สมุทรปราการ แม่วัย 37 สู่ชีวิตออกมาวอนช่วยเหลือหลังเลี้ยงลูก 6 คนแถมยังพิการต้องอดมื้อกินมื้อ เพราะพิษโควิด-19

สมุทรปราการ แม่วัย 37 สู่ชีวิตออกมาวอนช่วยเหลือหลังเลี้ยงลูก 6 คนแถมยังพิการต้องอดมื้อกินมื้อ เพราะพิษโควิด-19





ad1

สมุทรปราการ แม่วัย 37 สู่ชีวิตออกมาวอนช่วยเหลือหลังเลี้ยงลูก 6 คนแถมยังพิการต้องอดมื้อกินมื้อ เพราะพิษโควิด-19

วอนช่วยครอบครัวยากจนหลังแม่อายุ 37 ปี ขอความช่วยเหลือสังคม  หลังสู้ชีวิตต่อไม่ไหว ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้านไม่รู้ว่าจะพาลูกหลาน 6 คน ไปพักที่ไหนวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีครอบครัวหนึ่งพักอาศัยกันอยู่ในบ้านเก่าๆ จำนวน 8 คนมีลูกและหลานอีก 6 คน ซ้ำหนักมีเด็กอายุ 15 ปี หูหนวกตาบอด พี่ชายก็สติไม่ดี ต้องทนกับค่าเช่าจาก 5,000 บาท ขึ้นทีเดียวเป็นเดือนละ 15,000 ติดมาแล้วกว่า 2 ปี วอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเจรจาชนคนในบ้านและชุมชนอีก 50 หลังที่ต้องจ่ายค่าเช่าแพงเกินรายรับ


เมื่อเดินทางไปถึงยังบ้านของครอบครัวดังกล่าว พบเป็นบ้านเก่าครอบครัว มีฐานะค่อนข้างลำบาก สภาพบ้านก็ยังไม่สมบูรณ์ สร้างยกพื้นสู่เกือบ 1 เมตร มุงด้วยกระเบื้องเก่าหลังคารั่ว ห้องน้ำเก่า อยู่กันจำนวน 8 คน มีหัวหน้าครอบครัวชื่อนางสาววารี แสงทอง อายุ 37 ปี มีลูก 4 คน หลานที่นำมาเลี้ยงอีก 2 คน และต้องดูแลพี่ชายที่สติไม่ดีอีก 1 คนหนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิงอายุ 15 ปี พิการตาบอดหูหนวก ซ้ำยังสามีเก่าที่มีลูก 2 คน แล้วหนีไป และยอมที่จะมีสามีใหม่ซึ่งบอกว่าจะช่วยกันดูแลกันและกันและก็มีลูกด้วยกันอีก 2 คน อยู่ด้วยกัน 2 ปี ก็จากไปอีก ไม่ติดต่อกลับมาดูแลทั้งคนเก่าและคนใหม่ ปล่อยให้แม่เด็กดูแลเพียงคนเดียว จึงเข็ดไม่ยอมมีแฟนหรือหาคนมาดูแลอีกเลย  อีกทั้งยังฐานะยากจนไฟฟ้าถูกตัดไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ จ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 5,000 บาท ติดมาไม่ได้จ่ายเป็นเวลา 2 ปีกว่าแล้ว ซ้ำหนักเจ้าของที่ขึ้นราคาค่าเช่าทีเดียวเป็นเดือนละ 15,000  ไม่มีปัญญาจ่าย วอนหน่วยงานช่วยเจรจาและให้การช่วยเหลือ อยากจะให้ลูกๆเรียนหนังสือด้วย

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 437 หมู่ 7 ชุมชนสุสาน 9 ไร่ ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ (พม.) กาชาดสมุทรปราการ มูลนิธิกิจเลิศไพโรจน์ เข้าให้การช่วยเหลือพร้อมนำถุงยังชีพเครื่องใช้ที่จำเป็นมอบเงินอีกจำนวนหนึ่งให้การช่วยเหลือเบื้องต้นไปก่อน

 ด้านนางสาวประไพ ปิ่นปราณี กรรมการชุมชน บอกว่าทุกวันนี้ครอบครัวของนางสาววารี แสงทอง ค่อนข้างลำบาก รายได้ส่วนใหญ่มาจากแม่ของเด็กที่ทำงานเป็นลูกจ้างขายมือถือบนห้าง พ่อของนางสาววารี แสงทองได้เสียชีวิตไปเกือบ 2 ปี แล้ว จากการล้มจนเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยตอนนี้ลำบากมากขึ้นไปอีกคือไม่มีไฟฟ้าใช้ กลางคืนต้องจุดเทียนให้แสงสว่างล่าสุดตนเองต้องต่อไฟที่บ้านให้ใช้ไปก่อน แม่ของเด็กบอกว่าตอนนี้เป็นห่วงลูกสาวและหลานสาวกลัวคนจะมาทำมิดีมิร้ายให้ ลูกสาววัย 11 ขวบก็เป็นเด็กเรียนเก่ง การเรียนดี ชอบอ่านหนังสือและช่วยดูแลทุกคนในบ้าน จึงอยากส่งลูกให้ได้เรียนสูงๆ ตามที่ตั้งใจไว้