(คืบหน้า)  -หนุ่มหาปลาเจอหญิงแต่งชุดไทยสีเขียวหารถไม่เจอคนใกล้เคียงเคยเจอสิ่งเล้นลับเป็นงูยักษ์ขนาดใหญ่

หนุ่มหาปลา

 (คืบหน้า)  -หนุ่มหาปลาเจอหญิงแต่งชุดไทยสีเขียวหารถไม่เจอคนใกล้เคียงเคยเจอสิ่งเล้นลับเป็นงูยักษ์ขนาดใหญ่





ad1

เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ 5ต.ค.64  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานข่าวคืบหน้ากรณีนายอารีย์ ทำนพ อายุ36ปี อยู่บ้านเลขที่69 ม.7 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี    เห็นหญิงแต่งชุดไทยสีเขียว   ขณะที่กำลังนั่งตอกหลักไม้ไผ่เพื่อดักตาข่ายหาปลาในสระน้ำกลางป่าข้างโรงเรียนร้าง(โรงเรียนประไพปัญญา) สังกัดการศึกษาเอกชนม.1 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี   ตั้งห่างศาลเจ้าพ่อเสือริมแควขโมงประมาณ 300 เมตรเศษหลังจากจ้องมองหญิงแต่งชุดไทยสีเขียว  ก็เกิดมีอาการเหม่อลอย   และนั่งอยู่ตรงขอบสระน้ำ2ชม.

กระทั่งใกล้ค่ำจึงลุกออกจากขอบสระเดินออกมาถนนสาย304(กบินทร์บุรี –นาดี)   แล้วโทรศัพท์บอกให้ภรรยามารับกลับบ้าน ขณะกลับบ้านมีอาการเหม่อลอยดวงตาแข็งกร้าว   ไม่พูดเหมือนคนปกติ     กระทั่งรุ่งเช้าจึงบอกกับภรรยาว่าให้พากันไปตามหารถ  จยย.เพราะจอดไว้ที่หาปลาแต่หาไม่เจอ      ภรรยาและพ่อแม่พากันออกมาหารถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน-ขาวหมายเลขทะเบียน1กฉ7959ปราจีนบุรี ขณะที่ทุกคนเดินเข้ามาบริเวณที่จอดรถทิ้งไว้พากันขนลุก   และเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่ข้างป่ามันสำปะหลังห่างจากจุดที่นายอารีย์นั่งอยู่ขอบสระเพียง10เมตร

นางชลธิชา ลีบุตร ภรรยาได้ออกไปซื้อธูปเทียนมาจุดเพื่อขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง    ที่ดลบันดาลให้พบเห็นรถจยย.ที่ตามหาไม่เห็นตั้งแต่เมื่อค่ำวานที่ผ่านมา    

ขณะที่นายดาวเรือง จันทร์สมดี เจ้าของไร่มันสำปะหลัง    ที่อยู่ข้างที่เกิดเหตุเป็นคนนำจุดธูปเทียนขอขมาต่อเจ้าที่เจ้าทาง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่านายอารีย์ อาจฉี่รถจอมปลวด  หรือ  ตอตะเคียน   หรือพูดจาลบหลู่เจ้าที่เจ้าทาง   จึงทำให้เกิดเรื่องนี้ลับนี้ขึ้น

ล่าสุดช่วงก่อนพลบค่ำ   ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง    ดูตรงจุดที่นายอารีย์นั่งตอกหลักไม้ไผ่สำหรับดักตาข่ายในสระน้ำกว้าง30เมตร ยาว80เมตร ลึก5เมตร    และได้เดินไปสำรวจยังโรงเรียนร้าง  เป็นอาคารปูนชั้นเดียวและ   พบกับคนงานที่มาหักข้าวโพดซึ่งคนงานหักข้าวโพดพูดตรงกับนายอารีย์ที่บอกว่าครั้งแรกตนเองเคยมาหาปลา    เห็นงูใหญ่มากอยู่บริเวณสระน้ำ 

ด้านป้าบังอรเป้าสี นายณัฐวุฒิ วงศ์คำภู คนงานหักข้าวโพดกล่าวว่า    ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาพวกตน   กับเพื่อนคนงาน   มาทำไร่ข้าวโพด   ก็เห็นงูใหญ่ตัวหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่มาก   อยู่บริเวณแห่งนี้   และบางวันมาใส่ปุ๋ยข้าวโพด   ฝนตกเข้าไปหลบฝนในโรงเรียนร้าง    รู้สึกวังเวงอย่างบอกไม่ถูกจนขนลุกเกรียว

จึงพากันออกมาอาศัยอยู่ตามร่มไม้แทน    ยอมรับว่าเข้าไปในโรงเรียนร้างรู้สึกวังเวงและขนลุกอย่างบอกไม่ถูก บริเวณดังกล่าวห่างจากศาลเจ้าพ่อเสือ   ที่เป็นสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีคนแวะเวียนมาเคารพกราบไหว้อยู่ประจำแทบทุกวัน    สิ่งที่นายอารีย์พบเห็นอาจจะเป็นนางตะเคียนมาปรากฏให้เห็นก็เป็นได้

ด้านนายอุดม  แนวสุข นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองกี่ อ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า “สำหรับโรงเรียนร้างดังกล่าว สังกัดการศึกษาเอกชน (โรงเรียนประไพปัญญา)  ก่อตั้งโดยกลุ่มญาติพี่น้อง(ครู)  รวมทุนกัน เป็นนักธุรกิจการศึกษาที่ ต.สำพันตา อ.นาดี  จ.ปราจีนบุรี  แต่จากสภาพภูมิประเทศเป็นที่ลุ่มต่ำใกล้แควขโมง จึงถูกน้ำท่วมระดับสูงทุก ๆ ปี  และยุบโรงเรียนมากว่า 10ปีแล้ว

สำหรับศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิเป็นที่เคารพสักการะอีกแห่งหนึ่งของชาวอ.กบินทร์บุรี อ.นาดี และใกล้เคียง เป็นเส้นทางเดินกองทัพผ่านของกองทัพไทย   ในการปกป้องประเทศทั้งเดินทัพไปโจมตีหัวเมืองประเทศราชอาทิ ประเทศลาว  หรือ ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และรัตนโกสินทร์ตอนต้น

เห็นมาก่อนหน้านี้กว่า 70 ปี  โดยบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของโรงเลื่อย หริตวรณ์ ตลอดแควขโมงจะเป็นเส้นทางล่องท่อนซุงทั้งต้นลงมาจากผืนป่าดงพญาเย็น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลานก่อนล่องต่อไปแควหนุมาน และมาลงที่ต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี

ทุก ๆ ปีทางโรงเลื่อยจะจัดพิธีบวงสรวงใหญ่ด้วยเครื่องเซ่นไหว้ หัวหมู ข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน อาหารคาว หวาน ผลไม้ยิ่งใหญ่ทุก ๆ ปี  และมีสิ่งศักดิ์สิทธิหลายอย่าง อาทิ เจ้าพ่อเสือที่คนมักไปขอพร โฃชคลาภ เจ้าแม่ตะเคียนให้เลขเด็ดถูกกันจำนวนมาก