พณ.ขอนแก่น ลุยตรวจท่าข้าว หวั่นนายทุนเอาเปรียบซ้ำเติมทุกข์เกษตรกรข้าวตกต่ำ

พณ.ขอนแก่น ลุยตรวจท่าข้าว หวั่นนายทุนเอาเปรียบซ้ำเติมทุกข์เกษตรกรข้าวตกต่ำ





ad1

ขอนแก่น- พณ.ขอนแก่น ลุยตรวจท่าข้าว หวั่นนายทุนเอาเปรียบเกษตรกรซ้ำเติมทุกข์ยุคราคาข้าวตกตกต่ำ ขณะที่ราคารับซื้ออยู่ที่ กก.ละ 6.70 บาท วอนรัฐแก้ปัญหาด่วน

นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย น.ส.นงศ์นุช อุดมคำ ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรฐกิจการค้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อข้าวเปลือกตามฤดูกาลเก็บเกี่ยว 2564 ที่   ท่าข้าวนวคูณ  ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 150 ม.4 ถ.ทางหลวงชนบท1027 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าราคารับซื้อปีนี้ปรับตัวลดลงเนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมทำให้เกาตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตเร็วกว่ากำหนด 

นายอนุพงษ์ เมืองซอง อายุ35 บ้านเลขที่18 ม.11 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า  ไม่เคยขายข้าวราคาต่ำขนาดนี้มาก่อน โดยนำข้าวเปลือกมาจำหน่ายวันนี้ราคาอยู่ที่  6.70 บาท ต่อ กก. ซึ่งราคาแบบนี้จำใจต้องขายไม่ยอมก็ต้องยอมเพราะข้าวใหม่จะออกมาแล้วขายเสร็จต้องไปจ้างรถเกี่ยว ราคาที่ขายจึงไม่คุ้มแต่ต้องยอมรับให้ได้เพราะได้ราคาสูงที่สุดแล้วในปีนี้  เดิมในช่วงที่ผ่านมา ราคาข้าวเหนียวเคยจำหน่ายได้ที่ 13 บาทต่อกิโลกรัมเป็นอย่างต่ำ แต่ตอนนี้ราคาหายไปกว่าครึ่ง ขณะที่ราคาข้าวเจ้าเคยได้อยู่ที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม  แต่ตอนนี้ลงมาเหลือ 6 บาทต่อกิโลกรัม

" ถ้าหักจากต้นทุนก็จะเหลือไม่เท่าไรเพราะเราต้องทำไว้กินด้วย ปุ๋ยก็ขึ้นน้ำมันก็ขึ้นสินค้าต่างๆขึ้นหมดถ้าราคาอยู่อย่างงี้คงไม่คุ้ม แต่ก็ต้องทำต่อไปเพราะปู่ย่าตายายพาทำมาก็ต้องทำต่อไป อยากจะฝากถึงรัฐบาลให้เห็นใจชาวนาทุกอย่างขึ้นราคาหมดแต่ข้าวราคาลง น้ำมันก็ขึ้น ภาษีก็ขึ้น ของใช้ขึ้นราคาหมดทุกอย่างแต่ข้าวทำไมถูกจังประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม อยากให้ราคาอยู่ที่ประมาณ 10 บาทขึ้นมาไปชาวนาก็จะได้พออยู่ได้ไม่เดือดร้อนเหมือนทุกวันนี้ที่เป็นอยู่"

ขณะที่ นางนวพร คำแก่นคูณ เจ้าของท่าข้าวนวคูณ กล่าวว่า ปีนี้ข้าวเหนียวจะเยอะต่อให้น้ำท่วมก็ไม่กระทบเท่าไรเพราะไม่ได้ท่วมจากน้ำฝนแต่ท่วมจากน้ำที่เขื่อนปล่อยมาเป็นช่วงระยะสั้น ผลผลิตอาจจะเสียหายแต่คงไม่เยอะ ราคาข้าวที่มีข่าวว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมนั้นเป็นข้าวนาปรัง ซึ่งขอนแก่นจะปลูกมากในพื้นที่บริเวณหลังเขื่อนอุบลรัตน์ ขณะเดียวกันราคาข้าว 5 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเพราะเกษตรกรเก็บเกี่ยวก่อนกำหนดทำให้ข้าวไม่สมบูรณ์และจำเป็นต้องเก็บเกี่ยวหนีน้ำ ซึ่งท่าข้าวและจุดรับซื้อก็จำเป็นต้องซื้อในราคาข้าวที่ไม่ได้มาตรฐาน

" ข้าวกลุ่มนี้จะไม่เต็มเม็ดเป็นข้าวอ่อนได้ผลผลิตดีกว่าไม่ได้ ถ้าเป็นราคาข้าวนาปรังตามฤดูกาลจริงๆจะอยู่ที่ประมาณ 8 บาทต่อกิโลกรัม พอเป็นข้าวที่แห้ง จะอยู่ที่ 10-11 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาข้าวเหนียวนาปรังเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาราคาสูงมาตลอดพึ่งจะมากระทบเมื่อเจอโควิด-19 ที่ร้านอาหารปิด แรงงานต่างๆถูกเลิกจ้าง ซึ่งเมื่อไม่มีการจ้างงานเกิดขึ้นแรงงานก็กลับมาอยู่บ้านทำให้ข้าวสารขายไม่ได้เลยกระทบเป็นห่วงโซ่ เช่นเดียวดกันกับโรงสีก็กระทบเพราะไม่มีการซื้อ-ขาย เกิดขึ้น"

ด้าน นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า  ขอนแก่นมีผลผลิตข้าวแต่ละปีแบ่งเป็นข้าวเหนียวประมาณ 540,000 ตัน ข้าวหอมมะลิ 160,000 ตัน ส่วนราคาข้าวเปลือกที่รับซื้อวันนี้ ข้าวเปลือกเหนียว กข.6สด ราคา 7,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียว กข.6 เก่า ราคา 6,700 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้ามะลิสด ราคา 8,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้าเก่า ราคา 9,500 บาทต่อตัน แต่ปีนี้เกษตรกรประสบปัญหาน้ำท่วม ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ  กำลังประเมินความเสียหาย สำหรับผลิตในปีนี้คาดว่าข้าวหอมมะลิจะออกสู่ตลาดประมาณอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า และข้าวเหนียวก็จะออกสู่ตลาดประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 

"จากสถานการณ์ราคาข้าวที่ปรับตัวลดลงแต่ก็เป็นไปตามการเปิดราคาเท่านั้นเพราะยังไม่ได้เก็บเกี่ยวตามช่วงระยะเวลา และจากการสอบถามโรงสีและผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อเกษตรกรนำข้าวออกมาสู่ตลาดช่วงหลังเก็บเกี่ยวราคาจะปรับตัวสูงขึ้น ส่วนโครงการประกันรายได้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศราคาอ้างอิงไปแล้วและได้กำหนดเกณฑ์ราคาไปแล้วในงวดแรกในวันที่ 4-15 ต.ค. ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าราคาชดเชยค่อยข้างมากพอสมควรส่วนมาตรการช่วยเหลืออื่นมาตรการคู่ขนานไม่ว่าจะเป็นการดึงปริมาณข้าวไว้ที่โรงสีโดยการชดเชยดอกเบี้ยโดยการเก็บสต๊อกข้าวรวมทั้งมีเกษตรกรที่จำเป็นต้องเอาข้าวมาขายจะมีมาตรการตามกลไกการตลาด 4 ครั้ง รวมทั้งส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนแปรรูปเป็นข้าวสารและแปรสภาพเป็นอาหารในประเภทต่างๆอีกด้วย"