มทภ.4 สั่งยกระดับคุมเข้มป้องคนร้ายลอบวางบึ้มซ้ำรอยเขื่อนท่าพระยาสายเจ็บ 10

มทภ.4 สั่งยกระดับคุมเข้มป้องคนร้ายลอบวางบึ้มซ้ำรอยเขื่อนท่าพระยาสายเจ็บ 10





ad1

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายรอบวางระเบิด กลางเมือง จ.นราธิวาส บริเวณรินเขื่อนท่าพระยาสาย พร้อมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบครอบคลุมพื้นที่ และกำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดูแลเรื่องสิทธิต่างๆแก่ผู้เสียหาย โดยด่วน

จากเหตุการณ์คนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งติดตั้งในรถจักรยานยนต์ และจอดไว้บริเวณหน้าเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส เมื่อคืนของวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 เวลา 21.30 น. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาที่พี่น้องประชาชนใช้พื้นที่ดังกล่าวพาบุตรหลานมาพักผ่อน และออกกำลังกาย ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 ราย เจ้าหน้าที่ อส. 2 ราย ประชาชนเพศหญิง 3 ราย, ประชาชนเพศชาย 3 ราย และประชาชนเพศหญิง สัญชาติมาเลเซีย 2 ราย

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและควบคุมพื้นที่ รวมทั้งได้ทำการปิดกั้นการจราจรโดยประสานชุดหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด เคลียร์พื้นที่ พร้อมกับชุดพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อขยายผลติดตามต่อคนร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นการจราจรไม่ให้พี่น้องประชาชนใช้เส้นทางในการสัญจร เพื่อความปลอดภัย ซึ่งพื้นที่โดยรอบยังคงมีร้านค้าของพี่น้องประชาชนที่เปิดให้บริการ ยังคงเปิดทิ้งไว้ไม่มีการเก็บร้านเพราะตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

ล่าสุดวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.30 น. ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นาวาเอกสันติ เกตุศรีพงศ์ษา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ได้ให้การต้อนรับ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ลงตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุ ณ บริเวณริมเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า “จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แม่ทัพภาคที่ 4, ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และส่วนที่เกี่ยวข้องได้พูดคุยและประเมินต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยได้เน้นย้ำส่วนที่เกี่ยวข้องทุกส่วนให้เพิ่มการดูแล และคุมเข้มในพื้นที่ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราได้เน้นย้ำเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยช่วงนี้จังหวัดนราธิวาสได้มีการจัดงานประจำปี ทางเจ้าหน้าที่เลยเน้นหนักและมีการคุมเข้มในส่วนของสถานที่จัดงาน ซึ่งมีพี่น้องประชาชนเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เกิดช่องว่างของการก่อเหตุและเกิดเหตุขึ้นครั้งนี้ หลังจากนี้คงต้องกลับไปวิเคราะห์สถานการณ์ และคุมเข้มให้มากกว่าเดิม จุดไหนที่มีช่องว่างให้ปิดช่องว่างในทุกจุด

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน คงต้องมีการตรวจตราเรื่องยานพาหนะอย่างเข้มงวดมากกว่าเดิม อาจมีผลกระทบเรื่องความล่าช้าในการเดินทางบ้าง แต่อยากขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนเข้าใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย” นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้กำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดูแลเรื่องสิทธิต่างๆ และการรักษาเป็นการด่วน ตลอดจนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ และตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในทุกจุด โดยประสานการทำงานร่วมกับผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น เพื่อติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเห็นเบาะแสของกลุ่มคนร้ายสามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทุกเบาะแสที่แจ้งเข้ามาจะถูกปิดเป็นความลับ

โดย...แวดาโอ๊ะ หะไร / อัสมา บินมะนุ จ.นราธิวาส