"ป๋าชู" นำข้อมูลแก๊งจีนเทามอบให้ "รังสิมันต์" ซักฟอกรัฐบาล- รังสิมันต์ ลั่นพร้อมฟาด หากถูกดำเนินคดีจะไปอภิปรายต่อที่ศาล

ศึกซักฟอกรัฐบาล

"ป๋าชู" นำข้อมูลแก๊งจีนเทามอบให้ "รังสิมันต์" ซักฟอกรัฐบาล- รังสิมันต์ ลั่นพร้อมฟาด หากถูกดำเนินคดีจะไปอภิปรายต่อที่ศาล





ad1

11 ม.ค. 2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมือง นำข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มนายทุนสีเทา มาให้กับนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้นำไปใช้อภิปรายทั่วไปรัฐบาล แบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 โดยนายชูวิทย์ระบุข้อมูลที่นำมาให้นายรังสิมันต์วันนี้ไม่เคยเปิดเผยกับสื่อมวลชนมาก่อน และมั่นใจว่าจะสามารถล้มรัฐบาลได้ ซึ่งการที่ตัดสินใจนำข้อมูลมาให้นายรังสิมันต์ เพราะนายรังสิมันต์ มีประวัติเคยอภิปรายเรื่องตำรวจ และกระบวนการทุจริตต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทยกลางที่ประชุมสภาฯมาแล้ว

โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า มั่นใจว่ามีข้อมูลสำคัญ ไม่เคยเปิดเผยกับสื่อมาก่อน เป็นข้อมูลที่ตนคิดว่าควรที่จะนำมาพูดในสภา เพราะนายรังสิมันต์เป็นผู้แทนราษฎร ส่วนตนจะพูดอย่างไรก็ได้แค่นั้นเพราะตนพูดอยู่ข้างนอก จึงได้นำข้อมูลมาให้นายรังสิมันต์พิจารณาแต่จะรับหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ ซึ่งตนเป็นแค่ประชาชนเมื่อไม่มีใครติดต่อตน ตนก็มาที่นี่โดยตนเอง ทั้งนี้ นายรังสิมันต์พูดเรื่องตำรวจ หรือเรื่องผิดปกติของสังคมไทย หนึ่งในนั้นตนแน่ใจว่าเป็นเรื่องนี้ จึงได้นำเรื่องนี้มาให้นายรังสิมันต์พิจารณา

ส่วนนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอขอบคุณนายชูวิทย์ ข้อมูลที่นำมาให้เหมือนเป็นการฟ้องรัฐบาล ถ้ารัฐบาลเลือกยุบสภาก่อนแสดงว่าข้อกล่าวหานี้เป็นความจริงใช่หรือไม่ รัฐบาลต้องคิดให้ดี ประเด็นการเปิดโปงขบวนการทุนจีนสีเทานั้น ตนและพรรคก้าวไกลสนใจเรื่องนี้และได้ตั้งทีมศึกษารายละเอียดของขบวนการดังกล่าวแล้ว ยืนยันจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อนำมาอภิปรายในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 โดยขอให้ประธานและรองประธานสภาที่ควบคุมการประชุม ให้ความมั่นใจแก่เราว่ากำลังทำหน้าที่เพื่อประชาชนและประเทศ และเห็นถึงความจำเป็นที่การพูดเรื่องนี้จะต้องเอ่ยถึงบุคคลที่สาม เนื่องจากประเด็นทุนจีนสีเทาเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก

“เทคนิคประจำที่ใช้ในสภาคือการประท้วง เป็นรูปแบบที่ไม่สร้างสรรค์ เราในฐานะผู้อภิปรายจะทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด แต่ถ้ามีความจำเป็น พรรคก้าวไกลและผมก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหากมีการฟ้องร้อง เราไม่กลัว เพราะก่อนจะมีการอภิปรายเรื่องใด เรามั่นใจว่าได้ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานอย่างเต็มที่แล้ว หากมีการดำเนินคดีก็พร้อมอภิปรายเรื่องนี้ต่อในศาล” นายรังสิมันต์ กล่าว