มวลชนมากกว่า 3,500 คนลงชื่อยกเลิก 112 ท่ามกลางสายฝน

มวลชนมากกว่า 3,500 คนลงชื่อยกเลิก 112 ท่ามกลางสายฝน





ad1

มวลชนมากกว่า 3,500 คนลงชื่อยกเลิก 112 ท่ามกลางสายฝน ส่วน "รุ้ง" กรีดแขน-"สมยศ"อ่านแถลงการณ์จาก"เพนกวิน" 

เมือง 31 ต.ค.2564 ‘คณะราษฎรยกเลิก 112’ หรือ ครย.112 นัดชุมนุม 'ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112' เพื่อเรียกร้องยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 และเรียกร้องให้คืนสิทธิการประกันตัวชั่วคราวแก่นักกิจกรรมที่ถูกคุมขังในเรือนจำ จากการแสดงออกทางการเมือง พร้อมกันนี้มีการตั้งโต๊ะครั้งแรกให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งลงชื่อ เตรียมรวบรวมเพื่อเสนอต่อรัฐสภา 
 
กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา16.00 น  บรรยากาศการชฺมนุมมีประชาชนทยอยมาร่วมจำนวนมาก มีกำลังตำรวจนครบาลรักษาความเรียบร้อยอยู่รอบนอกพื้นที่จัดกิจกรรม จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้มวลชนที่อยู่ในพื้นที่จัดกิจกรรมต่างวิ่งหาที่หลบฝน แต่ยังคงมารวมตัวกันต่อหลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลาประมาณ 20.00 น. ไอลอว์สามารถรวบรวมรายชื่อในวันนี้ได้ราว 3,500 ชื่อ 

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ จากไอลอว์ระบุว่า การล่ารายชื่อนี้เป็นจุดเริ่มต้นก้าวเล็กๆ ในการยกเลิกประมวลกฎหมายมาตรา 112 ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนทราบดีว่าต้องเดินทางระยะไกลและต้องสร้างแนวร่วมให้มากยิ่งขึ้น และเป็นภารกิจของประชาชนทุกคนที่เข้าใจถึงปัญหาของกฎหมายนี้เป็นอย่างดีแล้ว

อรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำพรรคก้าวล่วง ได้ออกมาเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรา 112 

"ในนามของพรรคก้าวล่วง ขอประกาศว่า เราจะต้องประชุมใหญ่พรรคก้าวล่วงกันที่นี่  ใครที่ประกาศหล่อๆ ว่าจะยกเลิก 112 ใครประกาศว่าพร้อมเป็นเสาเป็นคาน ใครประกาศไม่เอากฎหมายละเมิดสิทธิ ทุกพรรคการเมืองจะได้รับเทียบเชิญให้ส่งตัวแทนมาพูดบนเวทีพรรคก้าวล่วง เอากันให้ชัดๆ ไม่ต้องแอบ ไม่ต้องทำท่า พูดกันออกมาให้ชัดให้ประชาชนได้พึ่งพิงกันด้วย" อรรถพลกล่าว 

สมยศ พฤกษาเกษมสุข นักกิจกรรมและอดีตผู้ต้องขังในคดี 112 ได้กล่าวปราศรัยโดยความตอนหนึ่งเป็นการอ่านแถลงการณ์ของเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ สรุปได้ว่า เมื่อ พ.ศ.2517 มีคนถูกจับกุมคุมขังด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพียงเพราะตีพิมพ์บทกวีสั้นๆ ว่า "จูงวัวมาแจก แบกแกะมาสู่ หาหมูมาให้เลี้ยง เชอะ หาเสียงพวกเทวดา" ในปีนี้ 2564 ก็ยังมีคนถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา112 เพียงเพราะโพสต์เฟซบุ๊กว่า "เก่งมาก กล้ามาก ขอบใจ" นั่นแสดงให้เห็นถึงความไร้แก่นสารของมาตรา 112 ได้อย่างชัดเจน ยังไม่รวมว่าช่วงสิบปีให้หลังนี้กฎหมายดังกล่าวถูกใช้อย่างบ้าคลั่งเพื่อลงโทษคนนับร้อยพันคนด้วยเหตุผลต่างๆ กัน พวกเขาที่ตกเป็นเหยื่อมีตั้งแต่คนธรรมดาถึงคนชั้นสูง แม้แต่คนในราชสำนัก อดีต รมต. ผู้ชุมนุมทางการเมือง นักสิทธิมนุษยชน นักธุรกิจ ศิลปิน พ่อค้า แม่บ้าน ภิกษุสามเณร นักเรียนมัธยม ตลอดจนผู้ป่วยจิตเวช ทั้งหมดนี้ชี้ชัดว่ามาตรา 112 เป็นกฎหมายไร้สาระ ป่าเถื่อน ล้าหลัง  เป็นภัยต่อคนทุกชนชั้น ทุกฐานะ ทุกอาชีพ 

"มาตรานี้ถึงทั้งละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน สร้างรอยร้าวในสังคมเพราะความอยุติธรรมนำมาซึ่งความเจ็บปวด และความเจ็บปวดกลายเป็นบาดแผลที่ยากจะสมานได้ จนกว่าจะได้รับการแก้ไข และมันยังเป็นกฎหมายอัปยศที่นำมาซึ่งความอับอายของประเทศชาติ เพราะกฎหมายนี้เป็นเครื่องมือปกปิดความจริง เป็นเครื่องมือยืนยันต่อสายตาประชาคมโลกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ป่าเถื่อน ไม่คุ้มครองสิธิเสรีภาพของประชาชน"

"แม้ผู้ชุมนุมหลายคนจะถูกรัฐปราบปรามอย่างเด็ดขาด แต่ทว่าเขาเหล่านั้นยังกล้าหาญพอที่วางอิสรภาพของตนเป็นเดิมพันเพื่อยืนหยัดในความเชื่อและความจริงของตนเองและคณะที่ถูกจองจำอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น หากท่านเป็นผู้รักประชาธิปไตย รักสิทธิเสรีภาพ ต้องร่วมกันเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายนี้ เพื่อปลดปล่อยความคิด คำพูดของคนไทยให้เป็นอิสระจากโซ่ตรวนพันธนาการที่มีมาอย่างยาวนานแล้ว หากท่านไม่ได้ศรัทธาในประชาธิปไตย แต่ยังรักและภูมิใจในประเทศของเรา ท่านต้องร่วมเรียกร้องให้ยกเลิกเช่นกัน เพื่อให้ประเทศไทยมีที่ยืนในสายตาประชาคมโลก และถึงท่านไม่ได้ศรัทธาประชาธิปไตย และไม่สนใจสายตานานาชาติด้วย แต่ยังรักสถาบันพระมหากษัตริย์ และต้องการให้สถาบันดำรงอยู่อย่างสง่างาม ท่านก็ต้องร่วมเรียกร้องให้ยกเลิก เพื่อให้สถาบันกษัตริย์ดำรงอยู่ในระบอบประชาธิปไตยแบบสากล และสุดท้ายแม้ท่านจะไม่สนใจสิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงเลย ท่านก็ควรร่วมกันเรียกร้องให้ยกเลิก เพื่อไม่ให้ใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งคนรอบตัวของคุณ กระทั่งตัวคุณ รวมทั้งคนที่คุณรักอย่างที่สุด" แถลงการณ์ระบุ  

"การยกเลิกมาตรา 112 คือการปลดปล่อยประชาชนจากพันธนาการไปสู่อิสรภาพ ปลดปล่อยสังคมจากความล้าหลังไปสู่ความก้าวหน้า และปลดปล่อยเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ด้วย 1 ล้านชื่อของประชาชนที่ยืนยันประกาศเจตนารมณ์ว่ามาตรา 112 จะต้องถูกยกเลิก และจะต้องไม่มีใครถูกกลั่นแกล้ง ถูกคุมขังหรือทุกข์ทรมานจากกฎหมายมาตรานี้อีกต่อไป สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขอส่งความหวัง ความเชื่อมั่น และกำลังใจจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถึงพี่น้องที่ร่วมกันเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายป่านเถื่อนนี้ทุกท่าน" แถลงการณ์ระบุ 

รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ราษฎรยกเลิกมาตรา 112 พร้อมทั้งกรีดแขนเป็นเครื่องยืนยันการต่อสู้ที่พร้อมทุ่มเทแรงกาย แรงใจ แม้กระทั่งชีวิต