สมุทรปราการ อสม.โวย กกต.สั่งยุติหน้าที่ช่วงเลือกตั้ง อบต. ทั้งที่ผ่าน 3 การเลือกตั้งไม่เคยเห็นสั่งแบบนี่มาก่อน

อสม.โวยกกต.

สมุทรปราการ อสม.โวย กกต.สั่งยุติหน้าที่ช่วงเลือกตั้ง อบต. ทั้งที่ผ่าน 3 การเลือกตั้งไม่เคยเห็นสั่งแบบนี่มาก่อน





ad1

สมุทรปราการ อสม.โวย กกต.สั่งยุติหน้าที่ช่วงเลือกตั้ง อบต. ทั้งที่ผ่าน 3 การเลือกตั้งไม่เคยเห็นสั่งแบบนี่มาก่อน

อสม.พระประแดง  รวมตัวคัดค้านหนังสืออความร่วมมือให้ อสม. หยุดปฎิบัติหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันควร ในช่วงเลือกตั้ง อบต. 1 เดือน ตั้งคำถามโควิด-19 ดีขึ้นแล้วใช้ไหม พร้อมจะร้องถึงอนุทิน  รมว.สาธารณสุข ในขณะที่ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่รับฟังปัญหา อสม. แล้วเพื่อนำไปพิจารณาในคำสั่งของ กกต.อีกครั้ง อสม.จึงอยากจะถามว่า กกต.คิดดีแล้วใช้ไหม การแพร่ระบาดโควิด-19  ของเมืองไทยสถานการณ์ดีแล้วหรือไม่ กลัวผลการเลือกตั้งเกินไปหรือเปล่า เพราะผ่านการเลือกตั้งมา 3 ครั้ง ทั้ง อบจ / เทศบาล รวมถึง ส.ส. ไม่เห็นจะขอความร่วมมือแบบนี่เลย

เมื่อวันที่   31 ตค 64 ที่ลานเอนกประสงค์ หมู่ 9 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้มี น.ส.สุนีย์ แก่นจันทร์อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) พร้อมด้วย อสม.อำเภอพระประแดง จำนวน 10 คนได้นำจดหมายเปิดผนึกมอบให้กับ น.ส.เรวดี รัศมิทัต ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข  เพื่อส่งต่อให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงสาธารณสุข กรณีที่ทาง กกต. มีหนังสือด่วนที่สุดเลขที่ ลต ๐๐๑๗/๑๑๓๕๕ เรื่องขอความร่วมมือให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)ที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหรือ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล หรือผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครรับเลือกตั้ง งดปฏิบัติหน้าที่ ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2564 นั้น อยากจะถามว่า กกต.คิดดีแล้วใช้ไหม การแพร่ระบาดโควิด-19  ของเมืองไทยสถานการณ์ดีแล้วหรือไม่ กลัวผลการเลือกตั้งเกินไปหรือเปล่า เพราะผ่านการเลือกตั้งมา 3 ครั้ง ทั้ง อบจ / เทศบาล รวมถึง ส.ส. ไม่เห็นจะขอความร่วมมือแบบนี่เลย

 น.ส.สุนีย์ แก่นจันทร์ อสม.อำเภอพระประแดงได้กล่าวว่า ในฐานะที่เป็น อสม.ได้ มีความเห็นร่วมกันว่า เป็นการจำกัดสิทธิของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)และจะมีผลเสียกับประชาชนที่ อสม.ดูแลอยู่ พวกเราเป็นแค่ประชาชนที่มีจิตอาสา มีความมุ่งมั่นในการดูแลคนในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลสุขภาพของคนในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งครัวเรือนที่รับผิดชอบ 10- 15  หลังคาเรือนต่อ อสม.1 คน

หากไม่ปฏิบัติหน้าที่อาจเกิดความลำบากหรือผลกระทบ เสียหายขึ้นกับประชาชนโดยเฉพาะการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในเวลานี้ และผู้ป่วย ผู้สูงอายุบางราย อสม.ต้องทำแผล ตรวจวัดเบาหวาน ความดัน รับยาให้ งาน อสม.ส่วนใหญ่เน้นในเรื่องการดูแล ส่งเสริมสุขภาพของประชาชน จึงไม่เห็นว่าเป็นอุปสรรคในการลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือหากคู่แข่งทางการเมืองเห็นว่าเป็นการเอาเปรียบ พวกเราทราบดีว่า ตามที่ กกต.ได้ตีความว่า อสม.ไม่ใช่คนของรัฐ จึงมีสิทธิ์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งใดๆได้โดยไม่นำองค์กร อสม.หรือสัญลักษณ์ อสม.ไปกล่าวอ้างหรือใช้สนับสนุนในการหาเสียง ซึ่ง อสม.ทุกคนทราบดี และปฏิบัติตาม แต่ความเป็นอาสาสมัครไม่สามารถถอดออกจากตัวตนของ อสม.ได้

มันฝังอยู่ในจิตวิญญาณของพวกเรา คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็จะรู้อยู่แล้วว่า ใครเป็น อสม.หากคิดว่าประชาชนเห็นคนที่ทำดีแล้วจะเลือกคนดีเป็นตัวแทนของพวกเขา คงไม่ผิด แต่หากผู้ที่เป็นคู่แข่งต้องการชนะก็ต้องแข่งขันกันสร้างประโยชน์และทำคุณงามความดี สุดท้ายประชาชนก็จะได้คนที่ดี ที่สุดให้เป็นตัวแทนทางการเมืองของพวกเขา พวกเรา อสม.จึงได้ทำจดหมายเปิดผนึกผ่าน น.ส.เรวดี รัศมิทัต ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ไปมอบให้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้บังคับบัฐชาโดยตรงของชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)ให้ยกเลิกและทำหนังสือชี้แจงขอความร่วมมือจาก กกต.ดังกล่าว

ด้าน น.ส.เรวดี รัศมิทัติ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในนามของกระทรวงสาธารณสุขและดูแลกำกับนโยบายของท่าน รมว.สาธารณสุข ทางพี่ๆ อสม.ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นผู้ช่วยหาเสียงผลที่ตามมาจะทำให้ประวัติของพี่ๆ อสม.จะเสียในฐานะนะที่เค้าทำงานสาธารณสุขไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ อสม.1 คนต้องมีความรับผิดชอบ 10-15 ครัวเรือน มองว่าการเป็นจิตอาสาเป็นด้วยจิตอาสา ตอนนี้เหมือนว่าเรามากำจัดสิทธิเค้า อย่างนั้นหมายความว่าการเป็นจิตอาสาที่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ทั้งหมดเลยใช่มั้ยดังนั้นพี่เค้าจึงมายื่นหนังสือถึง รมว. ในฐานะที่ดิฉันดูแลกำกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ให้สื่อสารไปถึง กกต. และขณะนี้ท่าน จำรัสได้ทำหนังสือไปถึง กกต.แล้วเรื่องของจิดอาสาและระเบียบของ กกต.นั้นก็มีเขียนอยู่ชัดเจนแล้วว่า พวกผู้สมัครเค้าคงไม่ใส่เสื้อ อสม.ไปเดินหาเสียงเพราะผู้สมัครทุกคนรู้กันอยู่แล้วอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้

โดยก่อนหน้านี้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ได้มีหนังสือไปถาม ทางกกต.ก็ตอบมาชัดเจนว่า อสม.ไม่ใช่เจ้าหน่าที่ของรัฐ สามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงหรือเดินหาเสียงได้ ไล่มาตั้งแต่ เลือก ส.ส. สจ. สท. ที่ผ่านมา อสม.ก็ได้เดินออกไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงทั้งนั้น ก็ไม่มีการปิดกั้นอะไรแต่ ณ วันนี้มาถึงการเลือกตั้งตำบลเล็กๆซึ่งความใกล้ชิดกับประชาชน จู่ๆ กกต.ก็มีหนังสือฉบับนี้ขึ้นมา ลักษณะขอความร่วมมือและให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ ถ้าเป็นเช่นนั้นถ้าใครเป็นจิตอาสาก็ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่หมดเลยใช่มั้ย