ฆาตกรรมสะเทือนขวัญทั้งเกาะไต้หวันและในไทย คนไทยฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้องเสียชีวิต 4 ศพ หมกท้ายรถ

คนไทยฆาตกรรมสองสามีภรรยาหมกท้ายรถที่ไต้หวัน

ฆาตกรรมสะเทือนขวัญทั้งเกาะไต้หวันและในไทย  คนไทยฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้องเสียชีวิต 4 ศพ หมกท้ายรถ





ad1

12 มิ.ย. 2565    จากกรณีเกิดเหตุคนไทยฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้อง 4 ศพ ซึ่งเป็นข่าวสยองขวัญดังไปทั่วเกาะไต้หวัน ที่คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเองในประเทศไต้หวัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่่ผ่านมา สืบเนื่องจากมีคนรายงานว่า สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง(HSR) เขตเถาหยวน ที่บริเวณที่จอดรถพบกลิ่นเหม็นฟุ้งตลบอบอวน ต่อมาตำรวจได้มาที่เกิดเหตุ พบรถBMW สีขาว ท้ายรถมีกลิ่นเหม็นฟุ้งออกมา และพบคราบน้ำเหลืองซึมไหลออกจากท้ายรถ

เมื่องัดท้ายรถพบศพ2 ศพ ชาย1หญิง1 คาดอายุประมาณ 30-40ปี สภาพศพเสียชีวิตมานานกว่าหลายชั่วโมง ที่ศรีษะมีถุงพลาสติกคลุม และมีการถูกตีด้วยของแข็ง มีเลือดไหลจำนวนมาก ตำรวจตั้งสันนิษฐานว่าถูกฆาตกรรม จากการสืบสวน ฝ่ายหญิงเดิมเป็นชาวไทยต่อมาได้สัญชาติไต้หวันและฝ่ายชายเป็นชาวไทยถือบัตรพำนักARC(ผู้ย้ายถิ่นใหม่) จากการชันสูตรศพ ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์แฝดชาย-หญิง อายุครรภ์5เดือน หลังจากการสืบพบภาพวงจรปิด คาดว่าฆาตกรเป็นชาวไทย(จังหวัดเชียงราย)เช่นกัน ที่อยู่ไต้หวันมานานแล้ว และได้ถือสัญชาติไต้หวัน คาดว่าผิดใจกันเรื่องเงินกับผู้ตายจึงลงมือฆ่า2 ศพ 4 ชีวิต(ลูกแฝด2ในครรภ์) ด้านญาติของครอบครัว 2สามี-ภรรยาผู้ถูกฆาตกรรมนั้น ได้เเจ้งความกับตำรวจท้องที่เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากติดต่อผู้ตายไม่ได้ ทางตำรวจได้ตามกล้องวงจรปิด จนพบศพของทั้งคู่ 
-ฝ่ายหญิงแซ่หลี่(ผู้ตาย) ได้รู้จักกับฆาตกรรายนี้ เนื่องจากเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาและเป็นเพื่อนร่วมบ้านเกิด นางหลี่ผู้ตายเป็นคนไทยเกิดเมื่อปีพ.ศ2529 ต่อมาเดินทางมายังไต้หวันเพื่ออาศัยอยู่กับมารดา และต่อมายื่นขอเพื่อขอสัญชาติไต้หวัน และได้ทำธุรกิจในไต้หวัน   ตามรายงานข่าวตำรวจสันนิษฐาน ฆาตกรมีปากเสียกับสามี-ภรรยา ในเรื่องผลตอบแทน จึงมีการนัดคุยกันในวันที่8/6 เขตนิวไทเป-ถู่เฉิงซึ่งเป็นที่พักของฆาตกร แต่แล้วคาดว่าไม่ลงตัวเกิดมีปากเสียงและนำไปสู่การฆาตกรรม  จนท.ไต้หวันรายงานว่า ฆาตกรน่าจะไม่พอใจที่ตนเป็นเหมือนแค่ลูกน้องและได้ผลตอบแทนเงินเป็นรายเดือนประจำ (ซึ่งฆาตกรเองก็ทำงานที่โรงงานในฐานะคนดูแลแรงงานควบไปด้วย) แต่ไม่มีส่วนร่วมในหุ้นส่วน รวมถึงเรื่องบัญชีที่ไม่ลงตัว ทางผู้ก่อนเหตุคิดว่าเงินที่ได้ควรมากกว่านี้ จึงได้ลงมือฆ่าทั้งคู่ทิ้งแล้วหลบหนีกลับประเทศไทยทันที

ตามรายงาน จากกล้องวงจรปิดเมื่อวันที่9ที่ผ่านมา ช่วงราวตี4 พบนายหวังขับรถ BMW สีขาวทิ้งไว้ที่จอดรถบริเวณสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเขตเถาหยวนต่อมาได้เรียกแท๊กซี่ออกจากที่เกิดเหตุไป
และในวันที่9 วันเดียวกันช่วงเช้า ได้เรียกแท็กซี่อีกครั้งไปยังสนามบินนานาชาติเถาหยวนเพื่อหลบหนีออกนอกประเทศ โดยนั่งสายการบินสตาร์ลักซ์ JX741 เวลา10:40น. และได้ถึงกรุงเทพเมื่อเวลา 13:30น. ทางการไต้หวัน(สถานีตำรวจเขตนิวไทเป สถานที่เกิดเหตุ) ขอความร่วมมือจากทางการไทยในการตามจับผู้ร้ายรายนี้ เพื่อกลับมาดำเนินคดีในไต้หวัน

  ด้านไทเปไทม์ สื่อท้องถิ่นในไต้หวันรายงานว่า ญาติของสองสามีภรรยาผู้เสียชีวิต นิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณ บริเวณที่จอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิตทั้งสอง ซุกอยู่ท้ายรถหรูของตนเอง ด้านหัวหน้าหน่วยสืบสวนสอบสวน คดีอาชญากรรมไต้หวัน ให้ข้อมูลล่าสุดที่อาจเป็นชนวนเหตุสังหารว่า ผู้ต้องสงสัยยื่นข้อเรียกร้องไปยังผู้ตาย ขอเพิ่มส่วนแบ่งผลประโยชน์ จากธุรกิจที่พวกเขารวมกันทำ หรือขอให้ตนเองขยับขึ้นเป็นหุ้นส่วน แต่สองสามีภรรยาผู้เสียชีวิตยังคงให้ผู้ต้องสงสัยเป็นพนักงานรับเงินเดือนของบริษัทตามปกติ ทำให้ผู้ต้องสงสัยไม่พอใจ นัดมาเจรจาก่อนทำร้ายทั้งสองด้วยการใช้ของแข็งทุบตีศีรษะจนเสียชีวิต

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลกับตำรวจไต้หวัน พบว่า ผู้ต้องสงสัยเดินทางจากไทยไปไต้หวัน เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 หลังจากก่อเหตุได้เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 หลังลงครื่องที่ไทยแล้ว ยังไม่ทราบเดินทางไปที่ใดต่อ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวน โดยปูพรมค้นหาทุกสถานที่ที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยจะเดินทางไป