ไม่สนชลประทางดส่งน้ำ ชาวนาโคราชเสี่ยงสูบน้ำก้นคลองทำนาปรังหวังฝนตกช่วยให้รอด

ไม่สนชลประทางดส่งน้ำ ชาวนาโคราชเสี่ยงสูบน้ำก้นคลองทำนาปรังหวังฝนตกช่วยให้รอด





ad1

นครราชสีมา -ชาวนาโคราช เสี่ยงสูบน้ำก้นคลองปลูกข้าวนาปรัง แม้ชลประทานงดส่งน้ำให้การเกษตร หวังฝนตกลงมาช่วยให้รอด

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบริเวณพื้นที่การเกษตรบ้านน้ำฉ่า ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นเมื่อปีที่แล้วเคยเป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังแต่มาในปีนี้พื้นที่นาดังกล่าวถูกปล่อยให้ว่าง เนื่องประสบกับปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วงทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคองซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำสำคัญของประชาชนหลายอำเภอนั้นเหลือน้อยจนทำให้ทางจังหวัดได้มีการขอความร่วมมือกับเกษตรในการงดปลูกข้าวในปรังในช่วงนี้เพื่อนำน้ำที่เหลือนั้นไปใช้ผลิตเป็นน้ำประปาเพื่ออุปโภค บริโภค อย่างไรก็ตามยังคงพบเกษตรกรบางรายนั้นยังคงทำนาปรังอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวโดยเสี่ยงใช้น้ำในคลองที่เหลือไม่มากนักสูบน้ำเข้านาเพื่อทำนาปรังโดยหวังรอให้ฝนตกลงมาช่วยเนื่องจากน้ำในคลองนั้นมีเหลือไม่พอเลี้ยงข้าวจนโต

นายประสิทธิ์ ฟาสูงเนิน อายุ 71 ปี เกษตรชาวบ้านน้ำฉ่า บอกว่า ตนมีพื้นที่ทำนาทั้งหมด 18 ไร่ โดยปลูกทั้งข้าวนาปรังและนาปี แต่มาปีนี้ตนทำนาปรังลดลงเหลือเพียง 10 ไร่ เนื่องจากพื้นที่ทำนาอีก 8 ไร่นั้นอยู่ติดกับลำตะคองสายหลักที่จะไหลเข้าสู่ตัวเมืองนครราชสีมา จึงได้มีการขอความร่วมมืองดทำนาปรัง ส่วนพื้นที่ 10 ไร่ ที่ทำนาปรังอยู่ตอนนี้ใช้น้ำจากลำตะคองสายเก่าที่ยังพอมีเหลืออยู่ตนจึงได้เร่งสูบน้ำใส่นาข้าวของตนที่เพิ่งหว่านไป ซึ่งตนก็รู้สึกเป็นกังวลเพราะน้ำที่เหลืออยู่ในคลองน่าจะไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงข้าวจนถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยวได้ แต่ก็ต้องเสี่ยงดวงหว่านข้าวหวังเพียงน้ำฝนที่อาจจะตกลงมาช่วยในช่วงเวลาที่เหลือ ซึ่งถ้าหากฝนไม่ตกลงมาจริงก็คงต้องปล่อยให้ต้นข้าวที่หว่านเอาไว้ยืนต้นตายเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะตนมีอาชีพทำนาเพียงอย่างเดียว.

โดย...ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ//นครราชสีมา