตอซังข้าวตามนโยบายของทางภาครัฐ

ขณะเดียวกัน นายธนัญชัย วรรณสุข ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมพิษที่ 11 (นครราชสีมา) เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ มีค่าพุ่งสูงขึ้นแตะ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สาเหตุหลักมาจากการเผาในที่โล่ง โดยจากข้อมูลสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน หรือ GISDA) พบว่า มีค่าจุดความร้อน (Hot Spot) ของจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 31 จุด ชัยภูมิ 6 จุด บุรีรัมย์ 21 จุด และสุรินทร์ 15 จุด

โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เกษตรกรรม เนื่องจากเป็นช่วงของฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อย และส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลลมตะวันออกเฉียงเหนือ(ลมหนาว)อ่อนกำลังลง ทำให้จุดความร้อนจำนวนมากจากประเทศเพื่อนบ้านย้อนขึ้นมาเกิดผลกระทบต่อประเทศไทย ทำให้เกิดการสะสมของปริมาณฝุ่นเพิ่มมากขึ้น  ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศอยู่ในระหว่างการประสานกับอาเซียนเพื่อแจ้งประเทศที่มีจุดความร้อนที่เกิดขึ้นให้ควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วนต่อไป อย่างไรก็ตามขอประกาศแจ้งเตือนตามมาตรการลดการเผาในที่โล่งและให้ประชาชนดูแลสุขภาพตัวเอง โดยลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 ตลอดเวลาที่อยู่ภายนอกอาคาร

นอกจากนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) ได้รับข้อสั่งการจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้เพิ่มมาตรการตรวจจับควันดำ และประสานสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมเหตุเพลิงไหม้สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงนี้อีกด้วย.

โดย...ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา